สำรวจ ‘เครื่องแบบนักเรียน’ ต่างประเทศเขาใส่อะไรกัน
นับว่าเป็นกระแสร้อนแรงที่กำลังถูกพูดถึงอยู่ในขณะนี้ สำหรับประเด็นการถกเถียงเรื่องการ ยกเลิก ‘เครื่องแบบ ชุดนักเรียน’ โดยระบุว่าเครื่องแบบสร้างภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้ปกครอง ขณะนี้ที่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยระบุว่าอาจเป็นการตอกย้ำความเหลื่อมล้ำระหว่างเด็กมากขึ้น
เรามาดูกันว่าในประเทศต่างๆโดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว มีเรื่องราวความเป็นมาเกี่ยวกับชุดเครื่องแบบชุดนักเรียนอย่างไร นักเรียนใส่อะไรกันไปโรงเรียน และปัจจุบันเครื่องแบบยังบังคับใช้อยู่หรือไม่
1.ชุดนักเรียนญี่ปุ่น
ชุดนักเรียนญี่ปุ่นมีประวัติความเป็นมายาวนานถึง 150 ปี มีจุดกำเนิดมาจากต้องการแสดงสัญลักษณ์ว่านักเรียนคนดังกล่าวมาจากชุมชนใด
เครื่องแบบนักเรียนญี่ปุ่นจะเริ่มใส่ตั้งแต่มัธยมศึกษาตอนต้น แรกเริ่มจะคล้ายชุดกะลาสี ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยเมจิ เลียนแบบมาจากชุดนาวีของยุโรป ปัจจุบันได้มีการปรับเปลี่ยน ไปตามที่โรงเรียนจะออกแบบ ส่วนใหญ่จะให้กำหนดให้นักเรียนใส่เชิ้ตขาว ผูกเน็คไท พร้อมแจ็คเก็ตที่มีตราโรงเรียน มีการเปลี่ยนเครื่องแบบตามฤดูกาล ซึ่งจะมีตารางกำหนดชัดเจน
2.ชุดนักเรียนอังกฤษ
ชุดนักเรียนอังกฤษมีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าเฮนรี่ ที่ 8 โดยแรกเริ่มใช้แบ่งแยกนักเรียนที่ยากจน กับโรงเรียนอื่น อีก 300 ปีต่อมา โรงเรียนรัฐบาลเริ่มให้นักเรียนใส่เครื่องแบบ บลูโค้ท คือ เสื้อโค๊ทยาวคล้ายแจ๊กเกตสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีที่ถูกที่สุด และ สีน้ำเงินเป็นสีที่แสดงถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน
ต่อมาในปี 1870 เครื่องแบบนักเรียนได้รับความนิยมมากขึ้นมีการออกระเบียบการศึกษาขั้นต้น โดยเครื่องแบบจะเป็น เสื้อสูท เน็คไท กางเกงขายาวสุภาพ อย่างไรก็ตาม ในปี 1960 มีการปฏิวัติสังคม ทำให้เครื่องแบบไม่เป็นที่นิยมมากนัก มีหลายโรงเรียนยกเลิกการสวมใส่เครื่องแบบ
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันการสวมใส่เครื่องแบบยังมีอยู่ โดยเฉพาะโรงเรียนรัฐบาล ซึ่งมีอยู่ถึง 4 หมื่นแห่ง โดยโรงเรียนแต่ละแห่งเครื่องแต่งกายจะคล้ายๆกัน
ผู้ชายจะเป็นกางเกงขายาว เสื้อเชิ้ตแขนยาว มีเนคไท สเวตเตอร์ตามสภาพอากาศ สำหรับผู้หญิงก็เป็นกระโปรงที่กำหนดความยาว เชิ้ต เนคไท และสเวตเตอร์ ที่แตกต่างกันคือสีที่จะต่างกันไปในแต่ละโรงเรียน
โรงเรียนบางแห่งจะมีการเพิ่ม เบลเซอร์ เข้าไปในชุดเครื่องแบบด้วย และมีตราสัญลักษณ์ของสถานศึกษาติดอยู่
3.ชุดนักเรียนเกาหลีใต้
นักเรียนในระดับมัธยมศึกษาของเกาหลีใต้ จะสวมเครื่องแบบที่เรียกว่า กโยบก โดยส่วนใหญ่แล้วโรงเรียนในระดับประถมศึกษายกเว้นโรงเรียนเอกชนบางแห่งจะไม่มีเครื่องแบบนักเรียน โดยเครื่องแบบนักเรียนนี้จะเริ่มถูกกำหนดให้ใส่อย่างเคร่งครัดโดยเริ่มตั้งแต่นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นขึ้นไป
ส่วนใหญ่ประกอบไปด้วย เสื้อเชิ้ต, เสื้อสูทและเนคไท พร้อมด้วยกระโปรงสำหรับนักเรียนหญิงและกางเกงขายาวสีเทาสำหรับนักเรียนชาย
เครื่องแบบนักเรียนนี้ดาราผู้มีชื่อเสียงมักสวมใส่เพื่อเจาะตลาดวัยรุ่นหรือเพื่อขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความบันเทิงที่ให้วัยรุ่น ด้วยเหตุนี้เองเครื่องแบบนักเรียนจนกลายเป็นบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกันในการแสดงลักษณะออกในลักษณะของแฟชั่นระหว่างนักเรียนด้วยกัน
4.ชุดนักเรียนฝรั่งเศส
ประเทศฝรั่งเศสมีการยกเลิกเครื่องแบบนักเรียนตั้งแต่ปีพ.ศ.2511จนกระทั่งมาปีพ.ศ. 2561 มีการกลับมาใช้ยูนิฟอร์มอีกครั้ง โดย 6 โรงเรียนในรัฐโปรแวงส์ ได้เห็นชอบให้นักเรียน อายุ 6-11 ปี กลับมาสวมเครื่องแบบนักเรียนอีกครั้ง หลังเปิดให้ผู้ปกครองโหวตแสดงความเห็น
โดยเป็นเสื้อโปโลสีน้ำเงินเข้ม และสเวตเตอร์สีฟ้า ปักตราเมืองและคำขวัญ การรื้อฟื้นการสวมเครื่องแบบนี้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดความภาคภูมิใจในการเรียนและส่งเสริมให้เกิดความเท่าเทียมระหว่างเด็ก
5.ชุดนักเรียนอเมริกา
โรงเรียนส่วนใหญ่ในอเมริกา ไม่มีการบังคับใช้การสวมใส่ยูนิฟอร์ม แต่จะมีกฎบังคับบ้างอย่างเช่น ความสั้นยาวของกระโปรง รอยสักต่างๆเป็นต้น ค่อนข้างมีเสรีภาพในการแต่งตัวของเด็กนักเรียน
อย่างไรก็ตาม ชุดยูนิฟอร์มมีกระแสความนิยมเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมตั้งแต่ปี ปี2000 เป็นต้นมา มีเปอร์เซ็นของโรงเรียนที่บังคับให้ใส่ชุดนักเรียนนั้น เพิ่มขึ้นทุกๆปี จนถึงปี 2016 ที่มีมากถึง 21.5%
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline