รีเซต

GPSCแบตอีวีมีอัพไซด์ แผนใหญ่ลงทุน2,700ล.

GPSCแบตอีวีมีอัพไซด์ แผนใหญ่ลงทุน2,700ล.
ทันหุ้น
13 มกราคม 2565 ( 06:56 )
185

ทันหุ้น - โบรกเกอร์ดีล PTT จับมือ GPSC จัดตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อทำธุรกิจแบตเตอรี รองรับอุตสาหกรรมอีวีในเชิงบวก อาจมี Upside จากการลงทุนดังกล่าว ในเบื้องต้นคาดใช้เงินลงทุนอยู่ที่ราว 2.7 พันล้านบาท และจะสร้างรายได้จากการขายแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้า ราว 70%  แนะนำทยอยซื้อสะสมหุ้นทั้ง 2 เพื่อรองรับการเติบโตระยะยาว

 

บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) มีมุมมองเชิงบวกต่อการที่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ได้ร่วมกับบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่  จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อศึกษาธุรกิจแบตเตอรี มองว่าอาจมี Upside จากธุรกิจดังกล่าว ที่การลงทุนเร่งขึ้น ส่งผลให้มีโอกาสได้ประโยชน์ จากการสอบถามไปยัง GPSC ยังไม่สามารถเปิดเผยแผนธุรกิจได้ชัดเจน เนื่องจากอยู่ในระหว่างขั้นตอนศึกษา แต่เบื้องต้นรายได้อาจมาจากส่วนของการขายแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ราว 70% และกักเก็บพลังงาน (ESS) ราว 30%

 

**คาดเงินลงทุนราว 2.7 พันลบ.

 

สำหรับเงินลงทุนที่ใช้ในช่วงปี 2565-2566 หากตัดสินใจลงทุนจะอยู่ที่ราว 2,700 ล้านบาท ซึ่งหากเทียบกับการตั้งโรงงานแบตเตอรีในประเทศของ GPSC ก่อนหน้านี้ กำลังการผลิต 100 mwh ใช้เงินลงทุนราว 1,300-1,600 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างประเมิน Upside การลงทุนดังกล่าว เกี่ยวกับแผนดำเนินธุรกิจการร่วมดีลนี้

 

ฝ่ายวิจัยบล.โนมูระ พัฒนสิน ยังคงแนะนำซื้อหุ้น GPSC โดยให้ราคาเป้าหมายของปี 2565 ที่ 96 บาทต่อหุ้น โดยมองว่ามีความน่าสนใจ จากการที่ยังอยู่ในช่วงการฟื้นตัวของกำไร หลังการปิดซ่อมลดลงในปี 2565 ประกอบกับมีโรงไฟฟ้าที่ทยอยเพิ่ม คาดกำไรปกติโตเฉลี่ยในปี 2564-2566 ราว 19% ต่อปี ขณะที่ธุรกิจแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นธุรกิจ New S-Curve ที่หนุนการเติบโตในระยะยาว ซึ่งเป็นตลาดที่เติบโตสูงเป็นอันดับต้นของโลก รวมถึงพอร์ตโรงไฟฟ้าในมือมีโอกาสได้ Replacement สูงจากความสามารถในการแข่งขัน และฐานลูกค้ามั่นคง และ มี Upside จากโอกาสของธุรกิจใหม่ในอินเดีย

 

**แนะนำทยอยซื้อ

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด  (มหาชน) มีมุมมองเชิงบวกในระยะยาวต่อดีลความร่วมมือนี้เช่นกัน ซึ่งเป็นการรองรับการเติบโตของธุรกิจแบตเตอรีในอนาคต อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนศึกษาความเป็นไปได้ และการเตรียมความพร้อมในการทำธุรกิจแบตเตอรีร่วมกัน ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางธุรกิจ จึงยังเป็นประเด็นที่ต้องรอติดตาม คาดว่าจะรู้ผลภายในครึ่งแรกปี 2565 ดังนั้นฝ่ายวิจัย จึงแนะนำทยอยซื้อสะสมลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว โดยให้ราคาพื้นฐานของปี 2565 ในหุ้น PTT ที่หุ้นละ 49.50บาท ส่วนหุ้น GPSC อยู่ที่ 90บาทต่อหุ้น

 

นายอรรถพล  ฤกษ์พิบูลย์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท อรุณ พลัส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด(มหาชน) หรือ GPSC ในนามบริษัท นูออโว พลัส จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 4,200 ล้านบาท และมีทุนชำระเริ่มแรก1,050 ล้านบาท ซึ่งบริษัทอรุณ พลัส และ GPSC ถือหุ้นในสัดส่วน 51% และ 49% ตามลำดับ โดยได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเสร็จแล้วเมื่อวันที่ 11มกราคม 2565

 

การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และสนับสนุนการลงทุนในห่วงโซ่ธุรกิจแบตเตอรี (Battery Value Chain) รองรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าตามนโยบายการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศ รวมถึงระบบกักเก็บพลังงานซึ่งเป็นระบบที่สนับสนุนให้สามารถเก็บพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง

 

โดยการร่วมทุนนี้ เป็นการรวมจุดแข็ง ความเชี่ยวชาญ ความแข็งแกร่งทางการเงิน ซึ่งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจแบตเตอรีและเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจแบตเตอรีในอนาคตตามกลยุทธ์ New S-Curve ของกลุ่มปตท.

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง