ข่าวดี! อินเดีย ชี้ "แอสตร้าเซนเนก้า" ป้องกันโควิดสายพันธุ์อินเดียได้ถึง 97%
วันนี้ (20 พ.ค.64) สื่ออินเดียหลายสำนัก อ้างผลการศึกษาโดยโรงพยาบาลอินทราปรัสถ์อพอลโล (Indraprastha Apollo) ณ เมืองนิวเดลี ประเทศอินเดีย พบว่า จากกลุ่มเป้าหมายกว่า 3,300 คนในประเทศอินเดีย มีเพียงผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพียง 2 คน สะท้อนให้เห็นว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้ามีประสิทธิผลสูงถึง 97% ในการต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย โดยกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมการศึกษาในครั้งนี้ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าและเป็นบุคคลากรด้านสาธารณสุขทั้งหมด ผลการวิจัยดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่าอัตราการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสืบเนื่องมาจากโควิด-19 มีอัตราต่ำกว่า 1%
ด้าน ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลอินทราปรัสถ์อพอลโล กล่าวว่า จากผลวิจัยแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนสามารถป้องกันการติดเชื้อสูง 97.38% โดยโอกาสของการป่วยนอนโรงพยาบาลภายหลังได้รับวัคซีนมีเพียง 0.06% และไม่มีผู้ป่วยรายใดต้องนอนแผนกไอซียูหรือเสียชีวิต
ดร.สันทีป พุทธิราชา ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ของแม็กซ์เฮลธ์แคร์ ย้ำว่า สิ่งที่โดดเด่นจากข้อมูลของเครือข่ายโรงพยาบาลแห่งนี้ก็คือ 90% ของผู้ที่ติดเชื้อหลังรับวัคซีนครบนั้น มีอาการไม่รุนแรง มีเพียง 10% ที่ต้องรักษาในโรงพยาบาล ทั้งหมดหายดี ยกเว้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสเพียงคนเดียวที่ป่วยหนักเข้าไอซียูและเสียชีวิต สิ่งนี้พิสูจน์ว่าวัคซีนนี้มีประสิทธิภาพและลดอัตราการติดเชื้ออย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงความรุนแรงของโรค
ขณะที่วันนี้ยอดติดเชื้ออินเดีย ลดลงอยู่ที่ 276,000 เสียชีวิต 3,800 คน ปัจจุบันอินเดียอยู่ระหว่างฉีดวัคซีน เฟส 3 แต่ขาดแคลนวัคซีน ฉีดให้ประชาชนทั่วประเทศแค่ 187 ล้านโดส ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับประชากรกว่า 1,300 ล้านคน
ชาวเนปาลราว 1.5 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มคนอายุ 65 ปีขึ้นไป อาจจะไม่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จากปัญหาปริมาณวัคซีนในคลังวัคซีนของเนปาล ไม่เพียงพอ หลังมีวัคซีนเหลืออยู่ราว 50,000-60,000 โดส รวมทั้ง อินเดียได้ห้ามผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่คือ สถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (SII) ที่รับจ้างผลิตวัคซีนแอสตราเซเนกาจากอังกฤษ ส่งออกวัคซีนไปต่างประเทศชั่วคราว ทำให้เนปาลไม่ได้รับวัคซีนอีก 1 ล้านโดสจากแอสตราเซเนกา ส่งผลกระทบต่อแผนฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเดือนนี้