จ่อลดระดับเตือนภัยโควิดจาก 4 เหลือ 3 ชง ศบค.เปิด Test&GO ปรับโซนสี เพิ่มแซนด์บ็อก
วันนี้ (18 ม.ค.65) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุ เบื้องต้นได้หารือกับปลัดกระทรวงสาธารณสุขว่าจะลดระดับเตือนภัยโควิด จากระดับ 4 เหลือ ระดับ 3
เนื่องจากข้อมูลในสถานการณ์ปัจจุบันสามารถควบคุมโรคได้ระดับหนึ่ง และในสัปดาห์นี้ทางกระทรวงสาธารณสุขจะเสนอ ศบค.ปรับสีจังหวัดให้ลดลง พร้อมผ่อนคลายมาตรการมากขึ้น
และจะเสนอให้มีการเปิดดำเนินการให้เข้าประเทศผ่านระบบ Test & Go หากกรมควบคุมโรคประเมินแล้วว่าสถานการณ์การระบาดคลี่คลายลงก็จะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนเข้าประเทศผ่านระบบ Test & Go ในเดือนก.พ.นี้ ส่วนของหลักเกณฑ์และประเทศที่จะได้รับอนุญาตก็จะดูตามสถานการณ์
นอกจากนี้ จะมีการเสนอเพิ่มจังหวัด Sandbox เพิ่มเติม เบื้องต้นให้มีครบในทุกภูมิภาค เช่น สมุทรปราการ ชลบุรี ขอนแก่น และเชียงใหม่ เป็นต้น ส่วน กทม.เป็นอำนาจของกทม.เป็นผู้พิจารณา
สำหรับผับ บาร์ ไม่ได้มีการเสนอเข้าไปพูดคุยในการประชุมศบค.วันที่ 20 ม.ค.นี้ เนื่องจากยังเป็นจุดที่มีความอันตรายและมีหลายคลัสเตอร์
นายอนุทิน ระบุว่า หลังเปิดปีใหม่จนถึงตอนนี้ผ่านมา 18 วัน รายงานการติดเชื้อแนวโน้มอยู่ในการควบคุมได้ จำนวนผู้ที่มีอาการหนัก เสียชีวิตลงลง เสียชีวิตวันละไม่ถึง 20 ราย เทียบกับจำนวนคนติดเชื้อต่อวัน ถือว่าเปอร์เซ็นต์ยังน้อย
แต่ไม่ได้หมายความว่าดีขึ้น แม้เสียชีวิต 1 ราย ก็คือข่าวร้ายของกระทรวงสาธารณสุข เพราะไม่อยากให้ใครต้องเสียชีวิต แต่ในทางวิชาการอัตราการเสียชีวิต 0.1% ถือว่ายังควบคุมได้ และในจำนวนคนเสียชีวิตปัจจุบัน 90% เป็นกลุ่มเสี่ยง 608 และคนที่ปฏิเสธวัคซีน ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน
ส่วนกรณีความคืบหน้าวัคซีนเด็กเล็ก นายอนุทิน ระบุว่า วัคซีนไฟเซอร์ที่จะฉีดให้เด็กเล็กจะมาถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ และได้มีการประสานงานไปยังกระทรวงศึกษาและจังหวัดต่างๆ เมื่อวัคซีนมาถึงจะกระจายทันที เพราะยิ่งเก็บวัคซีนไฟเซอร์นานต้นทุนก็สูง
โดยในส่วนกระทรวงสาธารณสุขจะเริ่มฉีดวัคซีนเด็กเล็กในกทม.ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ส่วนจะเริ่มฉีดวัคซีนเด็กเมื่อใดนั้น ก็ต้องวัคซีนไฟเซอร์มาถึงก่อน แต่การฉีดวัคซีนไฟเซอร์ของเด็กเล็กต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ซึ่งการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กเล็กมีปริมาณไม่เท่าผู้ใหญ่ ส่งผลดีทำให้การฉีดวัคซีนในเด็กเล็กจะมีปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น
ส่วนกรณีที่ชุดตรวจโควิดด้วยตนเอง Antigen Test Kit หรือ ATK ขององค์การเภสัชกรรมไม่พอขายนั้น นายอนุทิน ระบุว่า อภ.พยายามจัดหาชุดตรวจ ATK ตลอดเวลา เนื่องจากทุกคนมีความต้องการ เป็นเรื่องธรรมดาที่ราคาอาจจะไม่ถูกลงตามที่ต้องการ จำนวนการจัดหาอาจจะไม่คล่องตัวเหมือนเดิม
แต่ก็ไม่ได้หยุดการจัดหาชุดตรวจ ย้ำการตรวจหาเชื้อโควิด19 ด้วยชุดตรวจ ATK ไม่จำเป็นต้องตรวจทุกวัน หากไม่ได้เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง แต่หากสงสัยว่าจะติดเชื้อ ก็ตรวจหาเชื้อสัปดาห์ละครั้ง
นอกจากนี้ นายอนุทิน ได้เดินทางมาที่หอผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรมประสาท โรงพยาบาลราชวิถี เพื่อเยี่ยมพยาบาลที่ประสบอุบัติเหตุระหว่างส่งต่อผู้ป่วย ในอำเภออุ้งผาง จังหวัดตาก โดยให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากได้เข้าไปเยี่ยมผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดขณะนี้แนวโน้มดีขึ้น ขยับมือได้เอง มีการตอบสนองมากขึ้น แต่ยังไม่สามารถโต้ตอบด้วยวาจา ได้คาดว่าจะใช้เวลาอีกซักระยะหนึ่ง
หลังจากนี้อาจจะมีการพูดคุยกับเจ้าหน้าตำรวจในพื้นที่ เพื่อประสานขอรถนำ รถรับส่งผู้ป่วย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น แต่ก็ให้ขึ้นอยู่กับบริบทของพื้นที่ ตามความเหมาะสม แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเกิดอุบัติเหตุในลักษณะนี้
อย่างไรก็ตาม ได้มีการกำชับเรื่องการใช้รถพยาบาลรับส่งผู้ป่วยต้องระมัดระวังให้มากขึ้น เพราะเวลาพยาบาล หรือหมอที่อยู่บนรถ เวลาช่วยชีวิตผู้ป่วย ฟังคลื่นหัวใจ วัดชีพจร หรือใส่เครื่องมือต่างๆ จะไม่ได้อยู่ในสายรัดเข็มขัด จึงทำให้เกิดการบาดเจ็บที่รุนแรง.