KCE เมย์แบงก์ คาดรับผลกระทบตลาดรถยนต์สหรัฐ-ยุโรปอ่อนแอ

#KCE #ทันหุ้น-บล.เมย์แบงก์(ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน)หรือ KCE คงคำแนะนำขาย แต่ได้ปรับราคาเป้าหมายเป็น 17.80 บาท มองว่าแนวโน้มกำไรหลักเฉลี่ยต่อปี(CAGR) ที่ลดลง 4.8% ในปี 2567-2571 เทียบกับปี 2562-2567 เพิ่มขึ้น 7.9% มองว่าแนวโน้มตลาดยานยนต์ในสหรัฐและยุโรป ซึ่งคิดเป็นมากกว่า 50% ของรายได้ KCE ยังอยู่ในช่วงถดถอย ทำให้กดดันราคาขายเฉลี่ยหรือ ASP ลดลงอีก 2% ในปี 2569

ฝ่ายวิจัยเมย์แบงก์ คาดว่า KCE ในไตรมาส 3/68 จะมีกำไรหลักอยู่ที่ 285 ล้านบาท ลดลง 26% YoY แต่เพิ่มขึ้น 66% QoQ ซึ่งการลดลง YoY สะท้อนถึงความอ่อนแอต่อเนื่องของตลาดยานยนต์ทั่วโลก และแรงกดดันจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง ส่วนการฟื้นตัว QoQ มาจากฤดูกาลและค่าเงินดอลลาร์/บาทที่ทรงตัวมากขึ้น

ราคาหุ้น KCE ปรับขึ้นราว 60% ตั้งแต่สหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และผลิตภัณฑ์ยานยนต์หลายรายการในช่วงปลายมีนาคม 2568 แรงหนุนหลักของ Sentiment มาจากการที่ซีอีโอของ KCE เข้าซื้อหุ้นเพิ่มราว 11.7 ล้านหุ้น (เพิ่มสัดส่วนถือครองจาก 13.9% เป็น 15.0%) ในช่วงเวลาเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงความท้าทายในตลาดยานยนต์สหรัฐฯและยุโรปที่ยังมีอยู่มาก มองว่าการปรับขึ้นของราคาหุ้นในช่วงนี้ไม่สอดคล้องกับพื้นฐาน โดยปัจจัยบวกที่อาจเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการของเราคือ 1) การได้โครงการใหม่หรือดีลขนาดใหญ่เพิ่มเติม และ2) การลดภาษีนำเข้ารถยนต์ของสหรัฐฯ