โควิดทำพิษ! SpaceX เจอปัญหาขาดแคลนออกซิเจนเหลวสำหรับปล่อยยาน!
นับตั้งแต่สถานการณ์ระบาดโควิด-19 เป็นต้นมา ความต้องการใช้ออกซิเจนในการรักษาผู้ป่วยก็พุ่งสูงขึ้น แน่นอนว่าความต้องการที่พุ่งสูงนี้ย่อมส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ต้องการใช้ออกซิเจนเหลวด้วยเช่นกัน เช่น SpaceX ที่กำลังตกที่นั่งลำบากเนื่องจากประสบปัญหาออกซิเจนเหลวไม่เพียงพอต่อการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปล่อยจรวดขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศโลก
ถึงแม้ว่าออกซิเจนอาจจะดูเป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไป แต่สำหรับการใช้งานในโรงพยาบาลนั้นจำเป็นจะต้องใช้ออกซิเจนที่มีความเข้มข้นสูง เพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีระบบทางเดินหายใจเสียหาย เช่น ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ขั้นรุนแรง ดังนั้นเมื่อสถานการณ์โควิด-19 แย่ลง และสถานการณ์ที่กลับมาระบาดรุนแรงอีกครั้งก็ส่งผลทำให้จำผู้ป่วยมากขึ้นจึงทำให้ออกซิเจนเหลวกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ทำให้อุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ต้องใช้ออกซิเจนเหลวเหมือนกันต้องหาทางออกกันอย่างเร่งด่วน
แน่นอนว่าบริษัทจรวดอย่าง SpaceX ก็หนีปัญหานี้ไม่พ้น เพราะในการปล่อยจรวดแต่จะต้องใช้ออกซิเจนเหลวเป็นตัวขับเคลื่อน โดยออกซิเจนเหลวจะทำปฏิกิริยากับเชื้อเพลิงทำให้ยานอวกาศสามารถพุ่งทะยานไปสู่อวกาศได้ หากปัญหานี้ยังคงดำเนินต่อไป ก็อาจทำให้กำหนดการปล่อยจรวดและดาวเทียมต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ล่าช้าออกไปอีก โดย Gwynne Shotwell ประธานกรรมการของ SpaceX ถึงขั้นออกมากล่าวว่า "เรา (SpaceX) กำลังจะได้รับผลกระทบในปีนี้ เนื่องจากเราขาดออกซิเจนเหลวในการปล่อยจรวด แน่นอนว่าเราจะให้ความสำคัญกับโรงพยาบาลก่อน แต่สำหรับใครก็ตามที่มีออกซิเจนเหลวสำรอง โปรดส่งอีเมลถึงฉัน”
นอกจากนี้ปัญหาการขาดแคลนออกซิเจนเหลวยังส่งผลกระทบทางอ้อมต่อบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการบินและอวกาศอื่น ๆ เช่น United Launch Alliance ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ก๊าซ ก็กำลังยุ่งอยู่กับการแก้ไขสถานการณ์ออกซิเจนขาดแคลนที่ค่อนข้างเลวร้ายในฟลอริดา ดังนั้นแผนการที่จะปล่อยดาวเทียมในเดือนหน้า ก็อาจจะต้องเลื่อนออกไปเช่นกัน
โดยในฟลอริดา ประชาชนบางส่วนเริ่มเจอสัญญาณเตือนที่บอกว่าออกซิเจนเหลวกำลังจะขาดแคลน เพราะโดยปกติแล้วออกซิเจนเหลวจะใช้สำหรับสร้างโอโซนในการบำบัดน้ำ ทำลายแบคทีเรียและไวรัสที่เป็นอันตราย และสลายสารประกอบที่ทำให้น้ำมีกลิ่นหรือรสชาติไม่พึงประสงค์ได้ ซึ่งบางที่อาจจะใช้คลอรีนหรือสารเคมีอื่น ๆ แทนออกซิเจนเหลวได้เช่นกัน แต่ฟลอริดาใช้ออกซิเจนเหลวเนื่องจากทำให้เกิดผลข้างเคียงน้อยกว่า
ดังนั้นในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา จึงเห็นผลกระทบของปัญหานี้อย่างเห็นได้ชัด โดยปัญหาการขาดแคลนน้ำอันเนื่องมาจากขาดออกซิเจนเหลวในกระบวนการจัดการน้ำนี้ทำให้การประปาท้องถิ่นต้องออกมาขอความร่วมมือให้ประชาชนหยุดรดน้ำสนามหญ้าและใช้น้ำอย่างประหยัด ระหว่างที่พยายามแก้ไขปัญหาออกซิเจนเหลวไม่เพียงพอ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าใดนัก เนื่องจากเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมามีรายงานว่าประชาชนลดการใช้น้ำจาก 90 ล้านแกลลอนต่อวันเหลือเพียง 82 ล้านแกลลอนต่อวัน ซึ่งห่างจากเป้าหมายของการประปาที่ตั้งไว้ว่าจะสูบน้ำใช้เพียงแค่ 50 ล้านแกลลอนต่อวันเท่านั้น
ในขณะเดียวกันที่อ่าวแทมปา (Tampa Bay) การประปาของที่นั่นต้องแก้ปัญหาการจัดการน้ำด้วยการใช้สารฟอกขาวแทนออกซิเจนในการบำบัดน้ำ ซึ่งโดยปกติที่นี่มักจะใช้ออกซิเจนในการกำจัดไฮโดรเจนซัลไฟด์ (hydrogen sulfide) ซึ่งเป็นก๊าซที่มีกลิ่นเหมือนไข่เน่าออกจากน้ำ ดังนั้นเมื่อจำเป็นจะต้องเปลี่ยนไปใช้สารฟอกขาวบำบัดน้ำ การประปาจึงออกมาเตือนว่าประชาชนอาจสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของกลิ่นและรสชาติของน้ำเล็กน้อยในช่วงเวลานี้ แต่คุณภาพและความปลอดภัยยังคงดี ไม่มีเปลี่ยนแปลง
ก็น่าจับตามองว่าปัญหานี้จะมีแนวทางแก้ไขอย่างไรต่อไป เพราะที่รัฐฟลอริดาได้ชื่อว่าเป็นรัฐที่มีอัตราการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาลสูงที่สุดในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแทมปา ซึ่งห้องฉุกเฉินเต็มไปด้วยผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องรอการรักษานานถึง 12 ชั่วโมงเลยทีเดียว และในเมื่อความเป็นความตายต้องมาก่อนเช่นนี้ แล้ว SpaceX ที่กำลังจะมีแผนการปล่อยจรวดและยานต่าง ๆ มากมาย จะทำอย่างไรต่อไปกับปัญหาการขาดแคลนออกซิเจนเหลว ต้องรอดูความเคลื่อนไหวต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก