เซเลนสกีเผยรัสเซียจงใจ "รอเวลา" ให้อากาสย่ำแย่ ก่อนโจมตีครั้งใหญ่ในยูเครน

ประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี เปิดเผยเมื่อวานนี้ (10 ตุลาคม) ว่า รัสเซียจงใจรอให้เกิดสภาพอากาศเลวร้ายก่อนเปิดการโจมตีครั้งใหญ่ต่อระบบพลังงานของยูเครน โดยระบุว่า สภาพอากาศที่แย่ทำให้ประสิทธิภาพของระบบป้องกันภัยทางอากาศลดลงระหว่างร้อยละ 20–30
โดยโดรนและขีปนาวุธของรัสเซียได้ถล่มสถานีพลังงานทั่วยูเครนเมื่อคืนวันพฤหัสบดี ส่งผลให้บางส่วนของกรุงเคียฟตกอยู่ในความมืด ไม่มีไฟฟ้าและน้ำใช้ในบ้านเรือน และบริการรถไฟใต้ดินข้ามแม่น้ำดนิโปรต้องหยุดชะงัก
กระทรวงพลังงานยูเครนระบุว่า ในช่วงบ่ายวันศุกร์ ยังมีลูกค้า ประมาณ 380,000 ราย ที่ยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่ซเลนสกียังกล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้ถือเป็น "การโจมตีที่หนักหน่วง" แต่ “ไม่ถึงกับเป็นจุดจบอย่างแน่นอน”
เขากล่าวด้วยว่า ปัจจุบันมี 203 สถานีพลังงาน ในยูเครนที่ต้องการระบบป้องกันทางอากาศเพื่อป้องกันการโจมตีจากรัสเซีย พร้อมแสดงความหวังว่า กลุ่มประเทศที่ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนยูเครนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรียกกันว่า “พันธมิตรที่สมัครใจ” (coalition of the willing) จะจัดการประชุมครั้งใหม่ภายในเดือนนี้
ด้านประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวว่า รัสเซียและสหรัฐฯ ยังคง “อยู่ภายใต้กรอบ” ของข้อตกลงที่บรรลุร่วมกันใน การประชุมสุดยอดที่รัฐอะแลสกา ว่าด้วยแนวทางยุติความขัดแย้งในยูเครน
เมื่อถูกถามว่าแรงผลักดันเพื่อสันติภาพในยูเครนที่เกิดขึ้นหลังการประชุมที่อะแลสกาได้หมดลงแล้วหรือไม่ ปูตินตอบว่า "ทั้งรัสเซียและสหรัฐฯ ไม่ได้เปิดเผยทุกอย่าง ที่เราได้หารือกันไว้ที่เมืองแองเคอเรจ"
ในการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหลังจบการประชุมสุดยอดที่ ทาจิกิสถาน ปูตินกล่าวเพิ่มเติมว่า เขาและประธานาธิบดีทรัมป์ต่างเห็นพ้องว่า "ประเด็นการยุติข้อขัดแย้งในยูเครนด้วยสันติวิธี จำเป็นต้องได้รับการหารือและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง"
ก่อนหน้านี้เมื่อต้นสัปดาห์ เซอร์เกย์ รีอาฟคอฟ (Sergei Ryabkov) รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของรัสเซียกล่าวว่า แรงผลักดันในการหาข้อตกลงสันติภาพสำหรับยูเครน ซึ่งปรากฏขึ้นหลังการเจรจาที่อะแลสกานั้นได้หมดลงแล้ว
แต่ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษาทางการทูตของเครมลิน กล่าวว่า ความพยายามของรัสเซียและสหรัฐฯ ในการยุติสงครามยูเครน “ยังไม่ถึงทางตัน”
ทั้งนี้ การประชุมสุดยอด ทรัมป์–ปูติน ที่จัดขึ้นในเดือนสิงหาคมที่อะแลสกา ไม่ได้บรรลุข้อตกลงสำคัญใด ๆ เพื่อยุติสงคราม ซึ่งดำเนินมานานกว่าสามปีครึ่ง และในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ก็ได้ออกมา วิจารณ์ปูตินมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รัสเซียยังคงย้ำว่า รัสเซียเปิดรับการเจรจาทางการทูต เพื่อยุติความขัดแย้ง แต่หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงสันติภาพได้ รัสเซียก็จะ “เดินหน้าบรรลุเป้าหมายทางทหารต่อไป”
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
