แพทย์เผยโป๊ปฟรานซิส สิ้นพระชนม์เพราะภาวะสมองขาดเลือด

สำนักวาติกันเผยแพร่แถลงการณ์ซึ่งลงนามโดยศาสตราจารย์ อันเดรีย อาร์กันเจลี ผู้อำนวยการสำนักงานสุขภาพและอนามัยแห่งนครรัฐวาติกัน ระบุว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสสิ้นพระชนม์เมื่อเวลา 07.35 น. เช้าวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น สิริรวมพระชนมายุ 88 พรรษา เนื่องจากสมองขาดเลือด หรือสโตรก หลังเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ทรงมีอาการวิกฤตหลายชั่วโมงก่อนสิ้นพระชนม์ช่วงเช้าวันจันทร์ แถลงการณ์บอกอีกว่า ยังมีอาการประชวรอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการสิ้นพระชนม์ของโป๊ปฟรานซิส รวมถึงภาวะทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลันที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ภาวะความดันโลหิตสูงที่หลอดเลือดแดงใหญ่ และโรคเบาหวานชนิดที่ 2
โดยสมเด็จพระสันตะปาปา ทรงเข้ารับการรักษาจากอาการปอดอักเสบที่โรงพยาบาลในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เริ่มแรกด้วยอาการติดเชื้อทางเดินหายใจรุนแรง ก่อนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นการติดเชื้อหลายชนิดที่พัฒนาไปสู่ปอดอักเสบทั้ง 2 ข้าง ทีมแพทย์ระบุอาการของพระองค์ดีขึ้นและคงที่แล้ว จึงอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่นครรัฐวาติกันเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พระองค์เสด็จกลับไปรักษาต่อที่ คาซา ซานตา มาร์ตา (Casa Santa Marta) อพาร์ตเมนต์ขนาด 2 ห้องนอนในวาติกัน
แถลงการณ์ของสำนักวาติกันระบุต่อไปว่า พระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ถูกเชิญลงบรรทมในหีบพระศพเมื่อเวลา 20.00 น. คืนวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ที่อาคาร โดมุส แซงเต มาร์เธ (Domus Sanctae Marthae) พระคาร์ดินัล เควิน โจเซฟ ฟาร์เรลล์ กาแมร์เลนโกแห่งคริสตจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ตอนนี้เป็นรักษาการผู้นำวาติกันชั่วคราว เป็นผู้รับผิดชอบยืนยันการสิ้นพระชนม์ของโป๊ปฟรานซิส ปิดผนึกห้องพำนักของพระองค์ และอัญเชิญพระศพลงบรรทมในหีบพระศพ โดยมีครอบครัวของโป๊ปและเจ้าหน้าที่อาวุโสคนอื่นๆ ของวาติกันเข้าร่วมในพิธีด้วย
จากนั้น สำนักวาติกันจะตั้งพระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าถวายความเคารพและอาลัย ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร ในเช้าวันพุธนี้ คาดกันว่าพระศพของโป๊ปฟรานซิสจะประดิษฐานอยู่ในหีบพระศพ แทนการตั้งบนแท่นสูงแบบดั้งเดิม สอดคล้องกับพระประสงค์ของพระองค์ที่ทรงเน้นความเรียบง่าย
หลังจากนี้ จากธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมา พระราชพิธีพระศพจะจัดขึ้นราว 4 – 6 วันหลังการสิ้นพระชนม์ ตามด้วยพิธีกรรมเพิ่มเติมอีก 9 วันในโบสถ์ต่าง ๆ ทั่วกรุงโรม ส่วนวันที่จะจัดพิธีฝังพระศพยังไม่มีการประกาศออกมาแน่ชัด แต่สำนักวาติกันแจ้งว่า โดยปกติแล้ว จะจัดขึ้นระหว่างวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ คาดว่าบรรดาพระคาร์ดินัลกลุ่มหนึ่ง มีกำหนดประชุมกันในวันนี้เพื่อหารือและกำหนดช่วงเวลาของการจัดพิธีฝังศพต่อไป ก่อนหน้านี้ โป๊ปฟรานซิสรับสั่งให้จัดพิธีศพแบบเรียบง่าย นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงถือเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกในรอบมากกว่า 100 ปี ที่จะถูกฝังพระศพนอกเขตวาติกัน โดยจะฝังพระศพภายในวิหารเซนต์ แมรี เมเจอร์ หนึ่งในวิหารหลัก 4 แห่งของสมเด็จพระสันตะปาปาในกรุงโรม