นักวิจัยอิสราเอลพัฒนาวิธีตรวจเลือดทดสอบระบบภูมิคุ้มกัน
เยรูซาเล็ม, 16 ธ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพุธ (15 ธ.ค.) มหาวิทยาลัยฮิบรูแห่งเยรูซาเล็ม (HU) ของอิสราเอล เปิดเผยว่าคณะนักวิจัยชาวอิสราเอลได้พัฒนาวิธีตรวจเลือดแบบใหม่เพื่อตรวจสอบสถานะระบบภูมิคุ้มกันและตรวจหาความเสี่ยงของโรคร้าย
การตรวจเลือดที่แม่นยำแบบใหม่มีเป้าหมายทดแทนวิธีตรวจแบบตัดชิ้นเนื้อที่สร้างความเจ็บปวดแก่ร่างกาย และการสแกนราคาแพงอย่างเอ็มอาร์ไอ (MRI) และซีที (CT) เพื่อตรวจจับกิจกรรมภูมิคุ้มกันและการอักเสบในเนื้อเยื่อที่พบในไขกระดูก ต่อมน้ำเหลือง และอวัยวะอื่นๆ
วิธีการใหม่ดังกล่าว ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารอีไลฟ์ (eLife) อาศัยการปลดปล่อยชิ้นส่วนเซลล์ที่กำลังจะตายของดีเอ็นเอ (DNA) เข้าสู่กระแสเลือดในรูปแบบเฉพาะที่เรียกว่าเมธิเลชัน (methylation) ในดีเอ็นเอของเซลล์แต่ละประเภท เพื่อระบุว่าชิ้นส่วนที่หมุนเวียนอยู่นั้นมาจากเนื้อเยื่อใดและอนุมานสถานะของโรคได้
คณะนักวิจัยอธิบายว่าเครื่องหมายเมธิเลชันเหล่านี้ช่วยให้สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงเซลล์ภูมิคุ้มกันของมนุษย์ และให้ข้อมูลสำคัญจากส่วนลึกภายในเนื้อเยื่อที่ไม่สามารถเข้าถึงได้จากการนับจำนวนเซลล์เม็ดเลือดมาตรฐาน โดยคณะนักวิจัยประสบความสำเร็จในการใช้วิธีนี้กับการตรวจพบมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ซึ่งมักไม่แสดงตัวในการตรวจเลือด
ทั้งนี้ การตรวจเลือดแบบใหม่ได้เก็บชิ้นส่วนดีเอ็นเอที่หลงเหลือจากการต่อสู้กับมะเร็งต่อมน้ำเหลืองของระบบภูมิคุ้มกัน โดยไม่จำเป็นต้องใช้ไขกระดูกและการสร้างภาพเพิ่มเติม