รีเซต

บาทผันผวน: ส่งออกไทยเสี่ยง - เร่งสร้างภูมิคุ้มกัน

บาทผันผวน: ส่งออกไทยเสี่ยง - เร่งสร้างภูมิคุ้มกัน
TNN ช่อง16
29 กันยายน 2567 ( 18:17 )
17
บาทผันผวน: ส่งออกไทยเสี่ยง - เร่งสร้างภูมิคุ้มกัน



ในช่วงที่ผ่านมา ค่าเงินบาทมีความผันผวนอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจโดยเฉพาะการส่งออกของไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางการบริหารความเสี่ยงสำหรับภาคธุรกิจ ตลอดจนวิเคราะห์บทบาทของตลาดปริวรรตเงินตราในระบบการเงินโลก


ผลกระทบต่อการส่งออกไทย


นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัลฯ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ชี้ให้เห็นว่าการส่งออกของไทยในระยะยาวต้องพึ่งพาปัจจัยพื้นฐานมากกว่าความได้เปรียบด้านราคาผ่านอัตราแลกเปลี่ยน ปัจจัยเหล่านี้รวมถึงผลิตภาพของอุตสาหกรรม ประสิทธิภาพการผลิต และความสามารถในการพัฒนานวัตกรรม อย่างไรก็ตาม การปล่อยให้ค่าเงินบาทผันผวนมากเกินไปอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาคส่งออก


การบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน


ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ภาคธุรกิจใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงิน เช่น:


1. สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Forward Contract)

2. สิทธิในการขายสกุลเงิน (Put Option)

3. การทำสวอป (Swap)


โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แนะนำให้ภาคส่งออกไทยทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนในสัดส่วน 70-100% ของรายได้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศ


บทบาทของตลาดปริวรรตเงินตรา


ตลาดปริวรรตเงินตรามีบทบาทสำคัญในระบบการเงินโลก โดยทำหน้าที่เป็น Clearing House และแหล่งข้อมูลสำหรับผู้ทำธุรกรรมระหว่างประเทศ โครงสร้างของตลาดนี้ประกอบด้วยผู้เล่นหลายกลุ่ม ได้แก่:


1. ธนาคารและสถาบันการเงิน

2. ผู้ดำเนินธุรกรรมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ

3. กองทุนบริหารอัตราแลกเปลี่ยน

4. นักเก็งกำไรและผู้ค้า

5. ธนาคารกลางและหน่วยงานการคลัง

6. นายหน้าตลาดปริวรรตเงินตรา


นโยบายการเงินและผลกระทบ


การดำเนินนโยบายการเงินมีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท หากธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อาจดึงดูดเงินทุนระยะสั้นเข้ามาเก็งกำไรในตลาดการเงินไทยมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ปรากฏการณ์ Dutch Disease ส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนแท้จริงแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว และอาจทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลได้


----- 


ความผันผวนของค่าเงินบาทเป็นความท้าทายสำคัญสำหรับภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะภาคการส่งออก การใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนจึงเป็นสิ่งจำเป็น นอกจากนี้ การพัฒนาปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ เช่น การเพิ่มผลิตภาพและการพัฒนานวัตกรรม จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคการส่งออกในระยะยาว ในขณะเดียวกัน การดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวังของธนาคารแห่งประเทศไทยก็มีความสำคัญในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและป้องกันผลกระทบจากการเก็งกำไรค่าเงิน



ภาพ Freepik 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง