"แอ่งกระทะ-ฝน 300 ปี" เปิดปัจจัยมหันตภัย เบื้องหลังมหาอุทกภัยหาดใหญ่-ภาคใต้

อยู่หาดใหญ่ทำไมต้องกลัวน้ำท่วม แต่น้ำท่วมใหญ่ปี 2568 มันมาจากหลายปัจจัยทับซ้อนกัน

หาดใหญ่ เมืองหลวงแห่งภาคใต้ มีภูมิประเทศเป็นแอ่งกะทะ มีคลองอู่ตะเภาเป็นคลองสายหลัก ที่รับน้ำจากป่าต้นน้ำจากพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงห้วย หนอง คลอง และน้ำจากเขาคอหงส์ ที่ต้องไหลผ่านเมืองหาดใหญ่ ก่อนระบายออกสู่ทะเลสาบสงขลา

หาดใหญ่จึงเป็นภูมิประเทศแอ่งกระทะ ที่รับน้ำ 2 ทางตลอดเวลา ยิ่งฝนตกหนักสุดในรอบ 300 ปี ตามหลักสถิติอุทกศาสตร์ ทำให้หาดใหญ่รับน้ำ 3 ทางอย่างหนัก

แล้วเมื่อเกิดน้ำทะเลหนุน ก็ยิ่งทำให้น้ำระบายออกไม่ทัน

อีกปัจจัยที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทำให้น้ำขังในหาดใหญ่ คือ การพัฒนาของเมือง ผศ.ดร.สมพร ช่วยอารีย์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยว่า 

หาดใหญ่เหมือนเป็นถาดที่มีขอบ ลาดเอียงเล็กน้อยโดยทางด้านขวาสูงกว่าด้วยภูมิประเทศเขาคอหงส์ เมื่อฝนตกมาก น้ำจึงไหลเข้าเมือง แต่เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางเป็นล็อก ๆ น้ำจึงสะสมอยู่ในเขตเมือง

น้ำท่วมในหาดใหญ่ตอนนี้ จึงเหมือนท่วมเป็นล็อก ๆ คั่นด้วยอาคารในเมือง

หาดใหญ่เป็นพื้นที่น้ำท่วมบ่อยครั้ง และเคยเกิดน้ำท่วมใหญ่มา 3 รอบ คือปี 2531 ปี 2543 และปี 2553 มูลค่าความเสียหายแต่ละครั้งมหาศาลหลายพันล้านบาท 

ปี 2568 ถือได้ว่าเป็นมหาอุทกภัยครั้งรุนแรงสุดของหาดใหญ่และภาคใต้ในรอบ 25 ปี และสถานการณ์ยังน่าวิตก เพราะไม่เพียงน้ำ 3 ทางเติมเข้ามาหาดใหญ่ต่อเนื่อง แต่ฝนเองก็ยังตกหนักเช่นกัน 

ทำให้เราเห็นภาพประชาชนจำนวนมาก โพสต์สังคมออนไลน์ ขอความช่วยเหลือต่อเนื่อง เพราะติดอยู่บนหลังคาหรือชั้นบนของบ้าน อาหารขาดแคลน แบตเตอรีมือถือก็หมด ทำได้เพียงรอความช่วยเหลือ ที่ก็เข้าถึงได้ไม่เต็มที่ 

ซ้ำร้าย คาดการว่า หากฝนยังตกไม่หยุดเช่นนี้ อาจต้องใช้เวลาถึง 2 สัปดาห์ ถึงจะระบายน้ำออกไปจากพื้นที่ได้