รีเซต

เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (26 มี.ค.2565)

เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (26 มี.ค.2565)
NewsReporter
26 มีนาคม 2565 ( 10:56 )
254
เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (26 มี.ค.2565)

ข่าววันนี้ สถานการณ์วิกฤต "รัสเซียยูเครน" กองทัพรัสเซียประกาศว่าปฏิบัติการทางทหารในยูเครนระยะแรกสิ้นสุดลงแล้ว โดยหลังจากนี้จะเน้นความพยายามไปที่ภูมิภาคดอนบาสซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศ และเป็นที่ตั้งของโดเนตสค์และลูฮานสค์ ซึ่งเป็นสาธารณรัฐที่รัสเซียเพิ่งประกาศให้การรับรองเอกราชก่อนบุกยูเครน เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (25 มี.ค.2565)


เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (26 มี.ค.2565)

 

ทางการท้องถิ่นเมืองมารีอูโปลของยูเครน อ้างมีผู้เสียชีวิตประมาณ 300 คนจากเหตุรัสเซียโจมตีทางอากาศโรงละครในเมือง 

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในเมืองมาริอูโปลของยูเครน ซึ่งอ้างผู้เห็นเหตุการณ์ ระบุผ่านสื่อสังคมออนไลน์ Telegram ในวันศุกร์ (25 มีนาคม) ว่า มีผู้เสียชีวิตราว 300 คนจากเหตุรัสเซียโจมตีทางอากาศโรงละครดรามา (Drama Theatre) ในเมืองมารีอูโปล ซึ่งใช้เป็นสถานที่หลบภัยของชาวยูเครนหลายร้อยคน เมื่อวันที่ 16 มีนาคม
 
 
แม้สภาเมืองไม่ได้ให้รายละเอียดที่ชัดเจน เนื่องจากยังเป็นไปไม่ได้ที่จะระบุจำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริงหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว อีกทั้งยังไม่รู้ด้วยว่า พยานในเหตุการณ์นับยอดผู้เสียชีวิตอย่างไร เนื่องจากเหตุโจมตีเมืองมาริอูโปลอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความพยายามกู้ภัยเป็นไปอย่างยากลำบาก
 
 
ก่อนหน้านี้ ทางการเมืองมาริอูโปล ซึ่งเป็นเมืองท่าทางตะวันออกเฉียงใต้ ของยูเครน ระบุว่า สามารถช่วยผู้รอดชีวิตได้ 130 คนจากซากโรงละครที่ถูกโจมตี
 
 
ทางการยูเครนระบุว่า ประชาชนกว่า 1,300 คนหลบภัยอยู่ในอาคารดังกล่าว โดยบนพื้นที่สนามนอกอาคารดังกล่าว มีการเขียนคำว่า “เด็ก” เป็นภาษารัสเซียขนาดใหญ่เพื่อให้มองเห็นจากอากาศได้
 
 
โพสต์ทาง Telegram ของสภาเมืองมาริอูโพลยังระบุด้วยว่า เหตุโจมตีดังกล่าวเป็น “ความโหดร้ายอย่างไร้มนุษยธรรม” ที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ และจะไม่ยกโทษให้ผู้ที่นำความเสียหายและความเจ็บปวดมาสู่บ้านของพวกเขา
 
 
นายกเทศมนตรีของเมือง กล่าวว่า เมืองท่าทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนแห่งนี้ ถูกทำลายเสียหายอย่างหนัก และจะต้องใช้เวลานานหลายปีในการฟื้นฟู
 
 
รัสเซียปฏิเสธการทิ้งระเบิดโจมตีโรงละครแห่งนี้ ทำเนียบเครมลิน แถลงว่า กองทัพรัสเซียไม่โจมตีเป้าหมายพลเรือน หลังจากบุกยูเครนตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
 
 
ส่วนสำนักงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ แถลงว่า มีพลเรือนเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1,081 คน และบาดเจ็บ 1,707 คนในยูเครนตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน และระบุเพิ่มเติมว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แท้จริงนั้นน่าจะสูงกว่านี้มาก
 
 
 

องค์การนาโตประกาศเพิ่มพื้นที่ประจำการในยุโรปตะวันออกเป็นสองเท่า ท่ามกลางความตึงเครียดของวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน

 
องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต อนุมัติการประจำการทหารเพิ่มในอีกสี่ประเทศ ที่อยู่ในยุโรปตะวันออก คือ บัลแกเรีย ฮังการี โรมาเนีย และสโลวาเกีย
 
 
ก่อนหน้านี้ นาโตมีทหารประจำการอยู่แล้วในโปแลนด์ และสามประเทศบอลติก คือ ลัตเวีย เอสโตเนีย และลิทัวเนีย รวมแล้วจะทำให้มีทหารพันธมิตรนาโตเข้าไปประจำการใน 8 ประเทศ ที่มีอาณาเขตตั้งแต่ทะเลบอลติกไปจนถึงทะเลดำ
 
 
เยนส์ สโตลเท็นเบิร์ก เลขาธิการนาโต กล่าวว่า นาโตมีความรับผิดชอบที่ต้องรับประกันว่า สงครามจะไม่ขยายไปนอกยูเครน เพราะนั่นจะยิ่งสร้างความเจ็บปวดมากขึ้น คนเสียชีวิตมากขึ้น และมีการทำลายล้างมากขึ้น
 
 
เขากล่าวถึงเหตุผลที่จะไม่ส่งทหารของนาโตเข้าไปในยูเครน หรือกำหนดเขตห้ามบินเหนือยูเครน ว่าเสี่ยงที่จะนำไปสู่สงครามเต็มรูปแบบระหว่างนาโตและรัสเซีย
 
 
นอกจากนี้ เขายังกล่าวว่า ยูเครนได้รับการสนับสนุนในหลายรูปแบบ ตั้งแต่ทางการทหาร การฝึก อุปกรณ์ในการสู้รบ และเชื้อเพลิง การฝึกและการสนับสนุนจากประเทศพันธมิตรนาโต พร้อมกับความกล้าหาญของกองทัพยูเครน ทำให้ยูเครนสามารถต้านทานและต่อสู้กับกองทัพรัสเซียได้
 
 
ขณะเดียวกัน สโตลเทนเบิร์กยังกล่าวว่า ผู้บัญชาการกองทัพของนาโตได้บังคับใช้กลไกต่อต้านนิวเคลียร์ อาวุธเคมี ชีวภาพ และรังสีแล้ว และชาติพันธมิตรกำลังประจำการการป้องกันอาวุธเหล่านี้อยู่
 
 
ทังนี้ กองกำลังที่อยู่ภายใต้การบัญชาการของนาโตมีทหารราวสี่หมื่นคน หนึ่งในสี่ประจำการอยู่ในโปแลนด์ ซึ่งมีชายแดนขนาดใหญ่ติดฝั่งตะวันตกของยูเครน ในขณะที่โปแลนด์ยังมีทหารของตนเองประจำการอีกราว 120,000 คน ซึ่งถือว่ามากที่สุดในบรรดาประเทศเจ้าภาพที่รองรับทหารของนาโต
 
 
ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดกำลังทหารของกลุ่มชาตินาโตยุโรปตะวันออก จะมีดังนี้
 
- เอสโตเนีย มีทหารของตนเอง 7000 นาย และทหารนานาชาติของนาโต้ 2000 นาย
- ลัตเวียมีทหารของตนเอง 7400 นาย และทหารนานาชาติของนาโต้ 1700 นาย
- ลิทัวเนียมีทหารของตนเอง 16800 นาย และทหารนานาชาติของนาโต้ 4000 นาย
- สโลวาเกีย มีทหารของตนเอง 13000 นาย และทหารนานาชาติของนาโต้ 2100 นายและยังมีระบบป้องกันภัยทางอากาศประจำการด้วย
- ฮังการี มีทหารของตนเอง 24000 นาย และทหารนานาชาติของนาโต้ 800 นาย
- โรมาเนีย มีทหารของตนเอง 13000 นาย และทหารนานาชาติของนาโต้ 2100 นาย
- บัลแกเรีย มีทหารของตนเอง 26000 นาย และทหารนานาชาติของนาโต้ 900 นาย
นาโตยังมีอากาศยานของบรรดาชาติสมาชิก ไว้บินลาดตระเวณเฝ้าระวังระดับสูง 130 ลำ นอกจากนี้ ยังมีเรือของชาติพันธมิตรอยู่ตามท้องทะเลอีกราว 140 ลำ
 
 

‘ยูเครน-รัสเซีย’ ประสานเสียง เจรจาสันติภาพไร้ความคืบหน้าสำคัญ

ทีมเจรจาสันติภาพทั้งของรัสเซียและยูเครนปฏิเสธรายงานข่าวที่ตุรกีระบุก่อนหน้านี้ว่า มีความคืบหน้าสำคัญในการเจรจาสันติภาพระหว่างสองประเทศ เพื่อยุติการสู้รบระหว่างกัน

 

นายดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน กล่าวว่า การเจรจาสันติภาพกับรัสเซียเป็นเรื่องยาก พร้อมปฏิเสธรายงานข่าวว่ามีความคืบหน้าในการเจรจาใน 4 จาก 6 ประเด็นสำคัญกับรัสเซีย โดยยืนยันว่ายังคงไม่มีฉันทามติใดๆ กับรัสเซียในทั้ง 4 ประเด็นแต่อย่างใด

 

คูเลบาโพสต์บนเฟซบุ๊กว่า กระบวนการเจรจานั้นยากลำบากมาก แต่คณะผู้แทนยูเครนยังคงมีจุดยืนที่แข็งแกร่งและเราไม่ยอมละทิ้งข้อเรียกร้องของเรา ประเด็นแรกคือต้องมีการหยุดยิง มีการรับประกันความปลอดภัย และบูรณภาพเหนือดินแดนของยูเครน

 

คูเลบาทวีตว่า ยังคงไม่มีฉันทามติในการเจรจาแต่อย่างใด เพราะรัสเซียยังคงยึดติดกับคำขาดของตนเอง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเจรจาที่สร้างสรรค์มากขึ้น เราต้องการสองอย่าง คือการลงโทษรัสเซียที่มากขึ้น และความช่วยเหลือทางทหารสำหรับยูเครน

 

คูเลบากล่าวด้วยว่า ภาษายูเครนยังจะคงเป็นภาษาประจำชาติเพียงภาษาเดียวของประเทศ หลังมีรายงานข่าวว่ารัสเซียได้เรียกร้องให้มีการคุ้มครองการใช้ภาษารัสเซียในยูเครนด้วย

 

ด้านนายวลาดิมีร์ เมดินสกี ทีมเจรจาของรัสเซีย ระบุว่า มีความคืบหน้าเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และการเจรจายังคงเต็มไปด้วยความเปราะบาง

 

เมดินสกีกล่าวว่า ดูเหมือนพวกเขาใกล้จะทำความเข้าใจได้ในประเด็นรองๆ แม้จะมีการหารือกันมาตลอดสัปดาห์ผ่านการประชุมทางวิดีโอ แต่การเจรจาจะยังคงดำเนินต่อไปในวันพรุ่งนี้

 

 

รัสเซียประกาศจบปฏิบัติการทหารในยูเครนขั้นแรก หันเน้นดูแลดอนบาส

กองทัพรัสเซียประกาศว่าปฏิบัติการทางทหารในยูเครนระยะแรกสิ้นสุดลงแล้ว โดยหลังจากนี้จะเน้นความพยายามไปที่ภูมิภาคดอนบาสซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศ และเป็นที่ตั้งของโดเนตสค์และลูฮานสค์ ซึ่งเป็นสาธารณรัฐที่รัสเซียเพิ่งประกาศให้การรับรองเอกราชก่อนบุกยูเครน

 

ผู้บัญชาการกองทัพรัสเซียระบุว่า ขณะนี้รัสเซียจะเน้นการทำสงครามหลักไปที่การ “ปลดปล่อยอย่างสมบูรณ์” ของภูมิภาคดอนบาสในยูเครนตะวันออก

 

กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า รัสเซียกำลังพิจารณาสองทางเลือกสำหรับปฎิบัติการทางทหารพิเศษ โดยทางเลือกหนึ่งก็คือครอบคลุมทั่วประเทศยูเครนทั้งหมด และอีกทางเลือกหนึ่งคือพุ่งเป้าไปที่ภูมิภาคดอนบาส

 

สื่อตะวันตกระบุว่าการออกมาแสดงความเห็นดังกล่าวที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวของรัฐบาลรัสเซีย บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ในการลดระดับเป้าหมายการทำสงครามของรัสเซีย หลังจากรัสเซียเผชิญกับการต่อต้านอย่างแข็งแกร่งในยูเครน

 

เซอร์เกย์ รุดสกอย ผู้บังคับบัญชาแผนกปฏิบัติการหลักในฝ่ายเสนาธิการทหารของกองทัพรัสเซีย กล่าวว่า ขณะนี้ 93% ของลูฮานสค์ และ 53% ของโดเนตสค์อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของรัสเซีย

 

“รัสเซียได้ทำลายกองทัพอากาศและกองทัพเรือของยูเครนส่วนใหญ่ไปแล้ว และนี่ถือเป็นการจบปฏิบัติการระยะแรกในความความขัดแย้งด้วยความสำเร็จ”รุดสกอยกล่าว

 

อย่างไรก็ดีกระทรวงกลาโหมรัสเซียไม่ได้ระบุว่าจะยุติการบุกโจมตีเมืองต่างๆ ของยูเครนที่ขณะนี้กำลังถูกปิดล้อมอยู่ โดยยืนยันว่ารัสเซียจะตอบโต้ทันทีต่อความเคลื่อนไหวใดๆ ที่จะปิดน่านฟ้าเหนือยูเครนตามที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ร้องขออยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

นอกจากนี้กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังบอกด้วยว่า รัสเซียจะยังคงบุกโจมตีต่อไปจนกว่าเป้าหมายที่กำหนดโดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน จะประสบความสำเร็จ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าเป้าหมายดังกล่าวคืออะไร

 

 

ข้อมูล : TNN World

ภาพ : Reuters

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

 

กดเลย >> community แห่งความบันเทิง

ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง