รีเซต

เมื่อยอดโควิด-นิวไฮพุ่ง ห่วงทั้งเดือนยอดขึ้นอีกหรือไม่?

เมื่อยอดโควิด-นิวไฮพุ่ง ห่วงทั้งเดือนยอดขึ้นอีกหรือไม่?
TeaC
2 กรกฎาคม 2564 ( 14:55 )
92
เมื่อยอดโควิด-นิวไฮพุ่ง ห่วงทั้งเดือนยอดขึ้นอีกหรือไม่?

กรกฎาคม 2564 เข้าสู่วันที่สองของเดือน สถานการณ์โรคระบาดโควิดยังหนักหน่วง วันนี้ 2 ก.ค.จำนวนตัวเลขยอดผู้ป่วยโควิดรายใหม่สูงถึง 6,087 ราย เสียชีวิตนิวไฮ 61 ราย โดยภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 2,141 ราย ขณะที่ หายป่วยกลับบ้านแล้วจำนวน 3,638 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 242,058 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) นอกจากนี้ ยังมีรายงานถึงกลุ่มคนไข้อาการหนักมีภาวะอาการปอดอักเสบที่น่าวิตกอีกนับพันรายจากทั่วประเทศ 

 

ตัวเลขการติดเชื้อใหม่และตัวเลขการเสียชีวิตนิวไฮที่พุงขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤติจากการระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 อย่างหนักหน่วง เผลอ ๆ อาจเป็นไปได้ที่จะเข้าขั้นสาหัสหากการบริหารจัดการหลาย ๆ ด้านยังขรุขระชนิดที่ประชาชนทุกกลุ่มต่างตั้งคำถามถึงว่า "เมื่อไหร่จะได้ฉีดวัคซีน" 

 

นอกจากประเด็นปัญหาวัคซีนที่ถูกเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ปัญหาเตียงไม่เพียงพอ ประชาชนติดโควิดอยู่ในกลุ่มสีแดงต้องกางมุ้งนอนข้างทาง ด้วยเหตุผลไม่อยากแพร่เชื้อให้คนในครอบครัว เพราะหากคนในครอบครัวคนใดคนหนึ่งติดโควิด นั่นหมายความว่าอาจมีความเสี่ยงสูงที่จะติดยกครัวอย่างที่เป็นข่าวให้เห็นกันแล้ว บวกกับปัญหาระบบสาธารณสุขทำให้ผู้ป่วยที่รอเข้ารับการรักษาเสียชีวิตที่บ้าน รวมทั้ง ประชาชนบางส่วนยังขาดการตระหนักในการป้องกัน

 

และจากปัญหาดังกล่าวที่สะสมมาอย่างยาวนาน กระทั่งวันนี้ที่จำนวนผู้ติดเชื้อแตะถึงหกพัน ผู้เสียชีวิตแตะเลขหก เป็นตัวเลขที่ไม่คาดคิดมาก่อน ทำให้ชาวเน็ตเกิดความไม่พอใจการบริหารจัดการที่ล่าช้าของรัฐบาลเป็นวงกว้าง จนดันให้เกิดแฮชแท็กร้อนติดเทรนด์อันดับหนึ่งบนสังคมออนไลน์อย่างทวิตเตอร์ พร้อมนำเหตุการณ์หลายเรื่องราวมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก รวมถึงประเด็นล่าสุด กรณีมีภาพนายกฯ พร้อมคณะ นั่งกินอาหารริมทะเลภูเก็ต ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิดเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งบางคนมองว่าเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม บางคนไม่สวมใส่หน้ากาก และไม่รักษาระยะห่าง 

 

เสียงการวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ ดูจะมุ่งประเด็นไปที่การบริหารจัดการมาตรการต่าง ๆ รวมทั้งระบบสาธารณสุขที่อาจจะเป็นไปได้ที่จะไม่ราบรื่น ซึ่งหลายฝ่ายต่างเป็นห่วงและมองว่าหากยังจัดการล่าช้าในเดือนกรกฎาคมนี้ไม่เพียงแต่เกิดนิวไฮพุ่งขึ้นไปอีก แต่อาจเป็นไปได้ที่จะควบคุมโรคระบาดยากกว่าเดิม กลายเป็นสงคราม "โรค" ที่ยาวนานกว่าหลายเท่าตัว

 
 
โดยนพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวถีงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์เดลตา ว่า ในอีก 2-3 สัปดาห์หน้าของไทย มีแนวโน้มว่าจะหนักขึ้น โดยในแค่สัปดาห์ที่ผ่านมา กรุงเทพฯ มีผู้ป่วยใหม่รายวันเพิ่มขึ้นถึง 77%
 
 
 
"เชื้อเดลตาที่ทำให้เกิดการระบาดระลอก 4 เกิดขึ้นเร็วกว่าที่เคยคาดไว้ ซึ่งมันอาจระบาดเพิ่มเป็น 60-70% ใน 2-3 สัปดาห์หน้า โดยจะทำให้มีผู้ป่วยหนัก ICU และผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นกว่าในตอนนี้" นพ.มานพ กล่าว
 
 
 
ขณะที่ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีความห่วงใย และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และติดตามรายงานการป่วยและศักยภาพการรักษาอย่างใกล้ชิด ซึ่งพบว่ามีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในบางวันมีตัวเลขผู้ป่วยสูงขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการคัดกรองเชิงรุกในแต่ละคลัสเตอร์ และในแต่ละพื้นที่เสี่ยง เพื่อคัดแยกผู้ติดเชื้อเข้าออกจากกลุ่มก้อนและชุมชนให้เร็วและมากที่สุด
 
 

“นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ เร่งนำผู้ป่วยในทุกระดับสีเข้ารับการรักษาพยาบาลให้เร็วที่สุด โดยทุกส่วนราชการเข้ามามีส่วนร่วมช่วยงานสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด และขอให้ประชาชนร่วมมือตามมาตรการที่ ศบค. กำหนดที่ได้ประกาศให้ประชาชนทราบในแต่ละช่วง เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ในระดับเข้มข้นสูงสุด

 

และขอให้ประชาชนยังคงใช้ชีวิตแบบ New normal คือ D-M-H-T-T คือ หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่ม ใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิ สแกนไทยชนะ รวมทั้ง ช่วยกันป้องกัน ดูแล และรักษาสุขภาพร่างกาย จิตใจให้แข็งแรง ป้องกันตนเอง ดูแลสมาชิกในครอบครัว ในช่วงของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 “ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง