รีเซต

น้ำท่วมหาดใหญ่ 2568 ทำภาคใต้สูญวันละ 1,500 ล้านบาท

น้ำท่วมหาดใหญ่ 2568 ทำภาคใต้สูญวันละ 1,500 ล้านบาท
TNN ช่อง16
25 พฤศจิกายน 2568 ( 17:05 )
8

วิกฤตเศรษฐกิจจากน้ำท่วมหาดใหญ่ เมื่อเมืองศูนย์กลางภาคใต้ชะงักทั้งระบบ

อุทกภัยใหญ่ในอำเภอหาดใหญ่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2568 ไม่ได้สร้างผลกระทบแค่ภาพถนนจมใต้น้ำหรือสนามบินที่ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว แต่กำลังกระทบโครงสร้างเศรษฐกิจของทั้งภาคใต้ในระดับลึก

หาดใหญ่ ในฐานะเมืองศูนย์กลางการค้า การท่องเที่ยว และโลจิสติกส์ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความเสียหายเป็นลูกโซ่ที่ลามไปถึงรายได้แรงงาน ยอดขายธุรกิจ โรงแรม ร้านอาหาร ไปจนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะยาว

เมื่อมองผ่านตัวเลขจากหน่วยงานเศรษฐกิจ ภาพที่ปรากฏคือภาคใต้กำลังสูญเสียเม็ดเงินวันละหลักพันล้านบาท ขณะที่หาดใหญ่เองต้องรับสถานะเมืองด่านหน้าของวิกฤตในครั้งนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้

ตัวเลขความเสียหายที่เพิ่มขึ้นทุกวัน

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจใน 10 จังหวัดภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอยู่ในช่วงประมาณวันละ 1,000 ถึง 1,500 ล้านบาท ครอบคลุมจังหวัดสุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่พึ่งพาการท่องเที่ยว การค้า และบริการเป็นหลัก

ในมุมของจังหวัดสงขลาและหาดใหญ่ หอการค้าจังหวัดสงขลาและหน่วยงานด้านภัยพิบัติประเมินสอดคล้องกันว่า หากน้ำท่วมขังต่อเนื่องราว 1 ถึง 2 สัปดาห์ ความเสียหายทางเศรษฐกิจเฉพาะพื้นที่นี้อาจสูงเกิน 500 ล้านบาท โดยมูลค่าที่ประเมินรวมทั้งการหยุดชะงักของธุรกิจ การยกเลิกการเดินทาง และค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูทรัพย์สินของประชาชนและผู้ประกอบการ

หากสถานการณ์ลากยาวไปถึงระดับ 1 เดือน นักเศรษฐศาสตร์บางส่วนเตือนว่า ภาคใต้ทั้งภูมิภาคอาจเผชิญความเสียหายรวมระดับ 10,000 ถึง 15,000 ล้านบาท ซึ่งทับซ้อนกับช่วงไฮซีซันที่หาดใหญ่และสงขลามักต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจากมาเลเซีย


เมื่อเมืองท่องเที่ยวต้องหยุดต้อนรับคนทั้งโลกชั่วคราว

หาดใหญ่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวมาเลเซียมานาน ร้านอาหาร โรงแรม ศูนย์การค้า และรถตู้บริการข้ามแดนถูกออกแบบให้รองรับผู้มาเยือนจากประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะ แต่น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้ระบบดังกล่าวหยุดทำงานเกือบทั้งหมดในเวลาไม่กี่วัน

รายงานระบุว่า นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียราว 4,000 คนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในสงขลา ส่วนหนึ่งติดค้างในพื้นที่หาดใหญ่และอำเภอใกล้เคียง ขณะที่มีนักท่องเที่ยวอีกราว 1,000 คนติดอยู่ที่สนามบินหาดใหญ่และโรงแรมโดยรอบ ต้องรอการช่วยเหลือจากหน่วยงานไทยและสถานกงสุลมาเลเซีย

พร้อมกันนั้น หน่วยงานท่องเที่ยวในมาเลเซียมีคำเตือนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าสู่ภาคใต้ของไทยในช่วงวิกฤต ทำให้กรุ๊ปทัวร์ที่จองเอาไว้ถูกยกเลิกเกือบทั้งหมด รายได้จากการท่องเที่ยวที่เคยหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจท้องถิ่นหายไปทันทีในช่วงเวลาสั้น

นอกจากนักท่องเที่ยวทั่วไป งานใหญ่ในปฏิทินธุรกิจอย่างการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 43 ประจำปี 2568 ที่เดิมจะจัดขึ้นที่จังหวัดสงขลาต้องยกเลิกไปด้วย เนื่องจากโรงแรมและสถานที่จัดงานหลายแห่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เส้นทางคมนาคมสายหลักเข้าออกเมืองไม่พร้อมรองรับผู้เข้าร่วมงานนับพันคน รายได้ที่ควรจะเกิดจากการจัดงานระดับชาติถูกตัดขาดไปในทันที

อสังหาริมทรัพย์หาดใหญ่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำ

ผลกระทบไม่ได้จำกัดอยู่ในภาคบริการด้านท่องเที่ยวเท่านั้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของหาดใหญ่ก็เริ่มรับแรงกระแทกอย่างชัดเจน รายงานจากบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 หาดใหญ่มีโครงการที่อยู่อาศัยที่ยังเปิดขายอยู่ราว 128 โครงการ มูลค่ารวมมากกว่า 4.1 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นทาวน์โฮม บ้านแฝด และบ้านเดี่ยวในเขตเมืองและชานเมือง

เมื่อเกิดน้ำท่วม บ้านระดับล่างและโครงการในพื้นที่เสี่ยงน้ำต้องรับภาระซ่อมแซมทั้งโครงสร้างและงานตกแต่งภายใน ตั้งแต่ผนัง พื้น ระบบไฟฟ้า ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ โครงการคอนโดมิเนียมที่เคยถูกมองว่าอยู่ในจุดปลอดภัยกว่า ก็ได้รับผลกระทบในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางและชั้นล่างที่มีน้ำขังยาวหลายวัน

สำหรับนักลงทุนและผู้ซื้อบ้าน การได้เห็นโครงการใหม่ในเมืองเผชิญน้ำท่วมตั้งแต่ช่วงต้นอายุการใช้งาน ทำให้ความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในสต็อกที่อยู่อาศัยของหาดใหญ่ถูกตั้งคำถามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ราคารีเซลและการซื้อขายในอนาคตอาจสะท้อนความเสี่ยงด้านน้ำท่วมมากกว่าที่เคย

โรงแรม ร้านอาหาร และศูนย์การค้าที่ต้องหยุดหายใจชั่วคราว

น้ำที่ขึ้นเร็วและลงช้าในเขตเมืองหาดใหญ่ทำให้ธุรกิจแนวหน้าหลายประเภทหยุดดำเนินงานทันที ร้านอาหารในย่านใจกลางเมืองต้องปิดบริการหลายวัน ร้านสะดวกซื้อบางสาขาเปิดไม่ได้เพราะน้ำเข้าถึงระดับตู้แช่ โรงแรมหลายแห่งในย่านเศรษฐกิจกลายเป็นเกาะกลางน้ำที่ผู้เข้าพักออกจากอาคารไม่ได้

ศูนย์การค้าและคอมมูนิตีมอลล์บางแห่งต้องปิดระบบไฟฟ้าชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย ร้านค้าภายในขาดทั้งลูกค้าและสินค้า ขณะที่ต้นทุนคงที่อย่างค่าแรงและค่าเช่ายังคงเดินหน้าไปตามปกติ การหยุดชะงักเพียงไม่กี่สัปดาห์จึงกลายเป็นภาระที่สะสมบนงบดุลของผู้ประกอบการรายเล็กและรายกลาง


บทบาทของรัฐและสถาบันการเงินในช่วงวิกฤต

ในระดับนโยบาย รัฐบาลเริ่มออกมาตรการเยียวยาระยะสั้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ประเภทเงินช่วยเหลือครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงมีวงเงินเบื้องต้นครัวเรือนละ 9,000 บาท และในกรณีที่น้ำท่วมขังยาวนานสามารถได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 20,000 บาทต่อครัวเรือน พร้อมกันนั้น ธนาคารออมสินได้ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็นรวมมูลค่าราว 2.4 ล้านบาท

ธนาคารแห่งประเทศไทยออกแนวทางให้สถาบันการเงินพิจารณาผ่อนปรนเงื่อนไขสินเชื่อสำหรับลูกหนี้ในพื้นที่ภัยพิบัติ ทั้งการชะลอการชำระหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ หรือยืดระยะเวลาผ่อนชำระ เพื่อลดแรงกดดันด้านกระแสเงินสดของภาคครัวเรือนและผู้ประกอบการรายย่อยที่รายได้หยุดชะงักกะทันหัน

ควบคู่กันนั้น รัฐบาลกำลังผลักดันมาตรการโอนหนี้รายย่อยบางส่วนเข้าสู่บริษัทบริหารสินทรัพย์ เพื่อจัดการหนี้ด้อยคุณภาพและเปิดทางให้สถาบันการเงินสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้มากขึ้นในระยะถัดไป โดยมุ่งเป้าไปที่ธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพเชื่อมโยงกับห่วงโซ่การผลิตทั้งในประเทศและตลาดโลก

สัญญาณเตือนจาก สภาพัฒน์ เรื่องผลกระทบต่อเศรษฐกิจภาพใหญ่

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประเมินกรอบผลกระทบจากอุทกภัยต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ โดยหากถือว่าความเสียหายอยู่ในระดับต่ำ ผลกระทบอาจอยู่ราวร้อยละ 0.1 ของจีดีพี หรือประมาณ 16,000 ล้านบาท หากอยู่ในระดับกลางอาจเพิ่มเป็นราว 23,000 ล้านบาท และในกรณีที่สถานการณ์รุนแรงและกินเวลานาน ตัวเลขอาจขยับขึ้นถึงประมาณ 29,000 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับความต่อเนื่องของน้ำท่วมและประสิทธิภาพของมาตรการเยียวยาและฟื้นฟู

รายงานเดียวกันชี้ว่าแรงงานภาคเกษตรได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ การจ้างงานในภาคเกษตรลดลงราวร้อยละ 2.9 ขณะที่มีเกษตรกรได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเกือบ 200,000 ราย พื้นที่การเกษตรที่เสียหายมากกว่า 620,000 ไร่ ส่งผลต่อรายได้ครัวเรือนชนบทในระยะสั้นและความสามารถในการใช้จ่ายของแรงงานในระยะต่อเนื่อง

ด้านหนี้ครัวเรือน แม้สัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 จะลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ราวร้อยละ 86.8 แต่หนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วันมีมูลค่ารวมมากกว่า 1.24 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละกว่า 9 ของยอดสินเชื่อรวม ตัวเลขนี้บ่งชี้ว่าหลายครัวเรือนอยู่ในจุดเปราะบางอยู่แล้ว ก่อนจะเจอวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหม่ซ้ำเติม

จากน้ำท่วมเมืองเดียว สู่โจทย์ใหญ่ของความเชื่อมั่น

น้ำท่วมหาดใหญ่ในปี 2568 ไม่ได้จำกัดความหมายไว้ที่โครงสร้างระบายน้ำหรือปริมาณฝนที่ตกหนักเท่านั้น แต่กำลังเผยให้เห็นระดับความทนทานของเศรษฐกิจเมืองศูนย์กลางภาคใต้ที่เชื่อมโยงกันทั้งระบบ เมืองที่เคยเป็นจุดหมายสำคัญของนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์และนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศกำลังเผชิญคำถามใหม่เรื่องศักยภาพในการฟื้นตัวและการป้องกันเหตุซ้ำในอนาคต

โจทย์สำคัญหลังน้ำลดคือ หาดใหญ่และสงขลาจะรักษาความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว นักลงทุน และผู้ประกอบการได้อย่างไร ในวันที่ความเสี่ยงจากอุทกภัยอยู่ใกล้ตัวกว่าที่เคย การฟื้นฟูเมืองจึงต้องก้าวไปไกลกว่าการซ่อมถนน อาคาร หรือระบบไฟฟ้า แต่ต้องเดินหน้าสู่การออกแบบเมืองที่ตั้งรับภัยพิบัติได้ดีขึ้น ระบบประกันความเสี่ยงที่ครอบคลุมมากกว่าเดิม และแนวทางบริหารจัดการน้ำที่สอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศยุคใหม่ ความพร้อมของมาตรการเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางเศรษฐกิจของเมืองศูนย์กลางภาคใต้ในระยะยาว

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง