โมเดอร์นา พบประสิทธิภาพป้องกันโควิด-19 ลดลงตลอดเวลา ต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่สาม

Covid-19: บริษัท Moderna หนึ่งในผู้ผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 แถลงข้อมูลใหม่จากการทดลองวัคซีนโควิด-19 ครั้งใหญ่ พบว่า ประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัส ลดลงต่อเนื่องตลอดเวลา สนับสนุนความจำเป็นที่ต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่สาม หรือบูสเตอร์ เพื่อลดการติดเชื้อ
ข้อมูลนี้ขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงกับข้อมูลจากการศึกษาหลายชิ้นเมื่อไม่นานมานี้ ที่ระบุว่าประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสของวัคซีน Moderna อยู่ได้ยาวนานกว่าวัคซีนจาก Pfizer-BioNTech
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ความแตกต่างนี้น่าจะเกิดจากปริมาณ mRNA ที่สูงกว่าในวัคซีนของ Moderna และระยะห่างของการฉีดระหว่างเข้มแรกและเข็มที่สองที่นานขึ้นเล็กน้อย
วัคซีนทั้งสองชนิด ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีประสิทธิภาพอย่างมากในการป้องกันอาการป่วยจากไวรัสโควิดในการศึกษาครั้งใหญ่ระยะที่ 3 ของทั้งสองบริษัท
อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ในวันพุธ (15 กันยายน) พบว่า อัตราการติดเชื้อสูงขึ้นในกลุ่มประชาชนที่ฉีดวัคซีนแล้วตั้งแต่เมื่อประมาณ 13 เดือนก่อน เมื่อเทียบกับผู้ที่ฉีดวัคซีนเมื่อประมาณ 8 เดือนก่อน โดยช่วงเวลาของการศึกษาจากเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ไวรัสโควิดสายพันธุ์ Delta กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดไปทั่วโลก แต่ยังไม่ได้มีการตรวจทานจากผู้เชี่ยวชาญ
ทั้งนี้ Moderna ได้ยื่นเรื่องเมื่อวันที่ 1 กันยายน ขอให้องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA อนุมัติฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิเข็มสาม ซึ่งก่อนหน้านี้ เอกสารสรุปจาก FDA ที่ทำการวิเคราะห์คำขอแบบเดียวกันนี้ของบริษัท Pfizer ที่เผยแพร่ในวันพุธ ระบุว่า ประเด็นสำคัญที่ FDA จะพิจารณาคือ ประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันไวรัสกำลังลดลงจริงหรือไม่
Moderna กล่าวว่า ข้อมูลจากการศึกษาการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิเข็มสามนั้น พบว่า วัคซีนสามารถเพิ่มแอนติบอดีป้องกันไวรัสในระดับที่สูงกว่าที่พบหลังการฉีดเข็มสอง และเชื่อว่า การฉีดวัคซีนเข็มสามจะสามารถช่วยลดการติดเชื้อโควิด-19 และว่า เข็มที่สามของวัคซีน mRNA-1273 ของ Moderna จะขยายภูมิคุ้มกันครอบคลุมไปจนถึงปีหน้า ขณะที่เราพยายามที่จะหยุดยั้งการระบาดของไวรัส