ไม่เบรกวัคซีนจีน! เร่งขอข้อมูลจริงได้ผล50.4% สธ.ยันไทยคงแผนเดิม
สธ.ขอข้อมูลจริง วัคซีนจีน ‘ไซโนแวค’หลังผลทดลองระยะ 3 มีประสิทธิผล 50.4% เผยไม่กระทบแผนฉีดวัคซีนไทย แจงที่เอามาใช้ต้องมีประสิทธิภาพเกิน 50% ตาม WHO กำหนด ชี้จีนทดลองฉีดแล้วหลายแสนราย ยังไม่พบผลข้างเคียง ส่วนวัคซีนบางเจ้ามีผลข้างเคียงมาก ต้องรอข้อมูลครบถ้วนก่อน
วันที่ 13 ม.ค.2564 นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดถึงกรณีมีการเผยแพร่ผลการทดลองวัคซีนโควิด-19 ของไซโนแวค ประเทศจีน ที่ศึกษาในมนุษย์ระยะ 3 ที่ดำเนินการในบราซิลออกมาเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ว่ามีประสิทธิผลประมาณ 50.4% ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่ไทยจะนำเข้ามา 2 ล้านโดส ว่าขณะนี้ไทยได้ขอข้อมูลโดยตรงไปยังบริษัทไซโนแวคแล้ว อยู่ระหว่างรอการตอบกลับมาอย่างเป็นทางการว่า ข้อเท็จจริงทั้งหมดเป็นอย่างไร ส่วนขั้นตอนการขอขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไทย ก็ต้องมีการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นให้ทราบอยู่แล้ว
- อ่าน ไทยเริ่มผลิตเองแล้ว วัคซีนป้องกันโควิด ‘สธ.’ เผยปีละ 200 ล้านโด๊ส เร่งหาเพิ่มจัดฉีดให้‘ฟรี’
- อ่าน รบ.แจงแล้ว! 'วัคซีนโควิด' ความหวังคนไทย ก.พ.นี้มาแน่ เข็มแรก ให้ใครก่อน?
- อ่าน จีนเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว ยืนยันต้องฉีดทะลุล้านก่อนตรุษจีน
“จากการติดตามการแถลงผลการศึกษา มีการใช้คำว่าประสิทธิภาพในภาพรวมอยู่ที่ 50.4% หมายความว่าระหว่างคนที่ฉีดกับไม่ฉีดมีอัตราการติดเชื้อแตกต่างกัน โดยป้องกันไม่ให้ติดเชื้อเลยอยู่ที่ 50.4% ประเด็นคือการทดลองนี้ทำในพื้นที่ทีมีการระบาดสูง อาสาสมัครส่วนใหญ่คือบุคลากรทางการแพทย์ที่มีโอกาสติดเชื้อมากกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว อาจส่งผลต่อภาพรวมของการติดเชื้อ หากทดลองในคนทั่วไปก็อาจได้ตัวเลขสูงกว่า ส่วนตัวเลขเดิมที่ระบุว่า 78% ในคนที่ฉีดกับไม่ฉีด เป็นเรื่องการป่วย คือป้องกันการป่วยได้ 78% ซึ่งอาจจะติดเชื้อแต่ไม่มีอาการป่วย แต่ไม่พบอาการรุนแรงต้องใส่ท่อช่วยหายใจในกลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีน 100% เมื่อเทียบกับไม่ฉีดวัคซีน ดังนั้นมีตัวเลขเปอร์เซ็นต์หลายตัวที่ต้องนำมาพิจารณาในรายละเอียด อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงคำแถลงของบริษัทผู้ผลิตวัคซีนและสถาบันวิจัยให้ข้อมูลเท่านั้น เราต้องรอคำชี้แจงอย่างเป็นทางการ เฉพาะตอนนี้ข่าวที่ออกมาไม่มีผลกระทบต่อแผนการฉีดวัคซีนของไทย ทุกอย่างยังเป็นไปตามแผน แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นข้างหน้าก็ว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง แต่ตอนนี้ยังไม่มีผลกระทบ และผมคาดว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผน คือ ก.พ. จะสตาร์ทได้” อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าว
นพ.ศุภกิจ กล่าวต่อว่า ไม่ว่าบริษัทใดก็ตามที่มีผลทดลองระยะ 3 ออกมา ทั้งไฟเซอร์ โมเดอร์นาที่ประสิทธิภาพมากกว่า 90 % แอสตราเซยเนกา 62%ส่วนหนึ่ง และ 90% ส่วนหนึ่ง ก็เป็นผลการทดลองในระยะต้นๆทั้งสิ้น แต่ผลการทดลองสมบูรณ์แบบอาจจะต้องใช้เวลาปีครึ่งถึงจะเห็นว่ามีประสิทธิภาพเท่าไร ผลข้างเคียงเป็นอย่างไร ข้อดีของวัคซีนจีนเมื่อเทียบกับอีก 2 บริษัทนั้น ของจีนเป็นวัคซีนเชื้อตายเป็นเทคโนโลยีดั้งเดิมที่คุ้นชิน และมีข้อมูลว่าประเทศจีนนำไปฉีดให้ทหารและบุคลากรการแพทย์หลายแสนคน ยังไม่พบผลข้างเคียงอะไรที่น่ากังวล ในขณะที่เราพบว่าการพัฒนาวัคซีนของบางเจ้ามีผลข้างเคียงทำให้คนที่รับวัคซีนนั้นไม่สามารถไปปฏิบัติงานได้ หรือต้องได้รับการดูแลจากบุคลากรการแพทย์จำนวนเปอร์เซ็นต์ไม่น้อย การพิจารณาวัคซีนที่จะเอาเข้ามานั้นต้องดูประสิทธิภาพ คุณภาพ และคุณสมบัติการบริหารจัดการในไทย เรื่องราคา และจำนวนที่จะมีให้ แต่ให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า วัคซีนที่จะเอามาใช้ประสิทธิภาพต้องยอมรับได้ ซึ่งองค์การอนามัยโลกระบุว่าหากเกิน 50% ขึ้นไป สามารถยอมรับให้นำมาใช้ได้ ผลข้างเคียงต้องไม่มาก
ด้าน นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า การพิจารณาขึ้นทะเบียนวัคซีนต้องทำอย่างรอบคอบ โดยดูเรื่องคุณภาพ ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความปลอดภัย โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากทั่วประเทศช่วยกันพิจารณาได้เร็วและรอบคอบ ขณะนี้มี 2 บริษัทที่ยื่นขอจดทะเบียนเข้ามาคือแอสตราเซนเนกา และไซโนแวค ซึ่งข้อมูลบางอย่างยังไม่ครบ แต่ขอให้ยื่นมาให้ครบภายใน ม.ค.นี้ เดิมการยื่นขอขึ้นทะเบียนต้องส่งข้อมูลให้ครบถ้วน แต่สำหรับวัคซีนโควิด 19 ต้องดำเนินการให้เร็ว จึงให้ทยอยส่งข้อมูลได้ เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญได้ค่อยๆทยอยดูข้อมูล แต่การจะพิจารณาให้ขึ้นทะเบียนได้หรือไม่ต้องรอให้ข้อมูลครบทั้งหมดก่อน เช่นเดียวกับผู้ที่ต้องการนำเข้าก็ต้องมาขออนุญาตจากอย. เช่นกัน โดยต้องมีเอกสารข้อมูลประสิทธิภาพ ประสิทธิผลและความปลอดภัยวัคซีนที่จะมีการนำเข้ามาถึงจะได้รับการอนุญาตนำเข้าได้