เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (17 มิ.ย. 2565)

ลาฟรอฟ ยอมรับ รัสเซียไม่ได้ขาวสะอาด แต่ยืนยันไม่ได้รุกรานยูเครน

รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียยอมรับ รัสเซียไม่ได้ขาวสะอาดบริสุทธิ์ แต่ยืนยัน รัสเซียไม่ได้รุกรานยูเครน และไม่มีสงครามในยูเครน กล่าวหาประเทศตะวันตกใช้ยูเอ็นและองค์กรระหว่างประเทศกระจายข่าวเท็จ

เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์พิเศษ BBC วานนี้ (16 มิ.ย.) รัสเซียไม่ได้ขาวสะอาดบริสุทธิ์ และไม่จำเป็นต้องรู้สึกละอายที่แสดงความเป็นตัวของตัวเอง ยืนยันว่า รัสเซียไม่ได้รุกรานยูเครน เราประกาศปฏิบัติการพิเศษทางทหาร เพราะไม่มีหนทางอื่นใดแล้วที่จะอธิบายว่า การที่ประเทศตะวันตกลากดึงเอายูเครนเข้าสู่องค์การนาโตนั้น เป็นการก่ออาชญากรรม

เขากล่าวย้ำเหตุผลของรัสเซียในการเปิดปฏิบัติการในยูเครน เช่นเดียวกับที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลรัสเซียยืนยันตลอดมาว่า เนื่องจากมีนาซีอยู่ในยูเครน ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รัฐบาลรัสเซียระบุว่า ปฏิบัติการรัสเซียในยูเครน คือการที่กองทัพรัสเซียกำลังปฏิบัติการกวาดล้างนาซีออกจากยูเครน

ลาฟรอฟยังระบุด้วยว่า เลขาธิการสหประชาชาติ หรือยูเอ็น และบรรดานักการทูตระหว่างประเทศ รวมถึงสำนักข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งยูเอ็น ล้วนตกอยู่ใต้แรงกดดันจากประเทศตะวันตก และหลายครั้งที่พวกเขาถูกประเทศตะวันตกหลอกใช้กระจายข่าวเท็จ หรือเฟคนิวส์

ลาฟรอฟยังกล่าวหา BBC ผู้ทำการสัมภาษณ์พิเศษเขาในครั้งนี้ว่า ปกปิดความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพลเรือนในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน ที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครนยึดครองอยู่ ลาฟรอฟ ระบุว่า พลเรือนที่นั่นถูกทหารยูเครนทิ้งระเบิดมานานถึง 8 ปีแล้ว

สำหรับเซอร์เก ลาฟรอฟวัย 72 ปี ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียมาแล้ว 18 ปี

สามผู้นำมหาอำนาจยุโรป ฝรั่งเศส เยอรมนี และ อิตาลี เดินทางถึงยูเครนแล้ว 

ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส พร้อมด้วย นายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ของเยอรมนี และ นายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากีของอิตาลี  เดินทางถึงกรุงเคียฟ หลังจากที่ผู้นำทั้งสามประเทศยักษ์ใหญ่แห่งยุโรป ถูกวิจารณ์ว่า ไม่ได้ให้การสนับสนุนยูเครนอย่างจริงจังในการต่อสู้รับมือกับปฏิบัติการทางทหารในยูเครนของรัสเซีย ด้านยูเครนได้กล่าวหาฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี ว่าได้แต่ยื้อเวลา ส่งความช่วยเหลือด้านอาวุธให้ช้า และยึดถือผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของตัวเองมากกว่าความมั่นคงของยูเครน

กรณีนายมาครง ถูกยูเครน และ พันธมิตรในยุโรปตะวันออก กล่าวโจมตีอย่างหนักหลังออกมาแถลงทำนองเข้าข้างรัสเซียมากกว่ายูเครนก่อนทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะแถลงอธิบายและยืนยันท่าทีฝรั่งเศสว่าสนับสนุนยูเครน

ประธานาธิบดีมาครงเผยก่อนเริ่มเดินทางไปยูเครนว่า พวกเราในฐานะยุโรปได้มาถึงจุดที่ต้องส่งสัญญาณทางการเมืองให้ชัดเจนไปที่ยูเครนและชาวยูเครนที่กำลังต่อสู้อย่างกล้าหาญ

การเดินทางไปยูเครนของผู้นำมหาอำนาจยุโรปทั้งสามคน มีขึ้นหนึ่งวันก่อนกรรมาธิการยุโรป เตรียมแถลงออกคำแนะนำให้สถานะยูเครน เป็นประเทศผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ อียู  และคาดว่าจะได้เข้าพบหารือระดับสูงกับเหล่าผู้นำยูเครนรวมทั้งประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครนด้วย

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนอีก 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

เมื่อวันพุธ (15 มิถุนายน) ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวในแถลงการณ์ว่า เขาได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ถึงการส่งมอบอาวุธครั้งใหม่นี้ ซึ่งมีทั้งปืนใหญ่ อาวุธป้องกันชายฝั่ง เครื่องกระสุนปืน และระบบจรวดขั้นสูง ที่ยูเครนต้องการใช้ป้องกันประเทศจากปืนใหญ่ของรัสเซีย

นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่า สหรัฐฯ ส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ยูเครนเพิ่มเติมอีก 225 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 8.1 พันล้านบาท ​เพื่อช่วยเหลือชาวยูเครน ทั้งน้ำดื่มที่ปลอดภัย เวชภัณฑ์ที่จำเป็น อาหาร ที่พักอาศัย และเงินสดสำหรับใช้จ่ายสินค้าจำเป็นของครอบครัว

ไบเดน ระบุว่า ความกล้าหาญและความมุ่งมั่นของชาวยูเครนยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้แก่โลกต่อไป โดยสหรัฐฯ พร้อมชาติพันธมิตรและหุ้นส่วนจะยังคงยึดมั่นต่อชาวยูเครนที่ต่อสู้เพื่อสันติภาพ

การประกาศเพิ่มความช่วยเหลือครั้งนี้มีขึ้น ขณะที่ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ประชุมกับรัฐมนตรีกลาโหมจากกว่า 45 ประเทศในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม โดยประเทศที่เข้าร่วมประชุมได้ส่งอาวุธเพื่อช่วยเหลือกองกำลังยูเครน ขณะที่ รัสเซียพยายามควบคุมพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนโดยสมบูรณ์ หลังจากก่อนหน้านี้พยายามโค่นล้มรัฐบาลยูเครนหรือเข้ายึดกรุงเคียฟไม่สำเร็จหลังรุกรานยูเครนมาสามเดือนครึ่ง

ออสติน ระบุว่า ชาติพันธมิตรตะวันตกยึดมั่นที่จะช่วยยูเครนป้องกันตนเองจากรัสเซียมากยิ่งขึ้น โดยเขาระบุว่า ขณะนี้เป็น “ช่วงเวลาสำคัญบนสนามรบ” เขายังกล่าวด้วยว่า กองกำลังยูเครน “เป็นแรงบันดาลใจให้เรา และต้องการพวกเราทุกประเทศ” ให้ส่งอาวุธเพิ่มให้ยูเครน ขณะที่การสู้รบในแคว้นดอนบาสเป็นไปอย่างดุเดือด

ภาพ : Reuters

ข้อมูล TNN World