“เฉลิมชัย” สะบัดธง “ปิดอ่าวทะเลอ่าวไทย 3 จังหวัด” เริ่ม 15 ก.พ.นี้
“เฉลิมชัย”ลงอ่าวประจวบฯ สะบัดธง “ปิดอ่าวทะเลอ่าวไทย 3 จังหวัด” เริ่ม 15 ก.พ.นี้ พร้อมเปิดตัว “Fisherman Market” เพิ่มช่องทางขายให้ประมงพื้นบ้าน
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนในทะเลอ่าวไทย ประจำปี 2565 (ปิดอ่าวไทย) พร้อมเปิดโครงการกระจายสินค้าประมงพื้นบ้านสู่ผู้บริโภค (Fisherman Market) โดยกรมประมง ณ บริเวณชายทะเลอ่าวประจวบคีรีขันธ์ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในการนี้ นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง และนายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ให้การต้อนรับ
นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า มาตรการ “ปิดอ่าวไทย” เป็นมาตรการสำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ในฝั่งทะเลอ่าวไทย มีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีใช้อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เน้นย้ำให้กรมประมงดำเนินมาตรการอนุรักษ์เพื่อรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีความยั่งยืนและให้เกิดความสมดุลเหมาะสมกับการประกอบอาชีพของพี่น้องชาวประมง โดยมอบหลักการปฏิบัติงานยึดหลัก 3 ป. คือ การป้องกัน การป้องปราม และการปราบปราม พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการสร้างการรับรู้ความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเป็นสำคัญด้วย
“ในปีนี้ กรมประมง ยังดำเนินมาตรการปิดอ่าวไทย ในช่วงเวลาและพื้นที่เดิม รวมถึงเครื่องมือที่อนุญาตให้ใช้บางชนิดซึ่งเป็นของกลุ่มประมงขนาดเล็กและไม่กระทบกับมาตรการปิดอ่าวไทย เนื่องจากผลการดำเนินมาตรการฯ ในปีที่ผ่านมา ยังคงสอดคล้องกับวงจรชีวิตปลาทู สามารถฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำได้อย่างยั่งยืน โดยการสำรวจแต่ละช่วงเวลาพบว่า ตั้งแต่ 15 ก.พ. – 15 พ.ค. ในเขตพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี พบพ่อแม่พันธุ์ปลาทูมีความสมบูรณ์เพศ ขนาดความยาวเฉลี่ย 18.5 เซนติเมตร และพร้อมผสมพันธุ์ และมีการแพร่กระจายของลูกปลาทู-ปลาลัง และปลาเศรษฐกิจขนาดเล็ก และช่วงเวลา 16 พ.ค. – 14 มิ.ย. ในเขตชายฝั่งทะเลตามแผนที่แนบท้ายของประกาศปิดอ่าวไทยตอนกลางของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี พบลูกปลาวัยอ่อนที่เกิดบริเวณพื้นที่มาตรการมีโอกาสเลี้ยงตัวบริเวณชายฝั่ง และในเขตต่อเนื่องปลายแหลมเขาม่องไล่ ถึงอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และพบลูกปลาขนาดเล็ก เดินทางเคลื่อนเข้าสู่อ่าวไทยรูปตัว ก เพื่อให้ปลาทูสาวให้เจริญเติบโตเป็นพ่อแม่พันธุ์ต่อไป”
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับพิธีประกาศปิดอ่าวไทยในปีนี้เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ได้รับความสนใจจากพี่น้องชาวประมงมาร่วมเป็นสักขีพยานในการประกาศปิดอ่าวฯ และร่วมประกอบพิธีบวงสรวงพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พร้อมปล่อยขบวนเรือเจ้าหน้าที่เพื่อออกปฏิบัติหน้าที่ในช่วงประกาศใช้มาตรการดังกล่าว โดยมีเรือตรวจประมงทะเลเข้าร่วมขบวนทั้งสิ้น 8 ลำ ตลอดจนพี่น้องประมงพื้นบ้านจากหลายพื้นที่ มาแสดงเจตจำนงในความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะดูแลรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีใช้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ในงานดังกล่าว ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้มอบหนังสือรับรองมาตรฐานการทำประมงพื้นบ้านอย่างยั่งยืนให้แก่ชาวประมงพื้นบ้าน จำนวน 8 ราย มอบแผ่นป้ายเงินอุดหนุนโครงการพัฒนาอาชีพและส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน และมอบพันธุ์กุ้งก้ามกราม จำนวน 700,000 ตัว ให้แก่ผู้นำชุมชน นำไปปล่อยเพื่อเพิ่มผลผลิตในแหล่งน้ำธรรมชาติ และสร้างรายได้ให้กับชุมชน ณ แม่น้ำปราณบุรี อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตลอดจนร่วมกันปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่ง จำนวน 220,000 ตัว ประกอบด้วย กุ้งกุลาดำ 100,000 ตัว กุ้งแชบ๊ว 100,000 ตัว และปลากะพงขาว 20,000 ตัว ลงในอ่าวประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเพิ่มผลผลิตลงในแหล่งน้ำธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งด้วย
ขณะที่อีกไฮไลท์สำคัญ คือ การเปิดงานโครงการกระจายสินค้าประมงพื้นบ้านสู่ผู้บริโภค หรือ Fisherman Market ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีความห่วงใยต่อพี่น้องชาวประมงพื้นบ้านที่ประสบปัญหาในการประกอบอาชีพ เนื่องจากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยเฉพาะด้านช่องทางการจัดจำหน่ายผลผลิต จึงได้สั่งการให้กรมประมงเปิดช่องทางการตลาดสำหรับกระจายผลผลิต จำหน่ายสินค้าสัตว์น้ำเพื่อให้มีรายได้ที่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ รวมถึงสนับสนุนพัฒนาทักษะการขาย การแปรรูป และการบรรจุภัณฑ์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการประกอบอาชีพให้เกิดความมั่นคงในระยะยาวต่อไป ในพื้นที่จังหวัดชายทะเล ทั้ง 23 จังหวัด โดยส่วนกลาง กรมประมงได้เปิดตลาด Fisherman Market ในทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ เพื่อให้ชาวประมงพื้นบ้านได้นำสินค้าและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ คุณภาพดี มีมาตรฐาน มาวางจำหน่ายให้ผู้บริโภคได้ร่วมอุดหนุนในราคาสุดพิเศษ ซึ่งมีสินค้ามาวางจำหน่ายมากมายหลายรายการ หมุนเวียนกันไปแต่ละสัปดาห์
สำหรับตลาด Fisherman Market ภายในงานวันนี้ มีเกษตรกร และพี่น้องชาวประมงพื้นบ้านนำสินค้า ผลิตภัณฑ์ประมงมาจำหน่าย กว่า 30 ร้าน อาทิ ร้าน Seafood สดๆ เช่น หอยนางรม ปูม้า หอยแมลงภู่ ปลาทะเล ปลาทราย ฯลฯ และผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น หมึกแห้ง ปลาอินทรีย์แดดเดียว ปลาเค็ม กะปิ น้ำพริกปูม้า หอยแมลงภูดอง ปลากะตักทอดกรอบ กุ้งหวาน หมึกกะตอย กุ้งแห้ง ห่อหมกทะเล ฯลฯ
“กรมประมงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการต่างๆ เกิดขึ้นจากการมุ่งหวังให้อาชีพประมงเกิดความยั่งยืน พี่น้องเกษตรกรชาวประมงเกิดความมั่นคงในการประกอบอาชีพ สามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรประมงได้อย่างคุ้มค่า สร้างความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำในท้องทะเลให้คืนกลับมาได้อย่างยั่งยืน และประชาชนคนไทยได้มีสัตว์น้ำบริโภคตลอดไป รองอธิบดีกรมประมงกล่าวทิ้งท้าย