บิ๊กตู่ คิกออฟฉีดไฟเซอร์เด็กนักเรียน ย้ำมีวัคซีนเพียงพอปีนี้ถึงปีหน้า
บิ๊กตู่ คิกออฟฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้เด็กนักเรียน สร้างภูมิคุ้มกันรองรับเปิดเทอม ย้ำวัคซีนมีเพียงพอ 150-170 ล้านโดสในปีนี้ ฝากหลานๆให้ความสำคัญการเรียน
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 4 ต.ต.2564 ที่โรงเรียนพิบูลอุปถัมภ์ ถ.ลาดพร้าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีคิกออฟสร้างเกราะป้องกันด้วยวัคซีน เด็กปลอดภัย เรียนอุ่นใจ ต้อนรับเปิดเทอม ซึ่งเป็นวันแรกของการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กนักเรียน อายุ 12-18 ปี เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและรองรับการเปิดภาคเรียน
วันนี้จะฉีดวัคซีนเข็มแรกพร้อมกัน 15 จังหวัด ใน 13 เขตสุขภาพ โดยมีน.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ คุณหญิงกัลยา โสภณพณิชย์ รมช.ศึกษาธิการ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข รวมถึง ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อาทิ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ น.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ นายจักรพันธ์ พรนิมิตร และนายศิริพงษ์ รัสมี
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขมีแนวทางฉีดวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กอายุ 12-18 ปี (ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 หรือเทียบเท่า) ประมาณ 4.5 ล้านคนทั่วประเทศ โดยระยะแรกจัดสรรวัคซีน 2 ล้านโดส ในต้นเดือนต.ค.นี้ โดยบูรณาการกับงานอนามัยโรงเรียน เพื่อให้เด็กได้เข้าถึงวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการฉีดวัคซีนไม่ได้เป็นเงื่อนไขในการเปิดเรียนต้นเดือนพ.ย.นี้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมมือมาฉีดในครั้งนี้ เพื่อสร้างเกราะป้องกันให้กับเด็กมีความปลอดภัยอุ่นใจต้อนรับเปิดเทอม วันนี้ตนเห็นภาพผู้ปกครองนั่งเรียนกับลูกในกรณีที่เด็กอยู่บ้านเชื่อว่าไม่ใช่ภาระ ถ้ามีเวลาก็อยู่กับลูกกับหลานเป็นช่วงเวลาครอบครัวที่ได้อยู่ร่วมกัน แต่ต้องขอโทษถ้ามีหลายคนรู้สึกเป็นภาระ แต่วันนี้ต้องใกล้ชิดกันในครอบครัวมากยิ่งขึ้น เพื่อมีภูมิต้านทานในการอยู่ในโลกใบนี้ต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการส่งเสริมและเตรียมความพร้อมด้านการศึกษาให้เดินหน้าไปได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการฉีดระยะแรกให้ได้รับวัคซีนกันครบถ้วน เพื่อเตรียมเปิดเทอม และเพื่อให้ความมั่นใจผู้ปกครองที่จะส่งบุตรหลานมาเรียนในโรงเรียน สำหรับวัคซีนที่ฉีดให้เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปนี้ เป็นวัคซีนไฟเซอร์ที่มีประสิทธิภาพและได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก ถ้าเราฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมในนักเรียน ครู และบุคลากรทางศึกษาก็จะทำให้การเปิดภาคเรียนที่ 2 ปี 2564 เป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกภาคส่วน ตนอยากเห็นภาพทุกคนได้รับวัคซีนอย่างถ้วนหน้า เป็นหน้าที่ของรัฐบาลอยู่แล้ว แต่การจัดหาวัคซีนมี 2 ประเภทคือวัคซีนหลักที่รัฐบาลจัดหา ซึ่งเป็นการเจรจาโดยภาครัฐ รัฐบาลต่อรัฐบาล แต่ละวัคซีนทางเลือกเป็นการเจรจาระหว่างผู้จำหน่ายวัคซีน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนทั่วไป โดยยืนยันปีนี้วัคซีนมีเพียงพอทั้งปีนี้และไปถึงปีหน้า คาดการณ์ว่ามีวัคซีน 150-170 ล้านโดสในปีนี้ ฉีดได้ครบถ้วนตามที่เราตั้งเป้าไว้ ย้ำว่าวันนี้ต้องเดินหน้าประเทศไปข้างหน้า ให้การเปิดภาคเรียนการศึกษาเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่การควบคุมการแพร่ระบาดก็เป็นไปตามแผนที่เราคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ฝากนักเรียนช่วยกันศึกษา เรียนหนังสือและคิดว่าเราจะเรียนไปเพื่ออะไร นั่นเป็นคำตอบของตัวเองและเป็นอนาคต ว่าวันหน้าจะมีงานทำและเลี้ยงดูครอบครัวได้หรือไม่ ฝากหลานๆ ทุกคน ให้ความสำคัญการเรียนมากกว่าเรื่องอื่นว่าเราจะเรียนหนังสือไปเพื่ออะไร ต้องมีจุดมุ่งหมาย ไม่ใช่เรียนให้จบให้ผ่านและได้ปริญญาเพียงเท่านั้น ซึ่งการหางานไม่ใช่เรื่องง่ายนักในโลกปัจจุบัน ถ้าเราไม่เตรียมความพร้อมตัวเอง ความคิดและหลักการต่างๆ มันมีปัญหามากแน่นอน
“ขอให้ทุกคนสนใจเรื่องการเรียนให้มากที่สุด สนใจสถาบันครอบครัว พ่อ แม่ พี่น้อง ญาติ พี่ ป้า น้า อา นั่นคือเทือกเขาเหล่ากอของเรา เหมือนผมก็มีรากเหง้าของผม ถ้าเราไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน ไม่ต้องมีความสัมพันธ์กับใครเลยไม่ใช่ โลกใบนี้อยู่แบบนั้นไม่ได้ โดยเฉพาะประเทศไทยให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ ประวัติศาสตร์ ศีลธรรมและศาสนา สิ่งสำคัญที่สุดคือวินัย ผมอาจเป็นทหารมาก่อนได้รับการฝึกปฏิบัติมาจึงไม่เคยต่อต้านเรื่องเหล่านี้ แต่ถ้าเราไม่มีวินัย ก็สะเปะสะปะไปเรื่อย อยากทำอะไรก็ทำ อาจรบกวนสมาชิกคนอื่น จึงขอฝากไว้ด้วย”นายกฯ กล่าว