รีเซต

จับสัญญาณภัยเงียบ ชัก แขนขาอ่อนแรง ปวดหัว อาการของ "เนื้องอกในสมอง"

จับสัญญาณภัยเงียบ ชัก แขนขาอ่อนแรง ปวดหัว อาการของ "เนื้องอกในสมอง"
TNN ช่อง16
17 ตุลาคม 2564 ( 19:45 )
97
จับสัญญาณภัยเงียบ ชัก แขนขาอ่อนแรง ปวดหัว อาการของ "เนื้องอกในสมอง"

วันนี้ (17 ต.ค.64) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า "เนื้องอกในสมอง" คือ เนื้อเยื่อที่เกิดจากการเจริญเติบโตอย่างผิดปกติของเซลล์ภายในสมองหรือเนื้อเยื่อและต่อมต่าง ๆ บริเวณโดยรอบเนื้อสมอง ทำให้เกิดความผิดปกติทางระบบประสาทขึ้นกับชนิด ขนาด และตำแหน่งที่เกิด

เช่น มีอาการอ่อนแรงแขนขาข้างใดข้างหนึ่ง อาการชัก มีปัญหาด้านพฤติกรรม บุคลิกภาพ การพูด การได้ยิน การมองเห็น ความจำ และหากเนื้องอกนั้นมีขนาดใหญ่หรือเพิ่มแรงดันในสมอง กดเบียดรั้งเยื่อหุ้มสมอง อาจจะทำให้มีอาการปวดหัว อาเจียนพุ่งได้

เนื้องอกแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ

1. เนื้องอกที่เป็นเนื้อธรรมดา  เป็นเนื้องอกที่มีการเจริญเติบโตผิดปกติแต่เติบโตช้า ไม่ใช่เซลล์มะเร็ง สามารถรักษาให้หายหรือมีขนาดเล็กลงได้ และมีโอกาสน้อยที่ผู้ป่วยจะกลับมาเป็นอีกหลังการรักษา

2. เนื้องอกที่เป็นเนื้อร้าย เป็นเนื้องอกที่มีการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติ คือ เซลล์มะเร็ง อาจเกิด เริ่มต้นที่บริเวณสมอง หรือเกิดขึ้นที่อวัยวะอื่นแล้วกระจายเข้าสู่สมอง เนื้องอกที่เป็นเซลล์มะเร็งจะมีการเจริญเติบโตเรื่อย ๆ ควบคุมได้ยาก และมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นได้อีกหลังการรักษา

ด้าน นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุของเนื้องอกในสมองแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ อาจเกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรม หรือการกลายพันธุ์ของเซลล์เนื้อเยื่อ เซลล์ที่มีการแบ่งตัวและเจริญเติบโตผิดปกติจะทำให้เกิดการทำงานผิดปกติทางระบบประสาท หรืออาจมีสาเหตุจากเซลล์มะเร็งที่อวัยวะส่วนอื่น ลุกลามโดยตรงหรือกระจายเข้าสู่สมองทางกระแสเลือดก็ได้

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการป้องกันโรคเนื้องอกสมองแบบจำเพาะเจาะจง แต่พบว่า อายุที่เพิ่มมากขึ้น การได้รับรังสีอันตรายปริมาณสูงเข้าสู่ร่างกาย หรือมีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นโรคเนื้องอกในสมอง

แนวทางการรักษาเนื้องอกสมองในปัจจุบันมีอยู่ 3 วิธีหลัก คือ การผ่าตัด ฉายรังสี และการให้ยาเคมีบำบัด ซึ่งแพทย์จะเลือกแนวทางที่เหมาะสมในผู้ป่วยแต่ละราย หากผู้ป่วยมีเนื้องอกขนาดเล็กมากและไม่ทำให้เกิดอาการผิดปกติ อาจจะเลือกวิธีติดตามอาการ

หากพบขนาดใหญ่ขึ้นหรือทำให้เกิดความผิดปกติทางระบบประสาท จึงค่อยเริ่มการรักษา หากมีอาการผิดปกติทางระบบประสาทดังกล่าวข้างต้น ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยตั้งแต่เนิ่น ๆ และรักษาอย่างทันท่วงที


ข้อมูลจาก กรมการแพทย์

ภาพจาก AFP

ข่าวที่เกี่ยวข้อง