ขยับเกมข้าว เชื่อมรัฐ-เกษตรกร-ตลาดโลก ในปีแห่งโอกาส

รัฐแจกปุ๋ย-ดันส่งออก ห่วงโซ่อุปทานข้าวไทยกำลังดีขึ้นจริงหรือไม่?
จุดเปลี่ยนในนโยบายข้าว ไม่ใช่แค่เรื่องการค้า แต่คือระบบเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงทั้งห่วงโซ่
การส่งออกข้าวไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเผชิญความท้าทายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันจากประเทศคู่แข่งอย่างเวียดนามและอินเดีย ราคาตลาดโลกที่ผันผวน หรือแม้กระทั่งสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลต่อปริมาณผลผลิต แต่ในปี 2568 สัญญาณเชิงบวกเริ่มกลับมาอีกครั้ง เมื่อกระทรวงพาณิชย์ประกาศเดินหน้านโยบายเชิงรุกทั้งการผลักดันตลาดต่างประเทศและการลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร
ข้าวไทยเวทีโลก TRC 2025 กับโอกาสปิดดีลแสนตัน
หนึ่งในหมุดหมายสำคัญของนโยบายนี้คือการจัดประชุม Thailand Rice Convention 2025 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 25–27 พฤษภาคมนี้ โดยเป็นการรวมตัวของผู้ซื้อข้าวรายใหญ่จากหลายภูมิภาคทั่วโลก ทั้งอเมริกาใต้ แอฟริกา ตะวันออกกลาง ตลอดจนผู้นำเข้ารายใหม่ๆ ที่กำลังสนใจข้าวไทย
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การจัดงาน TRC 2025 เป็นโอกาสสำคัญในการผลักดันคำสั่งซื้อข้าวจากต่างประเทศ โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถสร้างคำสั่งซื้อได้ไม่น้อยกว่า 100,000 ตัน หรือประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพข้าวไทยในตลาดโลก และขยายโอกาสรายได้กลับสู่ชาวนาไทย
ไม่ใช่แค่ส่งออก แต่ต้นน้ำต้องเข้มแข็ง
ขณะที่ปลายน้ำกำลังขยายตลาด รัฐบาลก็ไม่ลืมต้นน้ำ โดยเฉพาะการดูแลต้นทุนการผลิตของเกษตรกร นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเดินหน้าโครงการ “พาณิชย์ลดราคาปุ๋ยเคมีเพื่อเกษตรกร ปี 2568” ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญในการลดภาระต้นทุนให้กับชาวนาไทย
โครงการนี้ครอบคลุมปุ๋ยเคมีถึง 79 สูตร ลดราคาเฉลี่ย 20–50 บาทต่อกระสอบ รวมปริมาณมากกว่า 10 ล้านกระสอบ คิดเป็น 503,000 ตัน และเปิดให้เกษตรกรสั่งซื้อผ่านสหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชน และศูนย์ดินปุ๋ยในพื้นที่ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนถึงกันยายน 2568
ข้อมูลล่าสุดระบุว่า มียอดสั่งซื้อแล้วกว่า 1 ล้านกระสอบ ช่วยลดต้นทุนไปได้ราว 30 ล้านบาท สะท้อนถึงความต้องการในภาคเกษตรที่ยังคงรอการสนับสนุนเชิงโครงสร้าง
รายย่อยไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
อีกหนึ่งนโยบายที่น่าสนใจคือการผลักดันผู้ประกอบการรายย่อยให้เข้าสู่ตลาดส่งออก โดยภายหลังงาน TRC 2025 กรมการค้าต่างประเทศจะนำนักค้าข้าวรายย่อยจากแหล่งปลูกหลักจำนวน 16 ราย เข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX – Anuga Asia 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27–31 พฤษภาคมนี้
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า นโยบายนี้จะช่วยเพิ่มช่องทางจำหน่าย และเชื่อมโยงกลุ่มรายย่อยเข้ากับห่วงโซ่อุปทานโลก โดยคาดว่าจะเกิดคำสั่งซื้อรวมมากกว่า 500 ล้านบาท และยังอยู่ระหว่างการเจรจาขยายตลาดกับผู้นำเข้ารายสำคัญอย่างฟิลิปปินส์และญี่ปุ่นอีกด้วย
ข้าวไทยในฐานะ “แหล่งอาหารโลก”
ในช่วงที่สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์หลายภูมิภาคยังเปราะบาง ประเทศผู้นำเข้าหลายแห่งหันมามองหาประเทศผู้ผลิตที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ไทยจึงมีโอกาสวางตำแหน่งตนเองเป็นแหล่งอาหารที่มั่นคงในเวทีโลก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ย้ำว่า การแสดงความพร้อมเชิงระบบ ทั้งด้านการค้า การผลิต และมาตรฐานสินค้า คือแนวทางที่จะขับเคลื่อนความมั่นคงทางอาหารของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
แม้นโยบายเหล่านี้จะยังอยู่ในช่วงต้นของการขับเคลื่อน แต่ก็สะท้อนถึงความพยายามของภาครัฐที่จะฟื้นฟูข้าวไทยในมิติที่ครอบคลุมทั้งระบบ และหวังให้ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำเติบโตไปด้วยกัน โดยมีเกษตรกรเป็นศูนย์กลางของความเปลี่ยนแปลง