Blendata ประกาศความสำเร็จเติบโตเท่าตัว เล็งพัฒนา AI/ML ต่อยอด Big Data
เบลนเดต้า (Blendata) บริษัทผู้พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการ Big Dataอัจฉริยะ เผยหลังเปิดตัวบริษัทฯ และแพลตฟอร์ม Blendata Enterprise เมื่อกลางปี 2564 ที่ผ่านมา ลูกค้าองค์กรตอบรับดี รายได้เติบโตกว่าเท่าตัวตามเป้าหมาย และพบลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ยังคงมีความต้องการโซลูชันเพื่อใช้งานและจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพต่อเนื่อง เตรียมพัฒนาโซลูชันใหม่ Ready to use AI/ML กลั่นจากองค์ความรู้ในการให้บริการลูกค้า เล็งสร้างบริการด้าน Big Data และ AI ต่อยอดบริการ Big Data ให้มีศักยภาพตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่มากขึ้น แย้มเตรียมเปิด 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่กลางปี ไปพร้อมกับรุกตลาดหลากหลายธุรกิจ ตั้งเป้าปีนี้เติบโต 100%
นายณัฐนภัส รชตะวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เบลนเดต้า จำกัด บริษัทผู้พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการ Big Data เปิดเผยว่า ภายหลังจาก Blendata ได้เปิดตัวบริษัทพร้อมกับการให้บริการแพลตฟอร์ม Blendata Enterprise อย่างเป็นทางการ เมื่อกลางปี 2564 ที่ผ่านมา พบว่าได้ผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าองค์กร รายได้เติบโตเท่าตัวตามเป้าหมาย ซึ่งเป็นผลมาจากแพลตฟอร์มด้าน Big Data ของ Blendata ที่ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ธุรกิจในด้านการบริหารจัดการข้อมูลได้อย่างครบถ้วนและรวดเร็ว รวมถึงปัจจัยด้านการเติบโตของตลาด Big Data และ Data Driven ทำให้ลูกค้าซึ่งเป็นองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนมีความต้องการในการใช้แพลตฟอร์มเพื่อจัดการข้อมูล และเลือก Blendata เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กร
ในปีที่ผ่านมา เป็นปีที่ Blendata ประสบความสำเร็จ ทั้งในด้านของแพลตฟอร์ม Blendata Enterprise ที่เข้าไปช่วยองค์กรนำ Big Data Tech ไปใช้งานในหลายการประยุกต์ใช้ ที่นอกเหนือจากการขยายการใช้งานของกลุ่มลูกค้าเดิม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโทรคมนาคม หรือธนาคาร อาทิ การขยายระบบประมวลผลและส่งปรับแต่ง Personalized campaign แบบ Real-time ของบริษัทโทรคมนาคมรายหนึ่ง ที่มีการขยายตัวของระบบที่ค่อนข้างมากกว่าเจ็ดเท่าตัว หรือการนำเทคโนโลยี Big Data เข้าไปช่วยติดตามหนี้สินแล้วนั้น เรายังได้ขยายการให้บริการไปยังกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายธุรกิจยิ่งขึ้น เช่น การไปทำระบบ Data automation และเป็น Data infrastructure ให้กับ Manufacturing ขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันให้กับองค์กร นอกจากนี้ยังให้บริการในด้าน Data analytics platform ให้กับธุรกิจกลุ่มโรงพยาบาล เพื่อการนำข้อมูลของโรงพยาบาลทั้งกรุ๊ปมาจัดเก็บ และใช้ในการวิเคราะห์ นอกจากการขยายของกลุ่มลูกค้าแล้ว ยังมีการผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์อย่าง AIS Business อย่างเป็นทางการ ในการร่วมกันพัฒนา Big data as a service ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริหารจัดการ Big Data บนระบบ AIS Cloud เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถติดตั้งระบบจัดการข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจในความปลอดภัยสูง ทำให้องค์กรในทุกขนาดสามารถนำเทคโนโลยี Big Data มาใช้ได้รวดเร็วและง่ายขึ้น โดยในปีนี้ยังมีแผนจับมือพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจเพิ่มอีกเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ นายณัฐนภัส กล่าว
นายณัฐนภัส กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากการประยุกต์ใช้ด้านธุรกิจ อีกหนึ่งกรณีในปี 2564 ซึ่งถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของเราคือการที่ได้ช่วยเหลือลูกค้าของเรารายหนึ่ง โดยการนำเทคโนโลยี Big Data และ AI/ML ไปช่วยในการตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติทางด้านไซเบอร์ ซึ่งทำให้ Blendata สามารถตรวจสอบเคสทางด้านไซเบอร์ที่เป็นกระแสช่วงที่ผ่านมาอย่าง Ransomware เพื่อหาเส้นทางการโจมตีของแฮคเกอร์จากระบบทั้งบริษัทได้ภายในเวลาไม่กี่วัน ซึ่งช่วยทำให้องค์กรสามารถยับยั้งความเสียหายและอุดรูรั่วของบริษัทได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับทิศทางในปี 2565 นี้ Blendata มีเป้าหมายในการเติบโตมากกว่า 100%โดยการพัฒนา Ready to use AI/ML โซลูชันตามแต่ละกลุ่มธุรกิจพร้อมใช้งาน เป็นโซลูชันที่ Blendata พัฒนาขึ้นมาจากการรวบรวมองค์ความรู้ที่ได้จากการเข้าไปร่วมพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูล ทำให้สามารถช่วยยกระดับการใช้ข้อมูลขององค์กร รวมทั้งมีการพัฒนาและปรับปรุงแพลตฟอร์ม ให้มีประสิทธิภาพและเพิ่มขีดความสามารถที่มากขึ้น ใช้งานได้ง่ายขึ้นอีก พร้อมทั้งช่วยลดภาระงานและลดเวลาของทีม Technical จากการใช้งานแพลตฟอร์มที่ง่ายและรวดเร็วขึ้น รวมถึงองค์กรสามารถใช้งานได้หลากหลายโปรเจคขึ้นผ่านรูปแบบจ่ายเมื่อใช้ (Pay-per-use) อีกทั้งยังเตรียมการสร้างบริการด้าน Big Data และ AI แบบครบวงจร โดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษา, ผู้ให้บริการด้าน Hardware และ IOT, ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ รวมไปถึงสถาบันการศึกษาและภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างผู้เชี่ยวชาญรุ่นใหม่ จากความต้องการจริงขององค์กรขนาดใหญ่ในประเทศไทย และได้เตรียมเปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่จะตอบสนองความต้องการด้าน Big Data ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในกลางปีนี้