สหรัฐฯไฟเขียวใช้ "ยาเรมเดซิเวียร์ " รักษาผู้ป่วยโควิด
วันนี้( 23 ต.ค.63) องค์การอาหารและยาของสหรัฐ หรือ FDA อนุญาตให้ใช้ยา เรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) ที่ผลิตโดย Gilead Sciences บริษัทผู้ผลิตยาของสหรัฐในการรักษาบุคคลทั่วไปที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเป็นทางการได้แล้ว
โดยเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทาง FDA ได้อนุญาตให้ใช้ยา Remdesivir รักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลเป็นการฉุกเฉิน เนื่องจากยังไม่ทราบแน่ชัดเกี่ยวกับผลกระทบระยะยาว แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น
ยา Remdesivir ที่มีชื่อทางการค้าว่า Veklury เริ่มต้นพัฒนาขึ้นมาเมื่อปี 2015 เพื่อใข้รักษาผู้ที่ติดเชื้อไวรัส สายพันธ์ โคโรน่า ที่รวมไปถึง ซาร์ส (SARs ) , โรคเมอร์ส (MERS ) และ ไวรัสอีโบลา (Ebola ) โดยยา Remdesivir ใช้ในลักษณะของการ “ประคองอาการ“ ไม่ให้ผู้ป่วยมีอาการทรุดลง เพื่อให้ร่างกายมีเวลาฟื้นตัวและสร้างภูมิคุ้มกัน แพทย์จึงนำยา Remdesivir มารักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่อยู่ในสายพันธ์ไวรัสโคโรน่า
FDA อนุญาตให้ใช้ยา Remdesivir ได้เนื่องจากพบว่ามีประสิทธิภาพดีและปลอดภัยในการรักษาผู้ป่วยส่วนใหญ่ในช่วงเวลาที่ผ่านมา และ ยา Remdesivir เป็นหนึ่งในยาที่แพทย์ใช้รักษาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
นายแพทย์แอนโธนี่ ฟาวซี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของสหรัฐ ระบุว่า การอนุมัติยา Remdesivir ถือเป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดขั้นตอนในการ รักษาผู้ติดเชื้อไวรสคิด 19 โดยแพทย์จะให้ยาตัวนี้ แก่ผู้ป่วยระยะแรกเป็นเวลา 5 วัน ควบคู่ไปกับการใช้ยาขายหลอดลมและอุปกรณ์ช่วยหายใจ โดย ณ ตอนนี้ การใช้ยา Remdesivir 5 วัน ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพราะหากใช้ยาต่อเนื่องนานกว่านี้ยาจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของ ตับ และ ไต
และแม้ว่า บริษัท Gilead Sciences จะยืนยันว่าสามารถผลิตยา Remdesivir ได้เพียงพอต่อความต้องการในสหรัฐ แต่การใช้ยา Remdesivir เป็นเวลา 5 วัน มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 2,340 ดอลลาร์ หรือประมาณ 72,500 บาท ซึ่งหากไม่มีระบบประกันสุขภาพที่ดี คนไข้ที่ยากจน ก็จะขาดโอกาสในการเข้าถึงยา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE