"ฝังศพในอวกาศ" บริษัท SpaceX ส่งอัฐิและ DNA ของมนุษย์ 150 คน ขึ้นสู่อวกาศ

บริษัท SpaceX ของอีลอน มัสก์ ปล่อยจรวด Falcon 9 จากฐานทัพอวกาศแวนเดนเบิร์ก รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน เวลา 14.25 น. ตามเวลาท้องถิ่นของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ในภารกิจร่วมที่มีการส่งดาวเทียมขนาดเล็กพร้อม ๆ กันหลายดวง ครั้งที่ 14 ภายใต้ชื่อ Transporter 14 โดยบรรทุกสัมภาระจากลูกค้าหลากหลายรายรวมกว่า 70 ชิ้น
หนึ่งในภารกิจที่โดดเด่นครั้งนี้ คือการส่ง แคปซูลบรรจุเถ้ากระดูกและ DNA ของมนุษย์ประมาณ 150 คน สู่วงโคจร เพื่อเป็นการรำลึกถึงผู้ล่วงลับ โดยร่วมมือระหว่างบริษัท Exploration และ Celestis ซึ่งให้บริการ “ฝังศพในอวกาศ” มานานหลายทศวรรษ แคปซูลรุ่นใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Nyx จะโคจรรอบโลก 2–3 รอบก่อนกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศและเผาไหม้จนหมดสิ้น เป็นเสมือนการประกอบพิธีสุดท้ายในห้วงอวกาศ
ขณะเดียวกัน ขั้นแรกของจรวด Falcon 9 ก็สามารถกลับสู่โลกและลงจอดอย่างปลอดภัยบนเรือโดรน Of Course I Still Love You ในมหาสมุทรแปซิฟิก ภายในเวลาเพียง 8.5 นาที หลังปล่อยตัว นับเป็นการลงจอดครั้งที่ 26 ของบูสเตอร์ลำนี้ ใกล้เคียงกับสถิติสูงสุดของบริษัทที่ 28 ครั้ง
ส่วนขั้นบนของจรวดได้ปฏิบัติภารกิจส่งดาวเทียมขนาดเล็กหลายดวงขึ้นสู่วงโคจร รวมถึงดาวเทียม Capella-17 ของ Capella Space และ Otter Pup 2 ของ Starfish Space ซึ่งเตรียมทดสอบการเชื่อมต่อเชิงพาณิชย์ในวงโคจรต่ำ (LEO) ภายในปีนี้
ภารกิจ Transporter 14 ยังรวมถึงแคปซูลของบริษัท Varda Space ที่พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตยาและวัสดุในอวกาศ ก่อนจะส่งกลับโลกผ่านยานนำกลับชั้นบรรยากาศ ซึ่งเป็นแคปซูลดวงที่สี่ของบริษัท
ภารกิจ Transporter 14 เป็นหนึ่งในบริการรูปแบบ Rideshare ของ SpaceX หรือบริการที่เปิดโอกาสให้หลายบริษัทร่วมใช้จรวดลำเดียวกัน เพื่อประหยัดต้นทุนในการเดินทางสู่อวกาศ โดยเริ่มโครงการนี้มาตั้งแต่ปี 2021 และมีอีกหนึ่งโปรแกรมชื่อ Bandwagon ซึ่งอยู่ภายใต้การพัฒนาและปฏิบัติภารกิจมาแล้ว 3 ครั้ง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
