JMT ธุรกิจบริหารหนี้แววดี ลุยช็อปNPLเข้าพอร์ตเพิ่ม
ทันหุ้น - JMT รับยอดเก็บหนี้พุ่ง แถมธุรกิจประกันภัยเริ่มบวก หนุนงบไตรมาส 3 แนวโน้มดีกว่าไตรมาสก่อนหน้า พร้อมยืนเป้าปีนี้ผลงานโต 30%จากปีก่อน รับพอร์ตลูกค้าขยายตัว แถมเดินหน้าช็อปหนี้เสียเข้าพอร์ตเพิ่ม ด้านโบรกเกอร์ อัพเป้ากำไรปีนี้เพิ่ม 7% รับแววผลงานดีเกินฝัน แนะสอย อนาคต 37.50 บาท
แหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจของ บริษัท เจเอ็มทีเน็ทเวอร์คเซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT คาดว่าในไตรมาส 3/2563 น่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงไตรมาส 2/2563เพราะแนวโน้มธุรกิจในส่วนของการบริหารพอร์ตหนี้เสียปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งในกลุ่มธุรกิจประกันภัยเริ่มกลับมาทำกำไรได้ ซึ่งถือเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้ภาพรวมธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง
ลุยช็อปNPLเต็มพิกัด
ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ JMT แบ่งเป็น ธุรกิจการบริหารพอร์ตหนี้เสีย (NPL) และการรับจ้างติดตามหนี้อยู่ที่ประมาณ 91%, ธุรกิจประกันภัยอีกราว 9% โดยหากจำแนกธุรกิจบริหาร NPLนั้นในขณะที่มีอยู่ที่ราว 1.89 แสนล้านบาท จากทั้งหนี้ไม่มีหลักประกันและมีหลักประกัน ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทได้ไม่ต่ำกว่า 10 ปีนับจากนี้
ด้านนายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอ็มทีเน็ทเวอร์คเซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาและศึกษาเรื่องการเข้าซื้อ NPL ในส่วนของสถาบันเงินต่างๆ เพิ่มเติม หวังเสริมพอร์ตบริหารหนี้ของธุรกิจให้ขยายตัวมากขึ้น ซึ่งเบื้องต้นยังคงมีเม็ดเงินลงทุนในการเข้าซื้อ NPL ไว้ที่ราว 4.5พันล้านบาทในปี 2563
ปีนี้ผลงานโต30%
สำหรับผลประกอบการปี 2563 บริษัทยังคงเป้าการเติบโตไว้ประมาณ 30% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีกำไรราว 681 ล้านบาท หลังธุรกิจมีแนวทางในการขยายพอร์ตบริหาร NPL จากสถาบันการเงินต่างๆ เข้ามาเพิ่มเติม ส่งผลให้รายรับจากส่วนดังกล่าวขยับสูงขึ้น นอกเหนือจากธุรกิจประกันภัยที่มีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งธุรกิจยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้มีประสิทธิ์ภาพ
อย่างไรก็ตาม ในแง่ประเด็นเกี่ยวกับปัจจัยการเมืองในประเทศนั้นเบื้องต้นทาง JMT ประเมินว่าเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นยังไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทแต่อย่างใด จึงยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจในส่วนต่างๆ และมองว่าภาพรวมน่าจะเติบโตได้ตามที่วางไว้
แกร่งอนาคต37.50บ.
ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้น JMT หลังทางบริษัทตั้งเป้าหมายงบการซื้อหนี้เข้ามาบริหารที่ 6พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทคาดว่าจะมีหนี้ออกมาเทขายมากขึ้นในครึ่งหลังปี 2563จึงทำให้ทางฝ่ายวิเคราะห์ได้มีการปรับประมาณการการซื้อหนี้ของบริษัทจาก 4.5 พันล้านบาท เพิ่มเป็น 5.4 พันล้านบาท เพื่อตอบสนองธุรกิจในส่วนดังกล่าวที่ขยายตัว
ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลครึ่งแรกปี 2563 พบว่า สินเชื่อการซื้อหนี้ของ JMT เติบโตราว 33%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ประมาณ 8.7 พันล้านบาท ส่งผลให้ทางฝ่ายวิเคราะห์ได้มีการปรับเพิ่มคาดการณ์สินเชื่อจากการเข้าซื้อหนี้ในปี 2563 จะเพิ่มขึ้นเป็น 53% จากเดิมที่ราว 42% เพื่อตอบรับตัวเลขการเข้าซื้อหนี้ของ JMT ที่มีอัตราขยายตัวมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มหนี้เสียในภาพรวมที่มีทิศทางเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงครึ่งหลังปี 2563
ดังนั้น จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ทางฝ่ายวิเคราะห์ได้มีการปรับประมาณการกำไรปี 2563 เพิ่มขึ้น 7% (เดิมคาดไว้ 820 ล้านบาท รวมทั้งเพิ่มเป้ากำไรปี 2564 อีก 16% (เดิมคาดกำไรไว้ที่ 1 พันล้านบาท) เพื่อรับการขยายตัวของธุรกิจที่ดีขึ้น รวมทั้งให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น JMT ให้ราคาเป้าหมาย 37.50 บาท