รีเซต

อนุทิน ขอร่วมฉีดวัคซีนโควิด-19 ป้องกันตนเอง ช่วยเปิดประเทศเร็ว

อนุทิน ขอร่วมฉีดวัคซีนโควิด-19 ป้องกันตนเอง ช่วยเปิดประเทศเร็ว
มติชน
1 เมษายน 2564 ( 17:58 )
67

วันนี้ (1 เมษายน 2564) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) เปิดเมืองปลอดภัย จัดงานไมซ์มั่นใจ ด้วยมาตรฐาน ใน 10 เมืองไมซ์ ว่า รัฐบาลต้องการเปิดประเทศอย่างปลอดภัย สิ่งสำคัญคือประชากรในประเทศต้องปลอดภัย ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครอบคลุมมากพอที่จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งวัคซีนจะช่วยลดการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ 100% ส่วนการป้องกันการติดเชื้อและแพร่เชื้อป้องกันได้ร้อยละ 70 และหากยังคงมาตรการนิวนอร์มอล ด้วยการสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ดูแลสุขภาพอย่างดี จะเติมเต็มทำให้ป้องกันติดเชื้อและแพร่เชื้อได้ 100% เหมือนที่เราควบคุมการระบาดระลอกแรกจนไม่มีการแพร่เชื้อ
มานานกว่า 6 เดือน

 

 

นายอนุทิน กล่าวว่า สธ.จะกระจายวัคซีนไปยังประชาชนทั่วประเทศให้เร็วที่สุดในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายนนี้ ตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่ฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมประชากรมากที่สุด เร็วที่สุด เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เร็วที่สุด แม้จะมีการติดเชื้อก็จะเป็นจำนวนน้อยที่ระบบสาธารณสุขรับได้ ส่วนการจัดงานไมซ์จะเป็นการจุดประกายให้เมืองไทยกลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เนื่องจากช่วยส่งเสริมการทำงานและสร้างรายได้ ลดปัญหาการลักลอบเข้า-ออกประเทศไปทำงาน จึงลดความเสี่ยงที่จะนำเชื้อกลับเข้ามาด้วย รวมถึงการจัดงานอย่างปลอดภัยมีมาตรฐานก็จะช่วยเรียกชาวต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยว จัดสัมมนา ประชุม แสดงสินค้า เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย

 

 

รัฐมนตรีว่าการ สธ.กล่าวว่า ชาวต่างชาติที่จะเข้ามาก็ต้องมั่นใจว่า ประชาชนในประเทศเราสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย มีระบบสาธารณสุขดูแลเขาเมื่อเจ็บป่วยได้ ซึ่งเมื่อเราฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมมากเพียงพอก็ตั้งสมมติฐานว่าปลอดภัยได้” นายอนุทิน กล่าวและว่า ส่วนการรับวัคซีนแล้วไม่ต้องกักตัวถือเป็นเป้าหมาย แต่ต้องมีการศึกษาเรื่องภูมิคุ้มกันผลตอบสนองต่อวัคซีนก่อนว่าเป็นอย่างไร ฉีดครบ 2 โดส แล้วใช้เวลานานเท่าใดภูมิคุ้มกันจึงจะสูงจนปลอดภัยต่อการติดเชื้อ ถ้าปลอดภัยก็ไม่ต้องกักตัว โดยจะเริ่มในคนไทยที่มีภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ กลับมาไม่ต้องกักตัว ส่วนชาวต่างชาติอาจต้องรอเรื่องวัคซีนพาสปอร์ตที่จะต้องตกลงกันระหว่างประเทศ

 

 

“ส่วนการส่งวัคซีนไปฉีดที่ภูเก็ต 1 แสนโดส ส่งไปแล้ว 5 หมื่นโดส จะส่งตามไปอีก 5 หมื่นโดส และส่งไปเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี 5 หมื่นโดส ถ้าผลภูมิคุ้มกันออกมาดี ก็เปิดพื้นที่ได้เร็ว และพรุ่งนี้ (2 เมษายน 2564)จะนำวัคซีนไป อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อฉีดให้แก่ทหาร ตำรวจชายแดน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ดูแลผู้ประสบภัยตามหลักมนุษยธรรมด้วย” นายอนุทิน กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง