รีเซต

SABINA โบรกคาดกำไร Q3/63 ฟื้นแรง ช้อปดีมีคืนหนุน Q4/63

SABINA โบรกคาดกำไร Q3/63 ฟื้นแรง ช้อปดีมีคืนหนุน Q4/63
ทันหุ้น
20 ตุลาคม 2563 ( 11:51 )
133
SABINA โบรกคาดกำไร Q3/63 ฟื้นแรง ช้อปดีมีคืนหนุน Q4/63


ทันหุ้น - สู้โควิด - บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง SABINA ว่า คาดกำไรปกติ 3Q63 ที่ 87 ลบ. (+72.2% QoQ, -25.3% YoY) จากการฟื้นตัวของรายได้ในประเทศจากการกลับมาเปิดปกติของสาขา พร้อมรับแรงหนุนมาตรการช้อปดีมีคืนกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงปลายปี คาดแนวโน้มกำไรสดใส


ทางฝ่ายคาดรายได้ 699 ลบ. (+10.1% QoQ, -17.2% YoY) จากการคลาย Lockdown ทำให้สาขากลับมาเปิดขายได้ตามปกติ ขณะที่ยอดขายผ่านช่องทาง NSR ยังคงเติบโตจากกิจกรรมวันที่ 9 เดือน 9 แต่อย่างไรก็ตามการบริโภคในประเทศยังไม่กลับมาเป็นปกติทำให้รายได้ยังต่ำกว่า 3Q62 อัตรากำไรขั้นต้นคาดที่ 42.0% ฟื้นจาก 36.5% ใน 2Q63 แต่ยังต่ำกว่า 54.0% ใน 3Q62


ขณะที่ SG&A/Sales คาดที่ 26.2% ต่ำกว่า 30.0% ใน 2Q63 และ 36.8% ใน 3Q62 จากมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายและปิดสาขาที่ไม่ทำกำไรต่อเนื่องจาก 2Q63 คาดกำไรปกติที่ 87 ลบ. (+72.2% QoQ, -25.3% YoY) หากกำไรปกติ 3Q63 ออกมาใกล้เคียงคาดจะส่งผลให้กำไร 9M63 คิดเป็นสัดส่วน 74% ของประมาณการกำไรทั้งปีของเราที่ 280 ลบ.


คาดกำไรปกติ 4Q63 ราว 80 100 ลบ. ได้แรงหนุนจากมาตรการช้อปดีมีคืนของรัฐบาลที่กระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศช่วงปลายปี โดยสามารถนำยอดใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30,000 บาท ซึ่ง SABINA เคยได้ประโยชน์จากนโยบายช้อปช่วยชาติมาแล้วทำให้คาดว่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายนี้เช่นกัน แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และปัจจัยทางการเมืองกดดันจิตวิทยาการใช้จ่ายของผู้บริโภค ทำให้กำลังซื้ออาจไม่มากเท่ากับภาวะปกติ นอกจากนี้เป็นไตรมาสแรกที่เริ่มมีคำสั่งซื้อ OEM จากลูกค้ายุโรปเต็มไตรมาสหลังได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้คาดว่ากำไร 4Q63 จะทรงตัวถึงเติบโต QoQ ได้ ขณะที่ YoY จะชะลอการหดตัวลง


คงประมาณการกำไรปี 2563 -2564 ที่ 280 ลบ. (-34.6% YoY) และ 397 ลบ. (+41.8% YoY) ตามลำดับ การเติบโตสำหรับปี 2564 หนุนด้วยการฟื้นตัวของรายได้ในประเทศ การเติบโตของการส่งออก และรายได้จาก OEM ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER2564 ต่ำเพียง 17 เท่า เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2564 ทำให้ราคาเป้าหมายพิ่มขึ้นเป็น 23.10 บาท (DCF, WACC 6.2%)


โดยปรับลด Terminal growth ลงจาก 3% เป็น 2% เทียบเท่า PERที่ 20.3x ซึ่งลดลงจากเดิมที่เคยใช้ 25 27 เท่า เนื่องจากเราได้ใส่ความเสี่ยงจากกำลังซื้อที่อาจฟื้นตัวช้ากว่าคาดหากสถานการณ์ทางการเมืองไม่คลี่คลายภายในปี 2563 แต่ที่ราคาปัจจุบันมี Upside gain 19.1% ถือว่ามี Downside risk จำกัด อีกทั้งมีผลตอบแทนจากเงินปันผล 2H63 ที่ 1.9% (0.37 บาท/หุ้น) และปี 2564 อีก 5.3% (1.03 บาท/หุ้น) คงคำแนะนำ ซื้อ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง