รีเซต

Google อบรมความปลอดภัยไซเบอร์โครงการ Be Internet Awesome ให้ครูและนักเรียนไทยไปแล้ว 3.4 ล้านคน

Google อบรมความปลอดภัยไซเบอร์โครงการ Be Internet Awesome  ให้ครูและนักเรียนไทยไปแล้ว 3.4 ล้านคน
TNN ช่อง16
1 มีนาคม 2566 ( 12:33 )
101
Google อบรมความปลอดภัยไซเบอร์โครงการ Be Internet Awesome  ให้ครูและนักเรียนไทยไปแล้ว 3.4 ล้านคน

ในปี 2565 “การกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์” (Cyberbullying) เป็นหนึ่งในหัวข้อด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่ผู้คนให้ความสนใจค้นหาบน Google มากเป็นอันดับต้นๆ โดยมีการค้นหาเพิ่มขึ้นถึง 60% เมื่อเทียบกับปี 2564 ดังนั้น การลงทุนลงแรงเพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนที่เป็นอนาคตของประเทศจึงเป็นเรื่องสำคัญ


เมื่อ 3 ปีที่แล้ว Google ได้เปิดตัวโครงการ Be Internet Awesome ที่โรงเรียนพญาไท กรุงเทพฯ เพื่อสอนเด็กๆ เกี่ยวกับพื้นฐานการเป็นพลเมืองดิจิทัลที่ดี รวมทั้งเป็นแหล่งข้อมูลด้านความปลอดภัยดิจิทัลสำหรับคุณครูเพื่อนำไปสอนเด็กๆ ในชั้นเรียน 


ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน Google ได้ฝึกอบรมครูและนักเรียนไปแล้วกว่า 3.4 ล้านคน ด้วยความร่วมมือจากกระทรวงศึกษาธิการ และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย และเนื่องในเดือนแห่งการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย (Safer Internet Month) ทีมงาน Google ได้กลับไปที่โรงเรียนพญาไทอีกครั้งเพื่อแชร์ผลลัพธ์อันน่าประทับใจของโครงการ Be Internet Awesome


จากงานวิจัยของ Kantar ที่นำเสนอข้อมูลเชิงลึกจากการสำรวจความคิดเห็นของครูผู้สอนที่ผ่านการฝึกอบรมในโครงการ Be Internet Awesome พบว่า บรรดาคุณครูต่างยกให้ Be Internet Awesome เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในประเทศไทยในการสอนเรื่องความปลอดภัยออนไลน์ โดย 93% กล่าวว่า Be Internet Awesome เป็นประโยชน์อย่างมากในการสอนเด็กๆ เรื่องความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ และทุกคนยอมรับว่า Be Internet Awesome ช่วยให้นักเรียนมีความระมัดระวังในการใช้งานออนไลน์มากยิ่งขึ้น ในขณะที่ 99% ยอมรับว่าตั้งแต่สอน Be Internet Awesome พวกเขาเห็นนักเรียนมีปฎิสัมพันธ์ทางออนไลน์ในเชิงบวกมากขึ้น ครูส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะแนะนำโครงการ Be Internet Awesome ให้กับครูคนอื่นๆ เพราะเห็นว่า Be Internet Awesome มีประสิทธิภาพในการสอนเรื่องความปลอดภัยออนไลน์มากกว่าเครื่องมือหรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน


นอกจากนี้ ยังมีเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจที่แสดงให้เห็นว่าโครงการ Be Internet Awesome ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตของครู นักเรียน และครอบครัวอีกด้วย อย่างเช่นเรื่องราวของนักเรียนคนหนึ่งในจังหวัดยะลาที่บัญชีโซเชียลมีเดียถูกแฮ็กเพราะตั้งรหัสผ่านที่คาดเดาได้ง่ายเกินไป หลังจากที่น้องได้เรียนเรื่อง Be Internet Strong ในชั้น ม. 4 น้องก็เข้าใจวิธีตั้งรหัสผ่านให้รัดกุมขึ้น และเป็นตัวอย่างให้กับเพื่อนๆ ในชั้นเดียวกัน จากนั้นน้องก็ทำโครงการส่งเสริมเรื่องการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลให้กับรุ่นน้องโดยใช้ Be Internet Awesome อีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจเป็นเรื่องราวของน้องนักเรียนชั้น ป. 6 ในจังหวัดร้อยเอ็ดที่มีคนแปลกหน้าติดต่อมาทางออนไลน์เพื่อขอข้อมูลส่วนตัว แต่น้องจำสิ่งที่เรียนจากเรื่อง Be Internet Brave ได้ จึงบล็อกคนนั้นไป และเล่าเหตุการณ์ที่เจอให้ครูฟัง


นอกจากโครงการ Be Internet Awesome แล้ว สำหรับปีนี้ Google ยังมีแผนที่จะเปิดใช้งาน ChromeOS Flex สำหรับโรงเรียนที่ขาดแคลนทรัพยากรด้วย โดย ChromeOS Flex เป็นระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาเพื่อช่วยปรับปรุงอุปกรณ์เดิมที่มีอยู่แล้วให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ซึ่งใช้ได้กับทั้ง PC และ Mac และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ในการดาวน์โหลด ChromeOS Flex จะช่วยเพิ่มความเร็วและเสริมความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์รุ่นเก่าๆ ของโรงเรียน ทำให้การเรียนการสอนมีความทันสมัยและราบรื่นเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนเข้าถึงการเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น 


โดยได้เริ่มนำร่องการใช้งาน ChromeOS Flex ในพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 ในไตรมาสนี้แล้ว และกำลังช่วยดำเนินการปรับโฉมอุปกรณ์ของโรงเรียนกว่า 100 แห่งให้กลายเป็นอุปกรณ์ที่รวดเร็วจัดการง่าย และใช้ระบบคลาวด์เป็นหลัก และตั้งเป้าที่จะช่วยเหลือโรงเรียนจำนวน 500 แห่งภายในปีนี้


อินเทอร์เน็ตควรเป็นพื้นที่สำหรับการศึกษา การเรียนรู้ แะเป็นประตูที่เปิดสู่โอกาสอีกมากมาย พันธกิจ Leave No Thai Behind ของ Google คือการช่วยให้ทุกคนได้ใช้ประโยชน์และเข้าถึงโอกาสที่มาพร้อมกับอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งสร้างทักษะ ความรู้ และความตื่นตัวในการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์อย่างชาญฉลาดและรู้เท่าทัน


แจ็คกี้ หวาง

Country Director, Google Thailand


ที่มาของข้อมูลและรูปภาพ Thailand.googleblog.com 

 



ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง