ค้นบ้านครูโอ๊ะ-สจ.โต้ง ล่าจับ 'สุนทร' คว้าน้ำเหลว ลุ้นคดีรุกเขาใหญ่หมดอายุความวันนี้
บุกค้นบ้านครูโอ๊ะ-สจ.โต้ง ล่าจับนายกฯสุนทร ตร.ปูพรม5จุดปราจีนคว้าน้ำเหลว-ไหวตัวหนี ลุ้นคดีรุกป่าเขาใหญ่หมดอายุความวันนี้
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) สั่งการให้ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.), ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) และตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 5 จุด ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เพื่อตามจับกุมตัว นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ รักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล บิดาของ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ใน จ.ปราจีนบุรี พื้นที่กว่า 150 ไร่ ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี
ทั้งนี้ เป้าหมายสำคัญในการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ อยู่ที่บ้านเลขที่ 21/1 ถ.วัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี บ้านพักของนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลูกสาวนายสุนทร , บ้านเลขที่ 43 ถ.วัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี สำนักงานของนายสุนทร, โรงแรมบางปะกง เลขที่ 41 ถ.วัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี และบ้านพักของ นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือชื่อเดิมคือ นายเต็มพงษ์ ฤทธิ์เดช หรือ ส.จ.โต้ง อายุ 46 ปี ผู้กว้างขวางในพื้นที่และมีความใกล้ชิดกับนายสุนทร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นจากการเข้าตรวจค้นและตรวจสอบ ยังไม่พบตัวนายสุนทร คาดว่าไหวตัวทัน ชิงหลบหนีออกจากพื้นที่ไปได้ไม่นาน จากการสอบถามบุคคลใกล้ชิด ส่วนใหญ่อ้างว่าไม่พบเห็นหรือติดต่อกับนายสุนทรมานานกว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหน้าออกหมายจับ แต่เจ้าหน้าที่เองก็ยังไม่ปักใจเชื่อ พร้อมกระจายกำลังลงพื้นที่ไล่สืบหาเบาะแสเพื่อแกะรอยติดตามตัวให้ได้ก่อนที่คดีดังจะหมดอายุความลงในวันที่ 13 มิถุนายน
คดีนี้มีอายุความ 20 ปี นับจากวันที่กระทำผิดในปี 2545 โดยนาย นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่า ป.ป.ช.เพิ่งได้รับสำนวนคดีจากตำรวจเมื่อปี 2563 ก็เร่งพิจารณามาโดยตลอด จนสรุปสำนวนชี้มูลความผิดได้
พร้อมประสานกับตำรวจเพื่อหาทางนำตัว นายสุนทรมารายงานตัวต่ออัยการให้ทันวันที่ 13 มิถุนายน ก่อนคดีหมดอายุความ หากคดีหมดอายุความไปจริง ป.ป.ช.จะพิจารณาดำเนินการถอดถอนนายสุนทรออกจากตำแหน่งนายก อบจ.ปราจีนบุรี ต่อไป
พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์การประสานการปฏิบัติ (ศปป.) ที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ในฐานะชุดจับกุมดำเนินคดีนายสุนทรและนางกนกวรรณกับพวก กรณีบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า
คดีนายสุนทรและนางกนกวรรณ ต้องแยกเป็น 2 คดี โดยคดีแรกคือคดีการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ เกิดขึ้นปี 2545 ป.ป.ช.รับไปดำเนินการ และไปย้อนดูว่าโฉนดออกปีไหน ปรากฏว่าออกในปี 2545 มีนายสุนทรและนางกนกวรรณนำชี้ มีเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน เจ้าหน้าป่าไม้ รวม 10 คน ร่วมออกเอกสารสิทธิ ถือว่ามีความผิดทั้งหมด คดีนี้จะหมดอายุความวันที่ 13 มิถุนายน 2565 เฉพาะคดีของนายสุนทร แต่ของนางกนกวรรณจะหมดอายุความในเดือนกรกฎาคม 2565 เพราะเป็นเอกสารสิทธิคนละฉบับ
ถ้าไม่สามารถนำตัวนายสุนทรมาส่งฟ้องได้ คดีจะขาดอายุความจริง แต่นายสุนทรยังมีคดีบุกรุกป่าอีก 1 คดี ที่เจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมในปี 2560 และปี 2563 ถ้านายสุนทรจะหนีก็ต้องหนีอีกเกือบ 20 ปี เช่นเดียวกับนางกนกวรรณ ก็โดนคดีบุกรุกป่าเหมือนกัน