รีเซต

‘เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป’หรือ NTFGยื่นไฟลิ่ง เล็งขายหุ้น IPOเข้าmaiต่อยอดธุรกิจ

‘เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป’หรือ NTFGยื่นไฟลิ่ง เล็งขายหุ้น IPOเข้าmaiต่อยอดธุรกิจ
ทันหุ้น
25 เมษายน 2568 ( 11:48 )
12

#NTFG #ทันหุ้น -"เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป” หรือ NTFG บริษัทส่งออกผลไม้สดและแช่แข็งเกรดพรีเมี่ยม ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เสนอขายหุ้นไอพีโอ 60 ล้านหุ้น เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ใช้ชื่อย่อ “NTFG” โดยมี บล. เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ระดมทุนขยายการผลิตทุเรียนและผลไม้พรีเมียมเพื่อส่งออก สร้างการต่อยอดการเติบโตของธุรกิจแบบยั่งยืน

 

นางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ของ บมจ.เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว 

 

โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 100,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 200,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 70,000,000 บาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 60,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการ IPO ในครั้งนี้ ซึ่งจะนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยใช้ชื่อย่อว่า “NTFG”

 

“NTFG” มีวัตถุประสงค์นำเงินไปใช้ในการลงทุนในเครื่องมือและอุปกรณ์การผลิตเพื่อพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อส่งเสริมโอกาสในการขยายการผลิตได้มากขึ้น และชำระเงินกู้ยืมกับสถาบันการเงินบางส่วน ซึ่งที่ผ่านมา “NTFG” มีผลประกอบการการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปี 2565 มีรายได้จากการขาย 347 ล้านบาท ปี 2566 มีรายได้จากการขาย 563 ล้านบาท และในปี 2567 มีรายได้จากการขาย 1,115 ล้านบาท

 

นายวิชัย ศิระมานะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NTFG ผู้ส่งออกผลไม้สดและแช่แข็งเกรดพรีเมี่ยม กล่าวว่าที่ผ่านมาบริษัทฯ มีรายได้จากการขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ปี 2565-2567 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 79.3% อันมาจากกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนมีความต้องการทุเรียนและผลไม้สดของประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงกลยุทธ์ของ NTFG ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ ไม่ว่าจะเป็นด้านคุณภาพสินค้าที่ผ่านมาตรฐานสินค้าเกษตร เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ด้านรูปลักษณ์และรสชาติที่ตรงความต้องการของผู้บริโภค และด้านคุณภาพการบริการโดยสามารถจัดส่งสินค้าได้รวดเร็วและตรงจำนวนที่ต้องการ 

 

ทั้งนี้ ธุรกิจจำหน่ายผลไม้เพื่อการส่งออกจำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียน ส่งผลให้ที่ผ่านมาบริษัทฯ ยังผลิตสินค้าได้จำนวนจำกัดไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เติบโตต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม แม้มีปัจจัยด้านเงินทุนแต่ด้วยแผนงานและพันธมิตรที่ดีทำให้ “NTFG” สามารถสร้างรายได้ที่เติบโตต่อเนื่องเสมอมา ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุนในตลาดทุนในครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทฯ ขยายการผลิตตามความต้องการของลูกค้าโดยเฉพาะในประเทศจีนที่เป็นตลาดหลักได้มากขึ้น สามารถรองรับการขยายตลาดไปยังประเทศอื่น ๆ 

 

นอกเหนือจากประเทศจีน และยังส่งเสริมให้บริษัทฯ สามารถพัฒนาการผลิตสินค้าใหม่ ๆ ควบคู่การลงทุนในเทคโนโลยีที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทำให้สามารถผลิตสินค้ามีคุณภาพที่ดีอย่างสม่ำเสมอเพิ่มขึ้น ช่วยต่อยอดการเติบโตของธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมาย พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมผลไม้ ตามวิสัยทัศน์ที่ต้องการยกระดับผลไม้ไทยสู่อุตสาหกรรมระดับสากล

 

ในปี 2567 NTFG มีการส่งออกสินค้าไปยังตลาดหลักประเทศจีน ได้แก่ ทุเรียน 91% ลำไย 5% มะพร้าว ชมพู่ และ ผลไม้อื่น ๆ ประมาณ 2% ส่วนทุเรียนแช่แข็งอยู่ที่ประมาณ 2% ส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสินค้าของ “NTFG” มีการผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทฯ  6 แบรนด์ และแบรนด์ของลูกค้าพันธมิตรอีก 1 แบรนด์ ซึ่งได้รับความนิยมในตลาดสำคัญอย่างประเทศจีนอย่างมาก จากสินค้าที่ตรงตามความต้องการของตลาดและคุณภาพสินค้าที่ได้มาตรฐานตามที่บริษัทกำหนด

 

ด้านนายอิศรา ภูววิเชียรฉาย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ NTFG กล่าวถึงการผลิตสินค้าของ “NTFG” ว่า บริษัทฯ ผลิตสินค้าแบบห่วงโซ่อุปทานที่มีการควบคุมคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยวางระบบมาตรฐาน 2Q2T หรือ NTF Standard เป็นหัวใจสำคัญให้กับโรงคัดบรรจุที่เชี่ยวชาญในการคัดเลือกและผลิตสินค้าตรงตามความต้องการของตลาด ได้แก่ Quality (คุณภาพ) สินค้าต้องมีรสชาติอร่อยและรูปลักษณ์สวยงาม Quantity (ปริมาณ) จัดหาสินค้าคุณภาพตามปริมาณที่ลูกค้าต้องการได้อย่างครบถ้วน Time (เวลา) ควบคุมเวลาในทุกกระบวนการ เพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อสินค้าถึงมือผู้บริโภคจะมีความสุกและพร้อมรับประทานในเวลาที่เหมาะสม และ Temperature (อุณหภูมิ) ควบคุมอุณหภูมิในทุกขั้นตอน ที่ต้องรักษาความสดใหม่และคุณภาพของสินค้าเสมอเมื่อถึงมือผู้บริโภค 

 

นอกจากนี้ ในทุกกระบวนการจะต้องมีความปลอดภัยด้านอาหาร ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายเจือปน ไม่ว่าจะเป็นสารย้อมสีหรือโลหะหนัก โดยมาตรฐานนี้นอกจากจะเป็นแนวทางการผลิตเพื่อให้โรงคัดบรรจุผลิตสินค้าได้ตามความต้องการแล้ว ยังเป็นข้อมูลลักษณะของสินค้าที่เป็นความต้องการของตลาดที่โรงคัดบรรจุซึ่งเป็นผู้ผลิตนำไปส่งต่อให้เกษตรกรดูแลผลผลิตได้ตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรสามารถจำหน่ายได้มากขึ้นจากคุณภาพสินค้าที่ตลาดต้องการ

 

นอกจากนี้ “NTFG” ยังมีแนวคิดในการพัฒนาแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าร่วมกับโรงคัดบรรจุ โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในขั้นตอนการผลิตต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน  ลดเวลาและขั้นตอนการผลิต รวมถึงการคัดกรองและรักษาคุณภาพมาตรฐานทุเรียนและผลไม้อื่น ๆ ให้มีมาตรฐาน สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าไทยที่ส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศได้มากขึ้นในอนาคต

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง