TISCO เผยกำไร Q3/68 ที่ 1,730.23 ลบ. โต 0.98% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

#TISCO #ทันหุ้น-บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ไตรมาส 3/68 มีกำไร 1,730.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.98% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 1,713.43 ล้านบาท โดยรายได้รวมเติบโต 10.1% ประกอบด้วยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 1.3% จากต้นทุนเงินทุนที่ปรับลดลง สอดคล้องกับภาวะดอกเบี้ยขาลง รายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้น16.9% จากการฟื้นตัวของธุรกิจนายหน้าประกันภัย เป็นไปตามปริมาณการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ปรับตัวดีขึ้น รวมถึงรายได้ที่เกี่ยวกับสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น รายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานธุรกิจจัดการกองทุนขยายตัว 11.4% จากการออกกองทุนรวมใหม่ที่เพิ่มขึ้นในระหว่างไตรมาส

นอกจากนี้ บริษัทมีกำไรจากเงินลงทุนที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน(FVTPL) เพิ่มขึ้นตามมูลค่าพอร์ตเงินลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม รายได้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ชะลอตัวลงตามปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ลดลง ในงวดนี้ บริษัทตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.4%ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย เพื่อรองรับความเสี่ยงจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ยังเปราะบางในขณะที่ยังคงควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 0.3%

รายได้ดอกเบี้ยสุทธิในไตรมาส 3/68 มีจำนวน 3,428.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 42.62 ล้านบาท (ร้อยละ 1.3)เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยรายได้ดอกเบี้ยมีจำนวน 4,619.64 ล้านบาท ลดลง 129.48 ล้านบาท (ร้อยละ 2.7)จากการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัว หลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยรวม 4 ครั้ง ประกอบกับการลดภาระดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางในโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ด้านค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยมีจำนวน1,191.61 ล้านบาท ลดลง 172.10 ล้านบาท (ร้อยละ 12.6) ตามต้นทุนเงินฝากที่ปรับลดลง สอดคล้องกับทิศทางภาวะดอกเบี้ยขาลง

ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ในไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 1,844.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.6 จากไตรมาส 3 ปี2567 จากธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจจัดการกองทุน พร้อมกับการรับรู้ผลกำไรจากเงินลงทุน รายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์ปรับตัวดีขึ้นร้อยละ 16.9 มาอยู่ที่จำนวน 940.25 ล้านบาท จากการขยายตัวของธุรกิจนายหน้าประกันภัย ซึ่งเป็นตามปริมาณการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ฟื้นตัว ประกอบกับการบันทึกรายได้รับจากเงินสมทบจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน(FIDF) ในโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” และรายได้ค่าธรรมเนียมการชำระคืนสินเชื่อก่อนกำหนดของลูกหนี้ธุรกิจขนาดใหญ่รายหนึ่งรายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานของธุรกิจจัดการกองทุนมีจำนวน 486.64 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 11.4จากการออกกองทุนรวมใหม่ในช่วงที่ผ่านมา รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์มีจำนวน 122.48 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 19.7 ตามปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่อ่อนตัวลง