บิ๊กตู่ ขอไม่ชี้นำ แก้วิกฤตปท. หนุนการพูดคุย ยันรับฟังทุกฝ่าย เชื่อทุกปัญหามีทางออก
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงวิธีการการแก้ไขปัญหาและสร้างความปรองดองในประเทศว่า ตนไม่เคยต้องไปชี้นำว่าจะต้องแก้ไขกันอย่างไร แต่เชื่อว่า ทุกปัญหาย่อมมีทางออกอยู่แล้วถ้าหากทุกคนจริงใจ และมาช่วยกันคิดและทำในสิ่งที่มีความเป็นไปได้และเป็นไปตามขั้นตอน กลไก และกฎหมายที่มีอยู่
“เราก็แก้ไขกันด้วยกฏหมาย เพราะเราอยู่กันด้วยกฏหมาย ทุกประเทศถ้าไม่มีกฎหมายก็อยู่กันไม่ได้ ประชาธิปไตยก็ต้องมีกฎหมายเป็นหลักเพื่อที่จะทำให้ไม่เกิดผลกระทบซึ่งกันและกัน เราต้องดำเนินการโดยหลักของความถูกต้อง บนหลักของกฎหมาย กติกาของบ้านเมือง แล้วต้องเป็นวิธีปฏิบัติที่คนส่วนใหญ่ของประเทศยอมรับได้อย่าลืมว่า เรามีประชากรเกือบ 70 ล้านคน ผมเองก็สนับสนุนทุกทางที่ใครจะเสนอหนทางออกให้กับประเทศไทยในหลากหลายความคิด ผมยืนยันว่าผมรับฟังทุกฝ่ายแล้วยังคิดว่าการร่วมพูดคุยอย่างเป็นทางการที่ดีที่สุดให้กับทุกปัญหาเสมอไป ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่อยากพูดกับพวกเราซึ่งต้องช่วยกันทำให้บ้านเมืองของเราเดินหน้าต่อไปได้โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่กำลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ผมพยายามทุ่มเท สติปัญญาและเวลาให้กับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ร่วมกับฝ่ายเศรษฐกิจทุกกระทรวงทั้งในคณะรัฐมนตรีด้วย หลายอย่างก็คล้ายกับทุกประเทศไม่มีความแตกต่างในเรื่องที่เกิดปัญหาจากการแพทยระบาดของโควิด-19 “ นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถึงแม้ว่า เราจะไม่มีการเยี่ยมเยียนต่างประเทศ รวมทั้งต่างประเทศเองก็ไม่ได้เดินทางมาอย่างประเทศไทยเพราะติดปัญหาเรื่องของโควิด เป็นประเด็นสำคัญอย่างไรก็ตามตนได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้นำในประเทศต่างๆรวมทั้งการประชุมทางไกลผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ และในสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 14 -16 พ.ย.จำนวน 3 วัน จะมีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่มีประเทศเวียดนามเป็นประธานและเจ้าภาพในปีนี้ซึ่งของจะได้ข้อสรุปหลายอย่างในการดำเนินการก็คงต้องรอดูในเรื่องของการลงนามร่วมกันในความเห็นชอบต่างๆของ ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรือ อาเซ็ป ซึ่งน่าจะสำเร็จในปีนี้เนื่องจากมีการเริ่มต้นมาจากครั้งที่แล้ว