ทิสโก้ลุยตลาด"จีโนมิกส์"รับเทรนด์เฮลธ์แคร์
TNN ช่อง16
3 มกราคม 2564 ( 09:16 )
88
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด และที่ปรึกษาการลงทุน บลจ.ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า แผนปี 64 ยังเดินหน้านำเสนอกองทุนที่เป็น ‘นวัตกรรมการลงทุน’ ในธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ของโลก รวมถึงเพิ่มกองทุนรวมใหม่ที่ลงทุนในตลาดหุ้นที่มีศักยภาพการเติบโต เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเฮลธ์แคร์ และธุรกิจเทคโนโลยี เพราะรายได้ในกลุ่มธุรกิจดังกล่าวมีโอกาสเติบโตอย่างมากตามพฤติกรรมและโครงสร้างของประชากรโลก
โดยหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่ควบรวมสองเมกะเทรนด์ข้างต้นไว้ด้วยกันคือ กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ‘จีโนมิกส์’ซึ่งรายงานของ McKinsey Global Institute ได้ยกให้ ‘จีโนมิกส์’ เป็น 1 ใน 12 ธุรกิจเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก (Disruptive technologies) อีกด้วย
“จีโนมิกส์ คือ การถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์ หนึ่งในนวัตกรรมทางการแพทย์ระดับโลกที่ช่วยแก้ไขปัญหาสุขภาพที่มีความซับซ้อนและหลากหลายของมนุษย์ โดยลงลึกการตรวจวินิจฉัย ป้องกัน และรักษาโรคอย่างแม่นยำแบบ ‘จำเพาะรายบุคคล’ ช่วยเพิ่มโอกาสการรักษาหาย และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้น
โดยปัจจุบันวงการจีโนมิกส์ให้ความสนใจในการศึกษาวิจัยเรื่องการแสดงออกของยีนก่อโรค เช่น โรคมะเร็งต่างๆ อัลไซเมอร์ เบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจตีบและอุดตัน ดาวน์ซินโดม เป็นต้นขณะที่ประเทศไทยได้นำนวัตกรรมดังกล่าวมาวินิจฉัย ดูแล และป้องกันการกลายพันธุ์ของยีนในเซลล์มะเร็งชนิดต่า งๆ เพื่อการรักษา และให้ยาได้ตรงความต้องการของผู้ป่วยแต่ละบุคคล ช่วยลดอาการข้างเคียงจากการรักษาแบบเดิม และช่วยยืดชีวิตผู้ป่วยให้ยืนยาวขึ้น ซึ่งบลจ.ทิสโก้มองว่าหลังจากนี้ทั่วโลกจะนำเทคโนโลยีการรักษานี้มาพัฒนา และใช้กับผู้ป่วยมากขึ้นเรื่อยๆ และจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้มีโอกาสเติบโตที่ดีในระยะยาว
ทั้งนี้เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีตามเทรนด์ของโลก บลจ.ทิสโก้จึงเริ่มต้นปีด้วยการเปิดเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้Genomic Revolution (TGENOME) ความเสี่ยงระดับ 7 (ความเสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในบริษัทที่มีธุรกิจเกี่ยวข้องกับธีม Genomics Revolution ที่ได้รับประโยชน์จากการยืดอายุขัย และการยกระดับคุณภาพชีวิตของมนุษย์ รวมถึงสิ่งมีชีวิตอื่น
นอกจากนี้การพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ร่วมกับความก้าวหน้าและวิวัฒนาการของการศึกษาหน้าที่และเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับหน่วยที่ควบคุมลักษณะของพันธุกรรม (Genomics) ผ่านหน่วยลงทุนของกองทุน ARK Genomic Revolution ETF (กองทุนหลัก)ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟที่ใช้กลยุทธ์การบริหารแบบเชิงรุก จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท เปิดเสนอขายครั้งแรกวันที่ 4-12 ม.ค.นี้ โดยยกองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมจึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
สำหรับความน่าสนใจของกองทุนนี้มาจากสองปัจจัยหลัก ปัจจัยแรก คือ โอกาสการเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับจีโนมิกส์นั้นอยู่ในระดับที่น่าสนใจ
อย่างเช่นการรักษามะเร็งด้วยวิธีเซลล์บำบัด หรือคาร์ทีเซลล์ (CAR-T Cell Therapies) โดยนำเม็ดเลือดขาวของผู้ป่วยออกมาเลี้ยงและดัดแปลงยีนก่อนฉีดกลับเข้าไปในคนไข้นั้น ข้อมูลจาก Ark Invest ระบุว่า ปัจจุบันสหรัฐฯ อนุญาตให้ใช้วิธีดังกล่าวรักษามะเร็งระยะ 3-4สามารถสร้างมูลค่าตลาดในสหรัฐฯ ได้ประมาณ 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
แต่ถ้าหากว่า CAR-T cell ได้รับอนุมัติให้ใช้กับมะเร็งระยะเริ่มต้นได้ จะมีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 105,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่าเลยทีเดียว ธุรกิจต่อมา คือ การตรวจหามะเร็งจากตัวอย่างเลือด (Liquid Biopsies) ซึ่งเป็นหนึ่งในนวัตกรรมจีโนมมิกส์ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยรู้ตัวเร็วและเข้าสู่การรักษาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรกข้อมูลจาก Polaris Market Research คาดว่าในระหว่างปี 62 - 69 มูลค่าตลาด Liquid Biopsies จะเติบโต 21.9% ต่อปี จากปี 61 มีมูลค่าการตลาดอยู่ที่ 65.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ปัจจัยที่สอง คือ ผลตอบแทนในอดีตของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับจีโนมิกส์อยู่ในระดับที่โดดเด่น โดยกองทุน ARK Genomic Revolution ETF ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับจีโนมิกส์สามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปีและตั้งแต่จัดตั้งกองทุนถึงปัจจุบันตามข้อมูลของบลจ.ทิสโก้ ณ วันที่ 30 ก.ย.นั้นพบว่า 22.19% ในช่วง 3 เดือนผลตอบแทนอยู่ที่ 122.11%
สำหรับการลงทุน 1 ปีผลตอบแทนที่ 37.37% ลงทุน 3 ปีอยู่ที่ 29.26% ต่อปี และ5 ปีอยู่ที่ 22.92% ต่อปี ซึ่งสามารถเอาชนะดัชนีชี้วัดกองทุน ได้แก่ ดัชนี S&P 500 ที่ในช่วงเวลาเดียวกันสร้างผลตอบแทนได้ 8.93% ขณะที่ 3 เดือนอยู่ที่ 15.15%1 ปีผลตอบแทนที่ 12.28% ต่อปี ลงทุน 3 ปีอยู่ที่ 14.15% ต่อปี และ 5 ปีอยู่ที่ 11.46% ต่อปี
ดัชนี MSCI World ในช่วงเวลาเดียวกันสร้างผลตอบแทนได้ 7.93% 10.41% ต่อปี 7.74% ต่อปี 10.48% ต่อปี และ 7.90% ต่อปี และดัชนี NASDAQ Biotech ซึ่งเป็นดัชนีที่เกี่ยวข้องกับหุ้นไบโอเทค ในช่วงเวลาเดียวกันอยู่ที่ -0.82%ช่วง 3 เดือนอยู่ที่ 36.90% ต่อปี 1 ปีอยู่ที่ 7.40% 3 ปีอยู่ที่ 6.61% ต่อปี และ 5 ปีอยู่ที่ 5.97% ต่อปี ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม ไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
สำหรับผู้ที่ลงทุนในกองทุนนี้ นอกจากจะได้รับโอกาสที่ดีในการลงทุนแล้ว ยังได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบริจาคเงินให้กับคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อกองทุนภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง สำหรับเป็นทุนในการรักษาผู้ป่วยและกิจกรรมอื่นๆ ในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง ด้วยหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ โดยตั้งแต่วันที่ 4 - 12 ม.ค. ทุกๆ ยอดซื้อกองทุน TGENOME 100,000 บาท
ผ่านบลจ.ทิสโก้ ธนาคารทิสโก้ และบริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ บลจ.ทิสโก้จะบริจาคค่าธรรมเนียมการขายกองทุน 50 บาท ให้กับกองทุนภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง
ทั้งนี้กองทุนเปิด TGENOME อาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ จึงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนรวม โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนก่อนลงทุน
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE