พายุสุริยะระดับ X5.1 พุ่งตรงมายังโลก เกิดพายุสนามแม่เหล็ก ระดับ G4

GISTDA (สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ) เปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสภาพอวกาศล่าสุด หลังเกิดปรากฏการณ์ปะทุของเปลวสุริยะครั้งใหญ่

เมื่อวันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน 2568 เกิดการปะทุของเปลวสุริยะขนาดรุนแรงสูงสุด ระดับ X5.1 พร้อมกับการปล่อยมวลโคโรนาแบบสมบูรณ์ (Full Halo CME) ซึ่งมุ่งตรงมายังโลก

พายุแม่เหล็กโลก G4 เข้าสู่ชั้นบรรยากาศ 11 พ.ย.

GISTDA ได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และวิเคราะห์ด้วยระบบพยากรณ์สภาพอวกาศ JASPER พบว่า มวลโคโรนาขนาดมหาศาลจากเปลวสุริยะได้เดินทางมาถึงโลกแล้ว และส่งผลให้เกิด พายุสนามแม่เหล็กโลก (Geomagnetic Storm) ระดับ G4 ซึ่งจัดเป็นระดับรุนแรง

พายุสุริยะระดับ X5.1  ส่งผลกระทบทั่วโลกอย่างไร? 

ผลกระทบทั่วโลก

- พายุแม่เหล็กโลกระดับ G4 อาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมและเทคโนโลยีต่าง ๆ ทั่วโลก:

- แสงออโรร่า (Aurora): อาจขยายลงมาถึงบริเวณละติจูดแม่เหล็กประมาณ 45 องศา

- ดาวเทียม: อาจเกิดปัญหาด้านการสื่อสาร, การควบคุมทิศทาง, และการปรับระดับความสูง

- สัญญาณสื่อสาร: สัญญาณความถี่สูง (HF) อาจขัดข้องเป็นระยะ

- โครงสร้างพื้นฐาน: อาจเกิดกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำในระบบท่อส่งน้ำมันหรือก๊าซธรรมชาติ

ประเทศไทยปลอดภัย แต่ต้องเฝ้าระวัง

จากการวิเคราะห์ของระบบ JASPER ประเทศไทยยังคงปลอดภัยจากผลกระทบโดยตรง เนื่องจากตั้งอยู่ในบริเวณละติจูดต่ำและมีสนามแม่เหล็กโลกปกป้อง อย่างไรก็ตาม GISTDA ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง เช่น ด้านดาวเทียมสื่อสาร, การบิน, และพลังงาน ควรเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์สภาพอวกาศอย่างใกล้ชิด

GISTDA ยังคงติดตามสถานการณ์พายุสนามแม่เหล็กโลกตลอดวันที่ 11 – 12 พฤศจิกายน 2568 และจะรายงานข้อมูลล่าสุดทันทีเมื่อมีอัปเดต