CPALL ชูธงลุย 700 สาขา วางเกมอาหารเครื่องดื่ม

#CPALL #ทันหุ้น -  CPALL ตั้งเป้าผลการดำเนินงานปี 2569  เติบโตสอดคล้องเศรษฐกิจ คงงบลงทุนปีละ 1.3–1.4 หมื่นล้าน เดินหน้าขยาย 7-Eleven ในไทยราว 700 สาขา และสปป.ลาว  10 สาขา จับเทรนด์สินค้าใหม่เสริมทุกช่วงเวลา ชู Food & Drink Destinations ดึงลูกค้าเข้าร้าน คาดยอดขาย Q4/2568 ทรงตัวใกล้เคียงไตรมาสก่อน หวังนักท่องเที่ยวฟื้นช่วยยอด  ด้านโบรกเล็งกำไรปี 2568 โต 10%  ราคาเหมาะสม 60 บาท

นางสาวปัณฑารีย์  นันทนาคม  ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป สำนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมองเป้าหมายการเติบโตปี 2569 ในอัตราที่สอดคล้องไปกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) โดยคาดหวังว่าจะดีกว่าการเติบโตของอัตราการบริโภคภายในประเทศเล็กน้อย  ทั้งนี้ยังคงงบประมาณการลงทุนในกรอบ 1.3-1.4 หมื่นล้านบาทต่อปี แบ่งเป็นวงเงินลงทุนขยายสาขาร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในประเทศไทยราว 700 สาขา และในสปป.ลาว ประมาณ 10 สาขาในกรอบ 6.5 – 7 พันล้านบาท และอีกราว 6.5 – 7 พันล้านบาท จะใช้ในการปรับปรุงสาขา, การลงทุนระบบเทคโนโลยีภายใน

พร้อมกันนี้บริษัทยังคงกลยุทธ์การนำเสนอสินค้าให้ตรงกับใจลูกค้า ทั้งการจัดชั้นวางสินค้า, การจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายในแต่ละช่วงเวลา,  การคิดค้นเมนูอาหารใหม่ๆ  เพื่อสนับสนุนผลการดำเนินงานให้เติบโตในทุกด้าน

“บริษัทคงกลยุทธ์การเป็น Food And Drink Destinations ให้กับลูกค้า โดยสินค้าขายดียังเป็นสินค้าในกลุ่มของอาหาร ซึ่งกลยุทธ์หลักคือ การจับเทรนด์ลูกค้าในแต่ละช่วง และนำเสนอสินค้าที่จะตอบโจทย์ลูกค้า เพื่อให้เกิดความรู้สึกว่า เวลาที่ลูกค้าเข้ามาในร้านเราจะมีของใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อเพิ่มสามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในร้าน ส่วนการขยายสาขาในต่างประเทศ จะใช้กลยุทธ์การขยายสาขาแบบค่อยเป็นค่อยไป ทั้งใน สปป.ลาว และกัมพูชา”

ท่องเที่ยวหนุน Q4

สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2568 มีแนวโน้มทรงตัวต่อเนื่องจากงวดไตรมาส 3/2568 (QoQ) ที่มีรายได้ราว  2.5 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิราว 6.5 พันล้านบาท โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมยังคงอยู่ในกลุ่มอาหารพร้อมทาน (Ready-to-Eat) และเครื่องดื่ม (Ready-to-Drink) รวมถึงยอดขายจากบริการจัดส่งสินค้าถึงลูกค้า (Delivery)

ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวที่เริ่มเดินทางเข้ามาในไทย จะเป็นปัจจัยสนับสนุนยอดขายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล (Personal Care Products),  ยาและอาหารเสริมต่างๆ  Health & Beauty ให้เร่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2568 นี้

อีกทั้งคาดหวังมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อผ่านโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ของรัฐบาล ซึ่งเข้ามาสนับสนุนในส่วนของร้านค้าแบบดั่งเดิม (Traditional Trade) ให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยปรับตัวดีขึ้น และคาดหวังว่าจะมีเม็ดเงินที่หมุนวนกลับมาสู่ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ในระยะต่อไป

                “ไตรมาส 4 จะเข้าสู่ไฮซีซัน แต่ด้วยสถานการณ์น้ำท่วมกระทบต่อ Traffic ที่เข้ามาใช้บริการในร้านสะดวกซื้อ จึงคาดการณ์ว่าภาพรวมผลการดำเนินงานของไตรมาส 4/2568 น่าจะทำให้ได้ใกล้เคียงกับไตรมาส 3/2568 อย่างไรก็ตามยังคงคาดหวังต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กลับข้ามามากขึ้น ช่วยหนุนยอดขายในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ และเห็นการเติบโตที่ดีขึ้น”

เคาะ พื้นฐาน 60 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)  คาดการณ์กำไรหลักไตรมาส 4/2568 ทรงตัว YoY จากอัตรากำไรหลักของ 7-Eleven ที่ทำได้เมื่อเทียบไตรมาส 4/2567 อยู่ในระดับสูง  ในขณะที่ส่วนแบ่งกำไรของ CPAXT ซึ่งคิดเป็นประมาณ 25% ของ CPALL มีแนวโน้มลดลง YoY เนื่องจากการแข่งขันด้านราคาของธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ที่รุนแรง

อย่างไรก็ตาม กำไรของ CPALL มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น QoQ ในช่วงเทศกาลจับจ่ายใช้สอย จึงประมาณการกำไรหลักปี 2568 ที่ 27,831 เติบโต 10% YoY คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 60 บาท