NRFรายได้ปีนี้ผงาด70% ปั้นแบรนด์ลุยเอ็นเอฟที
#NRF #ทันหุ้น – NRF ปักธงรายได้ปี 2565 โต 50-70% จากทุกธุรกิจ แย้มมีดีลอีคอมเมิร์ซ 5-7 ดีลต่อยอด เดินเกมรุกธุรกิจโปรตีนจากพืชเต็มสูบ คาดปี 2566 สัดส่วนรายได้แตะ 20% แถมเร่งสร้างโรงงานซอสแห่งใหม่ จ่อนำ แบนรด์ NRF มาใช้กับ NFT ตามเทรนด์โลก พร้อมวางงบลงทุนปี 2565-2566 กว่า 2 พันล้านบาท ขยายธุรกิจ
นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRFเปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2565 จะเติบโต 50-70% จากปีก่อน ที่ 2,100 ล้านบาท จากทุกธุรกิจ ทั้งในส่วนของธุรกิจ e-Commerce ที่มีแผนในการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ต่อเนื่อง ปัจจุบันมีการเจรจาอยู่ 5-7 ดีล คาดว่าจะสามารถปิดดีลในเร็วๆ นี้โดยมี 2 บริษัทอยู่ในข้อตกลงดำเนินการ
โดยบริษัทเล็งเห็นศักยภาพธุรกิจ e-Commerce ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการเป็นตลาดกลางออนไลน์ ซึ่งมีการเติบโตที่สอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคในยุคปัจจุบันที่มีการซื้อ-ขายสินค้าทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น สะท้อนจากการที่มีการจัดตั้งธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่องในตลาด e-Commerce โดย Amazon.com และยังเดินหน้าผลักดันช่องทางการจัดจำหน่าย นำแบรนด์สินค้าที่มีอยู่เข้าไปในช่องทาง e-Commerce และช่องทางออฟไลน์ รวมไปถึงการนำเข้าผลิตภัณฑ์สำคัญไปยังเอเชีย และการเปิดตัว SKU ใหม่สู่ตลาด
*โปรตีนจากพืชเติบโตดี
ขณะที่ธุรกิจโปรตีนจากพืชในปี 2565 โดยบริษัท นิวทรา รีเจนเนอเรทีฟ โปรตีน จำกัด (NRPT) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด (อินโนบิก) และบริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด (ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ NRF) จะมีการเปิดร้านอาหารต้นแบบ ที่เป็นโปรตีนจากพืช (Plant-Based Food) ภายใต้แบรนด์ “alt Eatery” ภานในไตรมาส 2/2565
และจะเป็นผู้นำเข้าอาหาร Plant-Based จากกลุ่ม Start Up จากต่างประเทศในช่วงกลางปี 2565 เป็นต้นไป นอกจากนี้ บริษัทยังได้ร่วมกับบริษัทแพลนแอนด์บีนในประเทศอังกฤษ ตั้งโรงงานผลิตเนื้อจากพืช Plant-Based ด้วยนวัตกรรมขั้นสูงภายในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเดินเครื่องผลิตได้ภายในไตรมาส 1/2566
ทั้งนี้ในปี 2565 นี้ ทาง NRF วางแผนที่จะสร้างโรงงานผลิตอาหารที่ปล่อยมลพิษเป็นลบทั้งในประเทศไทย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดการณ์ว่าจะทําให้รายได้ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มาจากพืชนั้นเพิ่มขึ้น 20% ในปี 2566 สร้างกระแสเงินหมุนเวียนขององค์กรที่มากขึ้น
“การก้าวสู่การเป็นบริษัทคลีนฟู้ดเทคนั้นทําให้ต้องลงมือทําในทันทีบริษัทภูมิใจกับความสําเร็จที่ผ่านมา และยังมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนคนรุ่นใหม่ในการปกป้องโลก ต้องเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพื่อ ที่จะบรรลุความมุ่งมั่นนี้ได้ภายในปี 2050” นายแดน กล่าว
*สร้างแบรนด์ NFT
ส่วนผลิตภัณฑ์อาหารไทยและอาหารท้องถิ่น (Ethnic Food) จะเน้นการพัฒนาศักยภาพในการผลิต โดยจะเดินในการจัดตั้งโรงงานซอสแห่งใหม่ คาดแล้วเสร็จในไตรมาส 4/2565 คาดว่าจะสร้างยอดขายให้แก่บริษัท 200 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังเดินหน้าในการควบคุมต้นทุนและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและจะมีการพัฒนา SKU ใหม่ 50 SKU และมีการเน้นไปที่ตลาดสำคัญทั้งในส่วนของ อังกฤษ จีน สหรัฐอเมริกาและในประเทศไทยรวมถึงการทำงานร่วมกับผู้จัดจำหน่ายและสร้างการเข้าถึงในการจัดจำหน่าย นอกจากนี้ยังจะมีการทำแบรนด์ NRF กับ NFT ด้วย รวมไปถึงการสร้างชุมชนโซเชียลมีเดีย
ส่วนโรงงาน Petfood โดยไลน์การผลิตอาหารเม็ดมีกำลังการผลิตสูงสุด 1,500 ตันต่อเดือนกำลังการผลิตไลน์แรกจะผลิตได้ถึง 50% ในช่วงไตรมาส 4/2565โดยจะใช้ช่องทางผู้ค้าส่งและร้านอาหารสัตว์เลี้ยงกว่า 200 แห่ง และเพิ่มจำนวนช่องทางเป็น 2 เท่าปี 2566
ดังนั้นในปี 2565-2566 คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 2,080 ล้านบาท ขณะที่โครงสร้างเงินลงทุนกว่า 70% จะใช้สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (e-Commerce), ผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืช (Plant-Based) 13%, ผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคที่ไม่ใช่อาหารในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม (Functional) 4% และผลิตภัณฑ์อาหารไทยและอาหารท้องถิ่น (Ethnic Food) 13%