“บังคลาเทศ” มุ่งผลักดันพลังงานแสงอาทิตย์ แก้ปัญหาไฟดับบ่อย

รัฐบาลรักษาการของบังกลาเทศ ออกประกาศให้หน่วยงานของรัฐ โรงเรียน และโรงพยาบาล ดำเนินการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า ท่ามกลางคลื่นความร้อนที่รุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและยังเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของประชาชนจำนวนมาก มาตรการนี้เป็นหนึ่งแผนการเร่งด่วนเพื่อผลักดันการใช้พลังงานหมุนเวียน 

ปัญหาไฟฟ้าดับในบังกลาเทศเป็นวิกฤตด้านพลังงานที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ปัจจุบัน บังกลาเทศพึ่งพาการนำเข้าไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านทั้งอินเดีย และเนปาลเป็นหลัก แต่ในฤดูร้อนเป็นช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงกว่าปกติ เป็นสาเหตุที่ทำให้บังกลาเทศประสบปัญหาความเสถียรของระบบโครงข่ายไฟฟ้าบ่อยครั้ง 

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 บังกลาเทศเคยเผชิญกับวิกฤตไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ ส่งผลให้ประชากรกว่า 150 ล้านคนทั่วประเทศไม่มีไฟฟ้าใช้นานนับสิบชั่วโมง กระทบธุรกิจร้านค้าต้องปิดบริการ ยกเลิกการเรียนการสอนในโรงเรียน ส่วนโรงพยาบาลต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากเครื่องปั่นไฟแต่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการ เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง 

จากปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นทำให้บังกลาเทศเดินหน้าแก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าด้วยการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน ปัจจุบันทั่วประเทศมีอัตราการใช้พลังงานสะอาดอยู่เพียง 5.6% ของความต้องการไฟฟ้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยมากเมื่อเทียบกับสัดส่วนของการใช้พลังงานสะอาดในอินเดียที่ 24% และในศรีลังกา 40% โดยรัฐบาลบังกลาเทศตั้งเป้าการพึ่งพาพลังงานหมุนเวียนให้ได้ 20% ภายในปี 2030 และเพิ่มขึ้นเป็น 30% ภายในปี 2040 

นอกจากนี้ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อีก 55 แห่งทั่วบังกลาเทศที่กำลังจะเกิดประมูล โดยจะทำให้บังกลาเทศผลิตไฟฟ้าได้มากถึง 5,200 เมกะวัตต์ รวมถึงโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกของประเทศที่เมืองรูพูร์ซึ่งมีกำลังผลิตถึง 2,400 เมกะวัตต์ การผลักดันด้านพลังงานสะอาดนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่จะทำให้บังกลาเทศลดการพึ่งพาพลังงานนำเข้า และสร้างความมั่นคงและยั่งยืนด้านพลังงานในอนาคต