รีเซต

ที่สุดแห่งปี 2025 "แผ่นดินไหว-น้ำท่วม" ภัยพิบัติ เขย่าเศรษฐกิจไทย

ที่สุดแห่งปี 2025 "แผ่นดินไหว-น้ำท่วม" ภัยพิบัติ เขย่าเศรษฐกิจไทย
TNN ช่อง16
31 ธันวาคม 2568 ( 09:00 )

ปี 2025 หรือปี 2568 ปีแห่งมหาภัยพิบัติ เริ่มตั้งแต่ต้นปี กับเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568  เวลา 13.20 น. กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่ามีขนาด 7.7 ศูนย์กลางอยู่ในประเทศเมียนมา แต่ก็สร้างแรงสั่นสะเทือนมาถึงประเทศไทย รับรู้ได้ในหลายจังหวัด รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ความรุนแรงนี้ทำให้มีอาคารหรือตึกระฟ้าต่างๆเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก และยังความแตกตื่นวุ่นวายมากคน ผู้คนต่างวิ่งหนีตายลงจากตึก การจราจรอัมพาตทั่วเมือง และที่ช็อกโลกและคนไทยที่สุด ก็คือ ตึกถล่ม ซึ่งเป็นตึกของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินที่กำลังก่อสร้างถล่มลงมา กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่คร่าชีวิตผู้คนหลายสิบรายและบาดเจ็บจำนวนมาก กลายเป็นวันวิปโยคแห่งปี ที่ทุกอย่างแทบจะหยุดชะงักงันไป โดยเฉพาะภาคธุรกิจ  

ส่งท้ายปลายปี กับวิกฤตน้ำท่วมใต้ เมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประเมินว่าน้ำท่วมใต้จะกระทบกับเศรษฐกิจอยู่ที่ 0.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ทั้งหมด 

 

ส่วนการประเมินผลกระทบเศรษฐกิจโดยภาคเอกชนนั้น ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า มีผู้ได้รับผลกระทบ 2.19 ล้านคน 798,695 ครัวเรือนประเมินความเสียหายจากน้ำท่วม 10 จังหวัดภาคใต้ ในช่วงระยะเวลา 1 เดือน คาดว่าจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 40,000 ล้านบาท กระทบต่อจีดีพี 0.22% โดยคำนวณจากธุรกิจที่ปิดตัว การท่องเที่ยวหยุดชะงัก กิจกรรมสำคัญยกเลิก เช่น ประชุมหอการค้าไทยทั่วประเทศ การจัดแข่งขันซีเกมส์ เป็นต้น ความเสียหายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 1,000-1,500 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นภาคท่องเที่ยว-บริการ 22,440 ล้านบาท เกษตรกรรม 10,720 ล้านบาท การผลิตและสาธาณูปโภค 6,840 ล้านบาท เมื่อจำแนกตามพื้นที่ หาดใหญ่จะได้รับผลกระทบประมาณ 9,600 ล้านบาท สงขลาได้รับผลกระทบประมาณ 24,000 ล้านบาท

ส่วนภาพรวมของเศรษฐกิจก็ยังน่าห่วง แม้จะมีหรือไม่มีภัยพิบัติก็ตาม เรายังไม่กลับไปสู่ภาวะเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ ล่าสุด กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ได้ประเมินเศรษฐกิจไทย ชี้ว่ายังต้องเจอกับความไม่แน่นอนและมีความเสี่ยงด้านลบ โดยประเมินจีดีพีปีนี้โต 2.1% ส่วนปี 2569 โตแผ่วเหลือ 1.6% พร้อมแนะรัฐบาลใช้นโยบายการคลังแบบเฉพาะจุด-ระมัดระวัง หนุนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพื่อช่วยลดความเสี่ยงเงินเฟ้อ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง