TOAปั้นผลิตภัณฑ์พรีเมียม อัพมาร์จิ้น-รับอสังหาหนุน

TOA รับอานิสงส์ท่องเที่ยวภาคอสังหาคึกคัก หนุนยอดใช้สีรีโนเวตพุ่ง แถมโว Q2/2566 ผลงานแจ่มกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน รับดีมานด์ขยายตัว บอสใหญ่ “จตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ” คอนเฟิร์มปีนี้รายได้โต 15% จากปี 2565 หลังพอร์ตลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA เปิดเผยว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศไทยที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างโดดเด่นนั้นถือเป็นปัจจัยบวกต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท เนื่องจากช่วยสนับสนุนความต้องการสีและอื่นๆ ที่เกี่ยวสำหรับการปรับปรุง (รีโนเวต) เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในไทยอย่างต่อเนื่อง
ชู Q2 ฟอร์มแจ่ม
ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/2566 บริษัทประเมินว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อน ผลมาจากความต้องการ (ดีมานด์) สำหรับการใช้ในอาคารและโรงงานต่างๆ ขยายตัว ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของTOA แบ่งเป็น การผลิตและจำหน่ายสินค้าให้กับลูกค้าในประเทศประมาณ80%, เป็นการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศอีกราว20% รวมทั้งบริษัทมีแนวทางทำตลาดลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มเติม เพื่อเสริมรายรับในอนาคตให้ดียิ่งขึ้น
ปีนี้รายได้โต15%
สำหรับทิศทางผลการดำเนินงานปี 2566 บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้เติบโตประมาณ 15% เมื่อเทียบกับปี2565 ที่ราว 2.06 หมื่นล้านบาท เพราะการดำเนินกลยุทธ์เชิงรุกและการปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อคว้าโอกาสการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่จะส่งผลดีต่อธุรกิจสี เคมีภัณฑ์ก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้าง ตลอดจนโอกาสจากธุรกิจฮาร์ดแวร์ที่ยังมีโอกาสการเติบโตได้ดียิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันในแง่ของกำไรขั้นต้นในปี 2566 ยังมีแนวโน้มค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากราคาวัตถุดิบบางส่วนเริ่มทยอยปรับตัวลดลง ตลอดจนธุรกิจยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้มีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นแรงสนับสนุนภาพรวมธุรกิจของบริษัทให้ขยายตัวมากขึ้นอีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ดี ทาง TOA มีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และมุ่งสู่การเป็นองค์กร Net Zero ภายในปี 2593 โดยการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ใส่ใจต่อการสร้างความยั่งยืนและการดูแลสิ่งแวดล้อม การเป็นผู้นำนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับคุณสมบัติการใช้งานของสินค้า และยังมีความปลอดภัยต่อสุขภาพและดีต่อสิ่งแวดล้อม การตอบสนองความต้องการและยกระดับความพึงพอใจของลูกค้า การทำงานร่วมกับคู่ค้าอย่างเกื้อหนุนกัน และการมีส่วนช่วยดูแลสังคมอย่างยั่งยืน
กำไรเด่นอนาคตไกล
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) แนะนำ "ซื้อ" TOA ราคาเป้าหมายที่41.00 บาท คาดว่าแนวโน้มภาพรวมของกำไรไตรมาส 2/2566 ยังเติบโตโดดเด่น มาอยู่ที่ 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น63% จาก ชวงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง 5% จากไตรมาสก่อน
การเติบโตดังกล่าวจากต้นทุนที่ยังปรับลงต่อเนื่อง รวมถึงการผลักดัน สินค้ากลุ่มสีPremium (High Margin) ทำได้ดีขึ้น ภายใต้รายได้ที่ยังเติบโตตัวเลขสองหลัก และมองกำไรทั้งปีนี้จะอยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท เติบโต53% เป็นผลมาจากการปรับราคาปีก่อน และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ภายใต้ธุรกิจของ TOA ที่แข็งแกร่งมีมาร์เก็ตแชร์เกือบ 50% และสินค้าจากจีนเข้ามาแข่งน้อยลง ขณะที่ผลจากค่าแรงขั้นต่ำมองว่ามีผลกระทบทางตรงน้อย จากส่วนใหญ่เน้นระบบ Automation และผลทางอ้อมยังปานกลาง จากผลบวกทั้งกำลังซื้อเพิ่ม รวมถึงโอกาสแย่งมาร์เก็ตแชร์สินค้าทดแทนอื่น เพราะสีถือเป็นต้นทุนที่ถูกที่สุดในการตกแต่ง โดยสีมีต้นทุน (ค่าแรง+ของ) ราว 190 บาทต่อตารางเมตร เทียบกับสินค้าทดแทนอื่นๆ (กระเบื้อง, วอลเปเปอร์, ปูนเปลือย, หินอ่อน ฯลฯ) ในราคา 500-3,000 บาทต่อตารางเมตร