รีเซต

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ถูกปล้น ย้อนประวัติจารกรรมอันโชกโชน ที่อาจไม่ได้ของล้ำค่าคืน

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ถูกปล้น ย้อนประวัติจารกรรมอันโชกโชน ที่อาจไม่ได้ของล้ำค่าคืน
TNN ช่อง16
20 ตุลาคม 2568 ( 16:29 )
10

วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2025 แก๊งโจร 4 คน บุกพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ในกรุงปารีส “จารกรรม” 8 เครื่องเพชรล้ำค่าที่ประเมินค่าไม่ได้จากสมัยของนโปเลียนผู้ปกครองประเทศฝรั่งเศสในตอนนั้นไปสำเร็จ และยังไม่สามารถจับกุมตัวได้…

ไม่มีใครคิดว่าด้วยเวลาเพียง 4 นาทีเท่านั้นในช่วงกลางวันแสก ๆ แก๊งโจรจะก่ออาชญากรรมที่เรียกได้ว่าอุกอาจที่สุดในโลกศิลปะสมัยใหม่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ที่ขึ้นชื่อว่ามีผู้คนมาเยี่ยมชมมากที่สุดในโลก จนเกิดคำถามที่เกิดขึ้นไปทั่วโลกว่าแก๊งโจรสวมหน้ากากฝ่าระบบรักษาความปลอดภัยจากสถานที่ที่เก็บงานศิลปะและสิ่งของล้ำค่าของโลกอย่างพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ไปได้อย่างไร ?

“นี่ไม่ใช่ครั้งแรก” และอาจไม่ใช่เรื่องแปลกนักสำหรับพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ที่ผ่านเหตุการณ์จารกรรมเช่นนี้มาอย่าง “โชกโชน” มีทั้งที่สามารถไขคดีได้แล้วและยังไม่สามารถไขคดีได้มาจนถึงทุกวันนี้ ทั้ง ๆ ที่มันคือสถานที่ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมของชาติจากการปฏิวัติปี 1789 และมรดกสำคัญของโลก

-ย้อนเหตุขโมย โมนา ลิซ่า

เหตุจารกรรมที่อื้อฉาวที่สุดของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์หนีไม่พ้น การจารกรรมภาพวาดชื่อก้องโลกอย่าง “โมนา ลิซ่า” ของศิลปิน ลีโอนาโด ดา วินซี ในปี 1911 ที่สร้างความน่าตกใจไปทั่วโลก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใน “ช่วงเช้า” ของวันที่ 19 สิงหาคม 1911 นาย “วินเชนโซ เปรูจา” ผู้อพยพชาวอิตาลีและเคยเข้ามาทำงานในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์อยู่ช่วงสั้น ๆ ในแผนกประกอบกรอบรูปและตู้กระจกจัดแสดงก่อนจะลาออกไป จนกระทั่งเขาตัดสินใจสวมชุดทำงานเก่าของตนเองแล้วเดินเข้าจารกรรมภาพโมนา ลิซ่า ในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์โดยไม่มีใครเข้ามาขัดขวาง

ในตอนนั้นภาพของโมนา ลิซ่า ถูกแขวนอยู่บนผนังในห้องจัดแสดงที่มีชื่อว่า ซาลง การ์เร่ (Salon Carré) ด้านในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ แต่เนื่องจากเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ภาพวาดอาจจะถูกขนย้ายออกไปเพื่อเก็บรักษาหรือเพื่อนำไปถ่ายภาพ จึงทำให้ไม่มีใครผิดสังเกตว่าภาพวาดนั้นหายไปนานเกินกว่า 24 ชั่วโมงแล้ว หลังจากที่เปรูจาเดินออกจากพิพิธภัณฑ์โดยที่เขาใส่ภาพโมนา ลิซ่าไว้ใต้เสื้อคลุมของเขา

จนกระทั่งเรื่องนี้ถูกปิดเผยขึ้นมา เมื่อผู้อุปถัมภ์ภาพวาดโมนา ลิซ่า ผู้ร่ำรวยคนหนึ่งเดินทางมายังห้องจัดแสดง ซาลง การ์เร่ และได้พบว่าภาพโมนา ลิซ่าที่เคยแขวนอยู่บนผนังเหลือเพียงตะขอว่างเปล่าที่ยึดกับตู้กระจกไว้ ซึ่งข้อมูลจากบางแหล่งกล่าวว่า เปรูจา ผู้ขโมยโมนา ลิซ่า อาจเป็นคนสร้างขึ้นมาเองในช่วงที่เขาทำงานในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์

เมื่อทราบว่าภาพวาดชื่อก้องโลกนี้หายไป ก็เกิดการตามล่าหัวขโมยจารกรรม โมนา ลิซ่า ครั้งใหญ่ แต่มันกลับไร้ผลอย่างเหลือเชื่อ..

หนึ่งในเหตุการณ์ที่ประหลาดที่สุดในช่วงที่มีการสอบสวนคดีนี้คือ ใครจะคิดว่า “พาโบล ปิคัสโซ่” ในวัยหนุ่มที่จะเติบโต้ขึ้นมาเป็นศิลปินชื่อก้องโลกจะถูกเรียกตัวไปสอบปากคำอยู่ระยะหนึ่งเกี่ยวกับภาพวาดโมนา ลิซ่า ที่หายไป แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนร้ายก็ตาม แต่เนื่องจากปิคัสโซ่เคยจ่ายเงินซื้อส่วนหัวของรูปปั้นสมัยไอบีเรียนโบราณ ที่ถูกขโมยไปจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ก่อนหน้านั้น แต่สุดท้ายด้วยความกลัวว่าจะถูกดำเนินคดี ปิคัสโซ่ได้มอบส่วนหัวของรูปปั้นโบราณนั้นคืนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงที่เขาถูกเรียกไปสอบในคดีขโมยโมนา ลิซ่า

จากปี 1911 ที่โมนา ลิซ่า ถูกขโมยไป 2 ปีต่อมาในปี 1913 ในที่สุดก็พบภาพวาดโมนา ลิซ่า อีกครั้ง เมื่อ เปรูจา หัวขโมยพยายามขายภาพวาดโมนา ลิซ่าให้กับพิพิธภัณฑ์อีกแห่งหนึ่งจนถูกจับได้ในที่สุด ก่อนที่จะทราบว่าแท้จริงแล้วตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเขาซ่อนภาพโมนา ลิซ่า ไว้ที่อะพาร์ตเมนต์ของเขาในกรุงปารีส ซึ่งในช่วงที่มีการพิจารณาคดีเปรูจา เขาอ้างว่าทำไปเพราะต้องการแสดงความรักชาติต่ออิตาลีซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาและ ลีโอนาโด ดา วินซี ผู้ที่วาดภาพโมนา ลิซ่า ซึ่งเป็นชาวอิตาลี แม้ว่าภาพวาดนี้จะถูกวาดจนเสร็จสมบูรณ์ที่ฝรั่งเศสและฟรานซิสที่ 1 กษัตริย์ฝรั่งเศสในตอนนั้นจะเป็นผู้ซื้อมาจาก ดา วินซี แล้วก็ตาม

-นาซี ปล้นพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์

นอกจากเหตุจารกรรมโมนา ลิซ่า แล้ว พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ยังเคยผ่านเหตุการณ์ที่ถูก “นาซี” ปล้นในสมัยที่นาซีเข้ายึดครองฝรั่งเศสในปี 1940 และทำให้เพียงส่วนหนึ่งของคอลเลกชันของล้ำค่าในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ถูกปล้นไป แต่เพราะมาตรการที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เคยวางไว้ก่อนที่ฝรั่งเศสจะถุกนาซีเข้ามาปกครอง ทำให้สามารถช่วยชีวิตของมีค่าส่วนใหญ่เอาไว้ได้ด้วยการนำงานศิลปะล้ำค่าใส่กล่องไม้มากกว่า 1,800 กล่องส่งไปเก็บรักษาในชนบทและเมื่อเกิดเหตุนาซีบุกเข้าพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ จึงพบว่างานศิลปะล้ำค่าส่วนใหญ่ถูกนำไปซ่อนแล้ว

-พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ถูกปล้นนับครั้งไม่ถ้วน

นอกจากนี้แล้วยังมีการจารกรรมสิ่งของล้ำค่าจากในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์อีกหลายครั้งที่เกิดขึ้นในช่วงกลางวัน นับตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่สะท้อนถึงปัญหาด้านความปลอดภัยให้กับพิพิธภัณฑ์ โดยปี 1966  เกิดการจารกรรมเครื่องประดับโบราณจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ที่ถูกนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ในรัฐเวอร์จิเนียของสหรัฐฯ ระหว่างที่กำลังนำเครื่องประดับนี้กลับมายังฝรั่งเศส แต่สุดท้ายถูกพบอยู่ในถุงใส่ของชำในนครนิวยอร์ก

หรือเหตุในเดือนมกราคม ปี 1976 กลุ่มโจรได้ขโมยภาพวาดที่เป็นจิตรกรรมเฟลมิช (Flemish painting) จากพิพิธภัณฑ์และในเดือนธันวาคมของปีเดียวกัน กลุ่มชายสวมหน้ากากบุกขโมยดาบประดับอัญมณีที่เคยเป็นของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 10 ของฝรั่งเศส โดยที่หัวขโมยสามารถเข้าถึงพิพิธภัณฑ์ได้ผ่านนั่งร้านบริเวณชั้นสอง ซึ่งดาบชิ้นนี้จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับคืน และเกิดการโจรกรรมต่อเนื่องอีกครั้งประมาณสิบกว่าปีต่อมา ในปี 1990 โจรขโมยภาพวาดขนาดเล็กของ “เรอนัวร์” จิตรกรชาวฝรั่งเศสซึ่งเป็นศิลปินในกลุ่มอิมเพรสชันนิสม์ไปจากพิพิธภัณฑ์ พร้อมเครื่องประดับโรมันโบราณอีก 12 ชิ้น และภาพวาดอื่น ๆ อีกบางส่วน จากนั้น 5 ปีต่อมาก็มีการขโมยวัตถุโบราณอีก 2 ชิ้นที่เกิดขึ้นในเวลา 1 สัปดาห์ และในปี 1998 ภาพวาดของ คามิลล์ โคโรต์ ถูกตัดออกจากกรอบและหายไปที่จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับคืน

-เพิ่มการรักษาความปลอดภัย ?

และตั้งแต่เหตุจารกรรมเหล่านี้ที่เกิดขึ้น พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ พยายามจะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้หนาแน่นมากขึ้น อย่างเช่นกรณีของภาพวาด โมนา ลิซ่า แม้แต่ในขณะที่เกิดการจารกรรมที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์อีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (19 ตุลาคม) ภาพวาดโมนา ลิซ่า ได้รับการปกป้องและคุ้มกันอย่างแน่นหนาด้วยระบบรักษาความปลอดภัยอย่างกระจกนิรภัยซ้อนหลายชั้นพร้อมกรอบเหล็กที่เสริมเกราะป้องกันอย่างแน่นหนา โดยปัจจุบันภาพวาดยังถูกจัดแสดงอยู่หลังตู้กระจกกันกระสุนที่สามารถกันแสงสะท้อนอีกทั้งยังมีแผงกั้นแยกออกจากผู้ชมมหาศาลที่มุ่งหน้ามาชมภาพวาดนี้ในทุก ๆ วันด้วย นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้นเพื่อป้องกันไมให้ภาพวาดเสียหายตามกาลเวลาและมีระบบที่สามารถเคลื่อนย้ายภาพได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน

-แล้วของที่ถูกขโมยไปล่าสุดจะได้รับคืนหรือไม่ ?

คำถามที่เกิดขึ้นคือ เครื่องประดับ 8 ชิ้นล่าสุดที่ถูกขโมยไป จะหาพบและได้รับคืนหรือไม่ คำตอบคือ ความเป็นไปได้ที่จะได้คืนต่ำมาก เพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แม้ว่าจะไม่ได้ถูกนำกลับคืนทันที แต่จากประวัติศาสตร์การจารกรรมที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า

“ยังมีความหวัง” ว่ามันอาจกลับมาที่พิพิธภัณฑ์ได้ในสักวันหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่..

อย่างกรณีของชุดเกราะสมัยเรอเนซองส์ของอิตาลีที่ถูกขโมยไปในปี 1983 ก็ถูกค้นพบในคอลเล็กชันของครอบครัวส่วนตัวทางตะวันตกของฝรั่งเศสเมื่อปี 2021 ส่วนพวกภาพวาดเป็นสมบัติที่ขายต่อได้ยากกว่า เพราะไม่สามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ทางกายภาพจนจำไม่ได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับของมีค่าบางชิ้นอย่างชักโครกทองคำหรือเครื่องประดับ อัญมณีและวัสดุล้ำค่าต่าง ๆ นั้นสามารถนำไปใช้ใหม่ได้ จึงเหลือเพียงเวลาจะเป็นตัวบอกว่า 8 เครื่องประดับสมัยนโปเลียนนี้ จะถูกนำกลับคืนมาหรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง