วัคซีนพิพาท ไต้หวันต่อว่าจีน ยืนขวางประตูนำเข้า ย้ำไม่สั่งเมดอินไชน่า
วัคซีนพิพาท ไต้หวันต่อว่าจีน - เมื่อ 22 พ.ค. ซีเอ็นเอ็น รายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 หวนกลับมาระบาดในไต้หวัน ชาติที่ได้ชื่อว่าอยู่ในกลุ่มที่คุมโควิด-19 ได้ดีมากที่สุด แต่ล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในรอบสัปดาห์เกิน 1,000 คน ส่วนการฉีดวัคซีนป้องกันทำไปได้เพียง 1% ของประชากร 23 ล้านคน
ประเด็นวัคซีนนี้กลายเป็นปมพิพาททางศึกสายเลือดกับจีนอีกปม ทั้งที่ไต้หวันอยู่ใกล้จีนมาก และจีนมีวัคซีนแจกจ่ายส่งให้นานาประเทศทั่วโลกหลายสิบล้านโดส แต่ไม่ใช่ให้กับไต้หวัน
เพราะไต้หวันเองปฏิเสธที่จะรับวัคซีนจากจีนด้วยความเป็นปรปักษ์และไม่เชื่อมั่น อีกทั้งมีกฎหมายห้ามนำเข้าวัคซีนจากจีนที่ใช้กับมนุษย์ ส่วนจีน จวกไต้หวันว่าใช้ประชาชนเป็นเครื่องบูชายัญเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
ก่อนหน้านี้ ไต้หวันถูกจีนสกัดกั้นเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก อีกทั้งสองดินแดนเผชิญความตึกเครียดทางการทหาร บริเวณช่องแคบไต้หวันหลายครั้ง
รัฐบาลไต้หวันหันไปร้องขอนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาให้ส่งวัคซีนให้ไต้หวัน เช่นเดียวกับที่รอวัคซีนอื่นๆ ที่สั่งไป พร้อมกล่าวหาว่าจีนพยายามบล็อกการส่งวัคซีนให้ไต้หวัน แทนที่จะกระตุ้นให้เข้ามาถึง
วัคซีนพิพาท ไต้หวันต่อว่าจีน
เมื่อวันพุธที่ 19 พ.ค. น.ส.โคลัส โยทากะ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวัน โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ ว่า " ไต้หวันเข้าถึงวัคซีนได้ช้า เพราะการแทรกแซงของจีน จริงๆ แล้วไต้หวันสั่งซื้อชนิดหนึ่งที่จีนผลิต ถ้าคุณจะช่วยจริงๆ ก็อย่าขวางทางประตู อย่ากั้นทั้งห้องโถง"
แม้น.ส.โยทากะจะไม่ได้อธิบายว่าการขัดขวางแทรกแซงของจีนคืออะไร แต่มีข่าวใหญ่เมื่อเดือนก.พ. ที่นายเฉิน ชือฉง รมว.สาธารณสุขไต้หวันให้สัมภาษณ์ว่า เดิมไต้หวันจะทำสัญญากับบริษัทบิออนเทคของเยอรมนี เพื่อซื้อวัคซีน 5 ล้านโดส ตั้งแต่เดือนธ.ค. 2563 แต่ถูกล้มไปด้วยแรงกดดันทางการเมือง
สำหรับบริษัทบิออนเทค มีสัญญาการขนส่งวัคซีนอยู่กับบริษัท ฝอซัน ฟาร์มา ในนครเซี่ยงไฮ้ จึงถูกมองว่าเกี่ยวข้องกับที่สัญญาซื้อขายล่มไป แต่รัฐบาลจีนปฏิเสธว่า ไม่ได้เข้าไปขัดขวางใดๆ
ไต้หวันยื่นขอวัคซีนจากโครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลกไว้ด้วย 4.76 ล้านโดส ชุดแรก 199,200 มาถึงเมื่อต้นเดือนเม.ย. ชุดสองมาถึงเมื่อพุธที่ 19 พ.ค. จำนวน 4 แสนโดส นอกจากนี้ยังสั่งซื้อวัคซีนโมเดอร์นาไว้ 5 ล้านโดส เซ็นสัญญาเรียบร้อย น่าจะส่งถึงภายในเดือนพ.ค.นี้ และมีที่สหรัฐจะส่งมาให้อีก ภายในเดือนมิ.ย.
ความที่ก่อนหน้านี้ไต้หวันคุมการระบาดไว้ได้ดีมาก จึงทำให้คนในดินแดนไม่สนใจเรื่องวัคซีนมากนัก ยังคงใช้ชีวิตรวมกลุ่มทั้งที่ร้านอาหาร บาร์ คอนเสิร์ต และชมการแข่งขันเบสบอลตามปกติ ยิ่งมีข่าวเรื่องผลกระทบจากวัคซีนแอสตราเซเนกาทำให้เกิดลิ่มเลือดในบางคน ยิ่งทำให้ไม่อยากฉีด
แต่เมื่อการระบาดหวนกลับมาในเดือนพ.ค. นี้ จึงทำให้ประชาชนเร่งขอเข้ารับการฉีดวัคซีนมากขึ้น
เฉิน ซิวซี ผู้เชี่ยวชาญโรคระบาด กล่าวว่า บุคลากรทางการแพทย์ของไต้หวันฉีดวัคซีนไปแล้วร้อยละ 30 และหวังว่าจะถึงร้อยละ 50 เมื่อวัคซีนแอสตราเซเนกาชุดใหม่ 4 แสนโดสส่งมาถึงแล้วไม่นานมานี้
ขณะเดียวกัน ไต้หวันยังพัฒนาสร้างวัคซีนป้องกันโควิดเองด้วย โดยมี 3 ตัวเข้าสู่ขั้นตอนการทดสอบ ช้ากว่าจีนและสหรัฐ 3 เดือน
https://youtu.be/6pz9oMqxtzA
ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ผู้นำไต้หวัน กล่าวว่า วัคซีน 2 ตัวที่พัฒนาโดยบริษัทของไต้หวัน คือ เมดิเกน วัคซีน ไบโอโลจิกส์ คอร์ป และบริษัท ยูไนเต็ด ไบโอเมดิคัล จะได้ผลนำมาใช้ในเดือนก.ค. หากผ่านการพิจารณาเร่งด่วนในเดือนมิ.ย.
////