โควิดสายพันธุ์ “เบตา” ระบาดเงียบ แพร่ไปแล้ว 132 ประเทศ
วันนี้( 6 ส.ค.64) องค์การอนามัยโลก หรือ WHO รายงานสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ประจำสัปดาห์ล่าสุด ความคืบหน้าในรอบสัปดาห์ สถานการณ์ระบาดล่าสุดของโควิดกลายพันธุ์ทั้งหมด 4 สายพันธุ์ ที่ได้ยกระดับให้เป็น “สายพันธุ์ที่น่ากังวล” พบว่า สายพันธุ์ “เบตา” ที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ ได้ระบาดไปแล้ว 132 ประเทศ ส่วนสายพันธุ์ “เดลตา” จากอินเดีย ยังระบาดเพิ่มขึ้นเป็น 135 ประเทศ เพิ่มขึ้น 3 ประเทศ จากเดิม 132 ประเทศเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านั้น
ส่วนโควิดกลายพันธุ์ที่น่ากังวลตัวที่ 3 คือ “แกมมา” พบครั้งแรกในบราซิล ระบาดไปแล้ว 81 ประเทศ และตัวที่ 4 สายพันธุ์ “อัลฟา” ที่พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร ยังคงเป็นโควิดสายพันธุ์ที่ระบาดมากที่สุด 182 ประเทศทั่วโลก
ผู้เชี่ยวชาญหลายคน เตือนว่า ขณะนี้โควิดกลายพันธุ์เบตาที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ กำลังสร้างความกังวลอย่างแท้จริง เนื่องจากเบตาอาจสามารถต่อต้านวัคซีนต้านโควิดได้มากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ
โดยในสหราชอาณาจักรล่าสุด กำลังเกิดความวิตกกับสายพันธุ์เบตามากขึ้น เนื่องจากพบหลักฐานว่า เบตาสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันในร่างกายได้มากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ซึ่งอาจทำให้วัคซีนต้านโควิดที่มีอยู่ ใช้ได้ผลน้อยลงกับเบตา
โดยศาสตราจารย์ จอห์น เอ็ดมันด์ ผู้เชี่ยวชาญในสหราชอาณาจักร ระบุว่า เบตากำลังกลายเป็นภัยคุกคาม แม้ว่าเบตาอาจติดต่อได้ไม่ง่ายเท่ากับเดลตา แต่ที่น่ากลัวกว่าคือ เบตาสามารถหลบเลี่ยงระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายได้มากกว่า
ด้าน จิลเลียน คีแกน รัฐมนตรีศึกษาสหราชอาณาจักร ยอมรับว่า ขณะนี้รัฐบาลสหราชอาณาจักรรู้สึกวิตกเป็นพิเศษเกี่ยวกับเบตาที่กำลังระบาดเพิ่มขึ้นในสหราชอาณาจักร และรัฐบาลกำลังเฝ้าติดตามเบตาเป็นพิเศษ
ส่วนอัลฟา ที่ยังระบาดมากที่สุดในโลก และพิษสงของอัลฟาเคยทำให้สหราชอาณาจักร ต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ หรือจำกัดพื้นที่ ทั่วประเทศเป็นรอบที่ 3 มาแล้ว แต่ขณะนี้อัลฟาไม่ได้เป็นโควิดสายพันธุ์หลักในสหราชอาณาจักรและในประเทศอื่นๆอีกต่อไปแล้ว โดยเดลตาได้เข้ามาแทนที่
ทั้งนี้ แม้จะมีโควิดกลายพันธุ์เกิดขึ้นทั่วโลกนับพัน ๆ ชนิด แต่มีเพียง 4 สายพันธุ์นี้ คือ อัลฟา เบตา เดลตา และแกมมา ที่ WHO ได้ยกระดับเป็นการกลายพันธุ์ที่น่ากังวล