ญี่ปุ่นร้อนผิดฤดูกาล ผู้คนล้มป่วยหนัก นักวิทิย์ฯ ชี้ต้นตอจาก “โลกร้อน”

26 มิถุนายน 2568 ( 11:00 )
18
ศูนย์วิจัย World Attribution Center (WAC) ซึ่งเป็นกลุ่มนักวิจัยอิสระด้านภูมิอากาศ ได้วิเคราะห์อิทธิพลของภาวะโลกร้อนที่มีต่อสภาพอากาศในญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 16–18 มิ.ย. โดยพบว่า อุณหภูมิเฉลี่ยที่ระดับความสูง 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเลอยู่ที่ 17.2 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1950 นอกจากนี้ ยังพบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมจนถึงกลางเดือนมิถุนายน มีสถานีอุตุนิยมวิทยากว่า 200 แห่งที่วัดอุณหภูมิได้เกิน 35 องศาเซลเซียส มากที่สุดเป็นประวัติการณ์
สิ่งที่ทำให้เหตุการณ์นี้น่าตกใจกว่าปกติ คือคลื่นความร้อนนี้เกิดขึ้นในขณะที่ญี่ปุ่นยังอยู่ในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะในภูมิภาคคันโต-โคชิน ซึ่งรวมถึงกรุงโตเกียวที่เพิ่งเข้าสู่ฤดูฝนได้ไม่นาน แต่กลับต้องเผชิญอุณหภูมิพุ่งสูงจนทำให้เกิดเหตุฉุกเฉินด้านสุขภาพ
เพียงสัปดาห์เดียว (ถึงวันอาทิตย์ที่ 23 มิ.ย.) มีผู้ถูกนำส่งโรงพยาบาลด้วยอาการเจ็บป่วยจากความร้อน (heatstroke) มากถึง 8,603 คนทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 966 คนในสัปดาห์ก่อนหน้า โดยกรุงโตเกียวมีผู้ป่วยมากที่สุด 896 คน ตามด้วยจังหวัดไอจิ 706 คน และไซตามะ 648 คน
จากการวิเคราะห์ของ WAC คลื่นความร้อนนี้เกิดจากสภาพอุตุนิยมวิทยาที่ซับซ้อน คือมีระบบความกดอากาศสูงในมหาสมุทรแปซิฟิกที่ทรงพลังผิดปกติใกล้กับญี่ปุ่น และมีคลื่นบรรยากาศที่เดินทางมาจากยุโรปผ่านกระแสลมเจ็ตเขตร้อน
แม้เหตุการณ์อุณหภูมิสูงถึง 17.2 องศาเซลเซียสที่ระดับความสูง 1,500 เมตร จะมีโอกาสเกิดขึ้นเพียง 6% ภายใต้สภาพภูมิอากาศปัจจุบัน (หรือราวหนึ่งครั้งในรอบ 17 ปี) แต่หากย้อนกลับไปตามสถิติในอดีต เหตุการณ์ลักษณะนี้ควรจะเกิดเพียงครั้งเดียวในรอบ 85 ปี
นักวิจัยยังระบุว่า หากไม่มีภาวะโลกร้อนจากกิจกรรมของมนุษย์ คลื่นความร้อนรุนแรงครั้งนี้ "ไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย" แม้จะมีความแปรปรวนตามธรรมชาติของสภาพอากาศก็ตาม
แม้ปีนี้อาจไม่รุนแรงเท่าปีที่แล้ว ซึ่งญี่ปุ่นเผชิญหน้ากับฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ แต่ทางบริษัทพยากรณ์เอกชน Weathernews คาดว่า ญี่ปุ่นจะยังคงเผชิญกับอากาศร้อนจัด โดยอุณหภูมิอาจแตะ 35–40 องศาเซลเซียสในบางพื้นที่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นสิงหาคม หากระบบความกดอากาศจากมหาสมุทรแปซิฟิกและที่ราบสูงทิเบตเคลื่อนตัวเข้ามาพร้อมกัน
ศูนย์ WAC ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม โดยเป็นองค์กรเฉพาะทางด้าน “event attribution” หรือวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ จุดประสงค์ของศูนย์คือการเผยแพร่ผลวิเคราะห์ภายในไม่กี่วันหลังเกิดภัยพิบัติ เช่น พายุฝนฟ้าคะนอง น้ำท่วม หรือคลื่นความร้อน เพื่อให้ข้อมูลยังสดใหม่ในความทรงจำของสาธารณชนและผู้กำหนดนโยบาย
แม้งานวิจัยลักษณะนี้จะเริ่มต้นมาแล้วกว่า 15 ปี แต่จนถึงไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์เพิ่งเริ่มสามารถเผยแพร่ผลการศึกษาได้ภายในระยะเวลาไม่กี่วันหลังเหตุการณ์ ไม่ใช่รอหลายเดือนเหมือนในอดีต
เมื่อความร้อนผิดฤดูกาลกลายเป็นเรื่องปกติใหม่ สิ่งที่ญี่ปุ่นเผชิญไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นสัญญาณเตือนจากธรรมชาติว่าโลกกำลัง เปลี่ยนแปลงเร็วกว่าที่เราคิด และมนุษย์คือผู้ผลักดันความเปลี่ยนแปลงนั้นอย่างปฏิเสธไม่ได้
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
