AUCT ดีมานด์รถมือสองพุ่ง โชว์การเงินแข็งแกร่ง-ไร้หนี้
ทันหุ้น – สู้โควิด - AUCT ชี้ยอดรถมือสองมีแนวโน้มพุ่งขึ้นต่อเนื่อง หลังยอดปล่อยสินเชื่อเพิ่มขณะที่ยอดขายรถใหม่ลดลง เชื่อผู้บริโภคหันมาใช้รถมือสองแทน ฟากผู้บริหารโชว์ผลงาน 9 เดือนโกยรายได้ 654.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.51 ล้านบาท หรือ 12.3%ส่วนกำไร 162.62 ล้านบาท ชี้ฐานะการเงินแข็งแกร่งไร้หนี้สิน อวด ROE ที่ 52.13%
นายวรัญญู ศิลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AUCT เปิดเผยว่า ยอดขายรถใหม่ยังมีแนวโน้มที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนแต่ในทางกลับกันยอดการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ยังกลับเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 2 อีกทั้งราคารถยนต์ใช้แล้วหรือรถมือสองยังมีแนวโน้มที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเหตุการณ์ดังกล่าวบริษัทคาดว่าการที่ยอดขายรถยนต์ใหม่ลดลงแต่ยอดจัดสินเชื่อยังคงสูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงมีความต้องการในการใช้รถยนต์อยู่แต่ได้เปลี่ยนจากรถยนต์ใหม่เป็นรถยนต์ใช้แล้วแทน เนื่องด้วยราคาที่ถูกกว่า
ฉายทิศทางปีหน้า
สำหรับในปีหน้าธุรกิจจะมีทิศทางที่ดีขึ้น จากแนวโน้มของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นจากไฟแนนซ์ โดยบริษัทได้เตรียมพื้นที่รองรับกับจำนวนรถที่จะเพิ่มเข้ามา ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่อยู่ประมาณ 400 ไร่ เชื่อว่าจะเพียงพอสำหรบัการรับรถยนต์ได้ 3 หมื่นคัน
“ในปีหน้าเรามอว่ายังเป็นปีที่ดี เพราะมีแนวโน้มที่รถยนต์และรถจักรยานยนต์อยู่ระหว่างติดตามสินเชื่อเป็นจำนวนมาก ซึ่งเราก็ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด และเตรียมพื้อที่รองรับไว้แล้ว”นายวรัญญู กล่าว
ขณะที่ในปีหน้าบริษัทจะเน้นขยายฐานลูกค้ารายย่อยมากขึ้น เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานรถยนต์ และรถจักรยานยนต์โดยตรง ซึ่งปัจจุบันธุรกิจการประมูลรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ยังสามารถดำเนินการได้ตามปกติ แต่เปลี่ยนระบบการให้บริการในช่วงโควิด-19 ระบาดจากประมูลหน้าลาน มาเป็นประมูลออนไลน์ โดยกระแสตอบรับการประมูลออนไลน์มีทิศทางที่ดีขึ้นทุกๆ เดือน
สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนของปี 2563 มีรายได้จำนวน 654.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.3% กำไรก่อนต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 26.67 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13.3%
ธุรกิจปลอดหนี้
ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น1.5% โดยที่อัตรากำไรสุทธิลดลงเป็น 24.8%เทียบกับปีก่อน 27.5% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 เป็นผลมาจากต้นทุนทางการเงินที่เกิดจากการคำนวณตามมาตรฐานรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 16 แต่ไม่มีผลกระทบกับกระแสเงินสดแต่อย่างใด สถานะการเงินของบริษัทยังมีความแข็งแกร่งจากการดำเนินงานและการไม่มีหนี้สิน ทำให้การดำเนินงานของบริษัท สามารถสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้น (ROE) ในอัตรา 52.13% (ณวันที่ 30 กันยายน 2562 ร้อยละ 48.66: ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562ร้อยละ 47.19)
ขณะที่กำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือนของปี 2563 เท่ากับ 162.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5% อัตรากำไรสุทธิที่ลดลงเป็นผลมาจากต้นทุนทางการเงินดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้หากไม่รวมต้นทุนทางการเงินนี้อัตรากำไรสุทธิในงวด 9 เดือนจะเพิ่มขึ้นเป็นอัตรา 27.3% เมื่อเทียบกับอัตรากำไรสุทธิ 27.5 ในงวดเดียวกันของปีก่อน
จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาตรการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าวหนึ่งในมาตรการนั้นคือมาตรการพักชำระหนี้ ซึ่งสถาบันการเงินส่วนใหญ่ได้ตอบรับและให้การสนับสนุนตามมาตรการนี้โดยมีระยะเวลาการพักชาระหนี้ 3 -6 เดือนตั้งแต่เดือนเมษายนถึงตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา จากมาตรการพักชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ดังกล่าวส่งผลให้จำนวนรถเข้าประมูลในช่วงการพักชำระหนี้มีปริมาณที่ลดลงเริ่มตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 2/2563