รีเซต

‘หมอคิด แห่ง RISE’ กับการเร่งสปีดองค์กรไทยในยุคดิจิทัล และการจัดงานสัมมนาใหญ่ระดับเอเชีย

‘หมอคิด แห่ง RISE’ กับการเร่งสปีดองค์กรไทยในยุคดิจิทัล และการจัดงานสัมมนาใหญ่ระดับเอเชีย
แบไต๋
29 ตุลาคม 2566 ( 22:00 )
66
‘หมอคิด แห่ง RISE’ กับการเร่งสปีดองค์กรไทยในยุคดิจิทัล และการจัดงานสัมมนาใหญ่ระดับเอเชีย

เรามักพูดกันบ่อย ๆ ว่า Digital Transformation เป็นสิ่งที่ทุกองค์กรต้องปรับตัวให้ทัน เพราะจะมีเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นมา เพื่อทลายธุรกิจรูปแบบเดิม ๆ ทุกองค์กรเลยจำเป็นต้องสรรค์สร้างสิ่งใหม่ ๆ เพื่อต่อกรและเอาตัวรอดในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไว และทุกการสร้างย่อมมีเบื้องหลังเสมอ หนึ่งในนั้นคือ ‘นายแพทย์ศุภชัย ปาจริยานนท์’ หรือหมอคิด ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร “RISE” (ไรส์) สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กร ที่ช่วยให้องค์กรมากมายในไทยสามารถเปลี่ยนผ่าน และสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ ๆ

ถ้าตอนนี้องค์กรเริ่มทำ Digital Transformation ถือว่าช้าไหม

“ใช่ครับ เพราะเขาเริ่มกันมานานแล้ว” นี่คือสิ่งที่หมอคิดตอบกลับมา พร้อมเสริมว่า อยากให้มองมากกว่าเรื่อง Transformation หรือเปลี่ยนแปลงองค์กรเพียงอย่างเดียว เพราะปัจจุบันทั่วโลกให้ความสำคัญเรื่อง Accelerating Growth While Saving the World หรือ ‘ธุรกิจต้องโต แต่โลกก็ต้องอยู่รอดด้วย’ การสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาเพื่อเร่งสปีดองค์กรให้เติบโต เลยจำเป็นต้องคำนึงถึงเรื่องความยั่งยืน รวมถึงมิติอื่น ๆ เช่น การพัฒนาคน หรือการนำเทคโนโลยี อย่าง AI (Artificial Intelligence) และ Blockchain มาประยุกต์ใช้ ซึ่งเนื้อหาที่น่าสนใจเหล่านี้จะถูกรวบรวมอยู่ภายในงาน Corporate Innovation Summit 2023 ที่เรากำลังจะจัดขึ้น 

RISE คืออะไร

หมอคิดเล่าให้ฟังว่า RISE คือสถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กร (Corporate Innovation Accelerator) หน้าที่ของเราคือช่วยให้องค์กรขนาดกลาง และขนาดใหญ่ สามารถเปลี่ยนผ่านในช่วง Digital Transformation พร้อมทั้งสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ทำให้เกิด New S-Curve กับองค์กร ซึ่งส่งผลดีในระยะยาว และแม้ว่าองค์กรใดที่ธุรกิจดีอยู่แล้ว ก็สามารถช่วยเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรให้ดีขึ้นได้อีก เพื่อรองรับการเติบโตแบบก้าวกระโดดในอนาคต

หลักการทำงานของ RISE

หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการบริหารงานให้เหมาะสมกับความสามารถของคน หมอคิดแชร์ว่า ที่ RISE มีพนักงานเกือบ 100 คน ที่ทำงานอยู่ใน 3 ส่วนสำคัญ

ส่วนแรกคือ ‘การให้คำปรึกษา’ ที่จะมีการนำเครื่องมือมาตรวจวัดขีดความสามารถขององค์กรในการสร้างนวัตกรรมและการทำธุรกิจใหม่ ๆ ว่ามีมากน้อยแค่ไหน หรือเก่งเฉพาะธุรกิจเดิมอย่างเดียว เพื่อสามารถปรับแผนนำทาง หรือ Roadmap ในการสร้างนวัตกรรมองค์กรได้อย่างเหมาะสมและประสบความสำเร็จ

ส่วนที่สองคือ ‘การปั้นคน’ สุดท้ายไม่ว่าผู้บริหารมีไอเดียที่บรรเจิดแค่ไหน  แต่ถ้าสั่งการไป ทีมงานไม่เคยทำมาก่อน หรือไม่รู้ว่าจะใช้เครื่องมืออะไร ผลลัพธ์อาจจะไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง เพราะเขาเคยจับปลาอยู่ที่เดิม จะให้ไปจับปลาบ่อใหม่เขาทำได้ไม่ดี การเตรียมความพร้อมให้คนจึงเป็นเรื่องสำคัญ

ส่วนที่สามคือ ‘การปรับกระบวนการ’ ในส่วนนี้ใช่ว่าจะบอกให้ปรับก็จะทำกันได้ทันที เราต้องใช้คนและเครื่องมือเข้าไปช่วย ต้องสอนให้รู้จักเครื่องมือ เพื่อที่เขาจะได้นำไปปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้องค์กรสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่การ Transform ได้สำเร็จ

ต้นกำเนิดงาน Corporate Innovation Summit 

นอกจาก RISE สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรแล้ว หมอคิดยังเล่าเรื่องงาน Corporate Innovation Summit 2023 (CIS 2023) ที่กำลังจะจัดขึ้นในปีนี้อีกด้วย “จุดเริ่มต้นเกิดจากที่เราเองเป็นคนที่ชอบไปงานประชุมและงานสัมมนา ซึ่งไปมาเยอะมาก อย่างหนึ่งที่รู้สึกคือทุก ๆ งานมีความคล้ายคลึงกัน คือไปนั่งฟังแล้วได้รับแรงบันดาลใจกลับมา ผมเลยลองไปถามผู้บริหารหลายคนว่า ไปงานสัมมนาต่าง ๆ นั้นเป็นอย่างไรบ้าง เขาบอกว่าดีมากเลยได้รับแรงบันดาลใจ จากนั้นผมถามต่อแล้วมีอะไรเปลี่ยนไปไหมหลังจากที่ไปฟังสัมมนามา เขาบอกไม่มีเปลี่ยนเลย แรงบันดาลใจที่ได้นั้นอยู่กับเราแค่ 2-3 วัน แล้วก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง” 

หมอคิดเลยเกิดไอเดียที่อยากจะสร้างการเปลี่ยนแปลง จึงเริ่มปรับที่ RISE ก่อนจึงค่อยนำไปสร้างเป็นงานประชุม “เป้าหมายของเราคือต้องทำของใหม่ที่สร้าง Impact เพราะฉะนั้นถ้าเราจะสร้างงาน Conference ขึ้นมาสักงานหนึ่ง เราอยากให้เป็นงานสัมมนาที่คนไม่ได้แค่มาเรียนรู้อย่างเดียว แต่ได้ลงมือทำจริง ๆ นี่คือที่มาของ Corporate Innovation Summit เป็นงานสัมมนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมแบบลงมือทำจริง ๆ ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

 งานนี้จัดมาตั้งแต่ปี 2019 ผู้คนก็ให้การตอบรับดี โดยมีผู้ร่วมงานหลายพันคนเลยทีเดียว ส่วนที่สำคัญคือเราเรียนรู้จากคนไทยมาเยอะแล้วแต่จะทำอย่างไรที่เราจะได้เรียนรู้จากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเริ่มเรียนรู้จากคนยุโรป อเมริการว่าพวกเขาคิดกันอย่างไร เราสามารถที่จะเรียนรู้ความผิดพลาดจากพวกเขาเหล่านี้เพื่อนำมาปรับใช้กับองค์กรของเรา ผ่านการบอกเล่าจาก Speaker ที่เราเชิญมา”

CIS 2023 ปีนี้ เน้นฟังแล้วลงมือทำจริง

โดยงาน Corporate Innovation Summit 2023 ในปีนี้ มีธีมหลักคือ Accelerating Growth While Saving The World ที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาธุรกิจและประเทศไทย รวมถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างยั่งยืน โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการดำเนินงานเพื่อสร้างความเติบโตทางธุรกิจแบบก้าวกระโดด และการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืน และที่สำคัญกิจกรรมต่าง ๆ จะมุ่งเน้นไปที่การทำ ‘Call to Action’ ให้กับกลุ่มผู้บริหารได้ปรับเปลี่ยนวิธีคิดและเน้นการลงมือทำจริง

เราตั้งใจให้งานนี้เป็นเหมือนประตูที่เปิดรับทุกคน ถ้าวันนี้เขารู้ตัวอยู่แล้วว่าองค์กรต้องเปลี่ยน ตัวเขาต้องเปลี่ยน แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเปลี่ยนได้ไหม ทำยังไงถึงจะ อัปสกิล รีสกิล เพิ่มศักยภาพ ผมคิดว่าสิ่งนี้คือคำตอบเพราะเขาสามารถมาเริ่มต้นได้ที่งานนี้

หมอคิด – นายแพทย์ศุภชัย ปาจริยานนท์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ RISE

มีใครเป็นมา Speaker บ้าง

ไฮไลต์สำคัญในงานสัมมนา CIS 2023 คือ Speaker หรือ วิทยากร ที่จะมาแชร์ความรู้ และทักษะให้กับผู้ร่วมงาน หมอคิดเผยว่า ในงานปีนี้ได้เตรียม Speaker มากกว่า 100 คน ซึ่งหลายคนเป็นผู้มีชื่อเสียงระดับโลก พร้อมกับมี Hands-On Workshops กว่า 60 รายการให้ผู้ร่วมงานได้ลงมือทำจริง ๆ เพื่อให้เกิด ‘Call to Action’ รวมถึงมีเหล่า Startup กว่า 60 บริษัท มาโชว์เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ บนเวที 

สำหรับรายชื่อของ Speaker ระดับโลกที่จะมาร่วมให้ความรู้ หมอคิดเล่าว่า คนแรกคือ Chris Cowart, Managing Director จาก Nomura-SRI Innovation Center ผู้ให้กำเนิด Siri บน iPhone และเป็นส่วนหนึ่งในบริษัทที่สร้างอินเทอร์เน็ตให้กับสหรัฐอเมริกา เขาคือคนที่เห็นการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีในทุกยุคทุกสมัย 

คนที่สองคือ Lake Dai, Adjunct Professor Applied AI จาก Carnegie Mellon University ศาสตราจารย์ด้านปัญญาประดิษฐ์  (AI) ในมหาลัยอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งในงานนี้เขาจะมาเล่าให้ฟังถึง Case Study ด้าน AI ที่เกิดขึ้นจริง และแนะนำแนวทางในการนำ AI ไปปรับใช้กับองค์กร

โดยทั้งสองท่าน ไม่ได้จะบินมาร่วมงานแล้วกลับเลย แต่จะร่วมการ Workshop ด้วย ผู้ร่วมงานจะมีโอกาสเข้า Workshop กับคนเหล่านี้ เราจะมีเวลา 90 นาที  ที่จะได้อยู่ร่วมกันเพื่อทำความเข้าใจเชิงลึกว่าสิ่งที่เขาพูด และได้ลองลงมือทำจริง ๆ 

Speaker อีกท่านที่เป็นไฮไลต์ในปีนี้คือ Christopher Mowry, CEO ของ Type One Energy บริษัทด้าน Sustainability หรือความยั่งยืน ที่เคลมว่าเป็นบริษัทแรกของโลกที่เอาเทคโนโลยี Nuclear Fusion หรือ พลังงานนิวเคลียร์ ที่จัดเป็นพลังงานสะอาด มาแก้ไขเรื่อง Climat Change หรือปัญหาโลกร้อน และได้รับเงินทุนสนับสนุนจากกองทุนของ Bill Gates รวมถึงกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ อีกด้วย 

นอกจากนี้ยังมี Speaker ในวงการ Big Tech อีกหลายท่านเข้าร่วมงาน ได้แก่

  • Jackie Wang, Country Director ของ Google (Thailand)  
  • Prae Dumrongmongcolgul, Country Director ของ Meta (Thailand)
  • Chawapol Jariyawiroj, President ของ Huawei Technologies (Thailand)

นี่คือรายชื่อ Speaker บางส่วนเท่านั้น ยังมีอีกหลายท่านที่พร้อมจะมาให้ความรู้ แชร์ประสบการณ์ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในงาน Corporate Innovation Summit 2023 ภายใต้ 5 หัวข้อหลัก ได้แก่ Corporate Innovation, Sustainability, Deep Technology, People Transformation และ Future of Investment ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวของโลกที่มีอิทธิพลต่อการขับเคลื่อนโลกไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน

ชวนคนระดับโลกมาเป็น Speaker ยากไหม

หลังจากที่หมอคิดพูดถึงรายชื่อ Speaker จบ คิดว่าหลายคนน่าจะสงสัยว่า ทำอย่างไรถึงไปดึง Speaker ระดับโลกมาร่วมงานนี้ได้ หมอคิดตอบว่า “เราต้องไปอธิบายให้คนเหล่านี้เข้าใจว่า ประเทศไทยเรามีอะไร เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เรามีอะไร และทำไมเขาถึงต้องไปร่วมงาน ซึ่งความยากคือการสื่อสารให้เข้าใจตรงกัน สมมุติเราไปคุยก่อน แล้วเขาเจออีกคนที่พูดไม่เหมือนกัน เขาจะเริ่มสงสัยว่าสรุปที่นี่มีดีอะไรกันแน่ เพราะฉะนั้นเราต้องร่วมมือกันสื่อสารให้เขาเข้าใจตรงกันว่า ประเทศไทยในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ถือเป็นศูนย์กลางของโลกฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเรามีโอกาสอยู่อีกเยอะมาก”

ใครเหมาะกับงานนี้

หมอคิดตอบว่า “กลุ่มเป้าหมายของงานนี้คือคนระดับ C Level หรือระดับผู้บริหารที่มีอำนาจในการตัดสินใจในองค์กร เพราะการเปลี่ยนแปลงในหน่วยงาน จะเกิดขึ้นได้ต้องเริ่มที่ระดับหัวหน้า เหมือนคำที่กล่าวว่า Innovation start from the top ซึ่งในอดีตการตัดสินใจหรือการทำบางสิ่งอาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีไม่ตรงกับที่คิดไว้ แต่ทุกวันนี้มีเทคโนโลยีมากมายเข้ามาช่วย เช่น AI ที่หลายองค์กรเลือกใช้ แน่นอนว่ามีเครื่องมือดี Mind Set ก็ต้องดีด้วยจุดนี้สำคัญมาก เพราะการจะเปลี่ยนแปลงองค์กร เพื่อให้เกิด New S-Curve ต้องเริ่มจากคนระดับ ผู้บริหาร เจ้าของกิจการ เจ้าของธุรกิจ 

โดยภายในงาน Corporate Innovation Summit 2023 จะรวบรวมคนที่มีความคิดคล้าย ๆ กัน พอคนที่มีความคิดคล้าย ๆ กันมาพูดคุยกัน จะเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แนวคิด และวิธีที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ รวมถึงเกิดคอนเน็คชันใหม่ ๆ

ร่วมงาน CIS 2023 ได้เมื่อไร

ในช่วงสุดท้าย หมอคิด อยากชวนให้ทุกคนที่สนใจมาร่วมงาน Corporate Innovation Summit 2023 โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ที่ตึก True Digital Park และยังมีโปรโมชันพิเศษมาฝากให้กับผู้อ่านชาวแบไต๋ เพียงกรอกโค้ด BEARTAI ที่ช่องการสั่งซื้อหน้าเว็บไซต์ Eventpop จะได้ส่วนลดบัตร 1,000 บาท จากราคาเต็ม
อ่านรายละเอียดของ Speakers และซื้อบัตรได้ที่ https://www.eventpop.me/e/16216-cis2023/cis2023?aff=beartai

ภาพ: ศักดนัย กลางประพันธ์
กราฟิกดีไซเนอร์: พัฒนพล หวังพิทักษ์วงศ์

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง