รีเซต

เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (15 เม.ย.2565)

เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (15 เม.ย.2565)
Ingonn
15 เมษายน 2565 ( 12:19 )
246

ข่าววันนี้ สถานการณ์วิกฤต "รัสเซียยูเครน" ล่าสุดข้อตกลงหยุดยิงในยูเครนไม่น่าเกิดขึ้นได้ในเร็ววันนี้ ด้านUN ยังขอให้นานาชาติช่วยกันสนับสนุนไม่เพียงแค่เฉพาะยูเครนและกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน แต่ให้ช่วยเหลือกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ด้วย ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและอื่น ๆ จากปฏิบัติการทางทหารในยูเครนของรัสเซีย  อ่าน : เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (14 เม.ย.2565)

 

เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (15 เม.ย.2565)

 

 

ปูตินเล็งปรับส่งออกพลังงาน ลดตะวันตก เพิ่มตะวันออก-ใต้

วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เน้นย้ำความสำคัญของการเพิ่มความหลากหลายในการส่งออกพลังงาน เนื่องด้วยการจัดสรรพลังงานแก่ประเทศตะวันตกจะลดลงในอนาคตอันใกล้ ขณะร่วมการประชุมรัฐบาลออนไลน์เกี่ยวกับสถานการณ์ภาคน้ำมันและก๊าซของรัสเซียในปัจจุบัน

 

"เราควรรวบรวมแนวโน้มของช่วงปีที่ผ่านมา และปรับทิศทางการส่งออกไปยังตลาดที่เติบโตรวดเร็วในกลุ่มประเทศทางใต้และตะวันออกแบบเป็นขั้นตอน" ปูตินระบุ "หากจะดำเนินงานตามแผนการดังกล่าว รัสเซียจำเป็นต้องเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและเริ่มการก่อสร้างอีกไม่นานนี้"


ขณะเดียวกันปูตินมีคำสั่งให้เพิ่มการจ่ายพลังงานแก่ผู้บริโภคชาวรัสเซีย โดยอาจมีการปรับลดราคาเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ อีกทั้งสั่งรัฐบาลกระตุ้นการพัฒนาการแปรรูปน้ำมันและก๊าซเชิงลึกโดยเร็วที่สุด


ทั้งนี้ รัสเซียเรียกร้อง "กลุ่มประเทศไม่เป็นมิตร" จัดซื้อก๊าซธรรมชาติของรัสเซียด้วยสกุลเงินรูเบิล ทว่าหลายประเทศแสดงท่าทีคัดค้าน โดยปูตินระบุในการประชุมครั้งนี้ว่าหลายฝ่ายไม่สามารถชำระเงินค่าพลังงานของรัสเซีย และธนาคารจาก "ประเทศไม่เป็นมิตรส่วนใหญ่" กำลังชะลอการโอนชำระเงิน

 

ข้อมูล xinhua

 

UN เผยข้อตกลงหยุดยิงในยูเครนไม่เกิดขึ้นเร็วๆนี้ ร้องนานาชาติหนุนยูเครน พร้อมชาติอื่นที่ได้รับผลกระทบ

UN เผยข้อตกลงหยุดยิงในยูเครนไม่น่าเกิดขึ้นได้ในเร็ววันนี้ เรียกร้องนานาชาติสนับสนุนยูเครน ด้านลิกเตนสไตน์ เสนอญัตติเข้าที่ประชุม UN เพื่อกำหนดให้สมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ต้องอธิบายเหตุผลถ้ามีการใช้สิทธิ์วีโต ในที่ประชุม


อันโตนีโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ หรือ UN ที่เพิ่งส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ UN เดินทางไปเยือนรัสเซียและยูเครน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อเจรจาผลักดันมาตรการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อพลเรือนในยูเครน แถลงว่า ข้อตกลงหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมในยูเครน ไม่ได้จะเป็นไปได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้ แต่ต้องพยายามเจรจากันต่อไป UN ยังกำลังรอให้รัสเซียตอบรับข้อเรียกร้องเพื่อให้รับประกันความปลอดภัยในการอพยพพลเรือน และภารกิจช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม


เลขาธิการ UN ยังขอให้นานาชาติช่วยกันสนับสนุนไม่เพียงแค่เฉพาะยูเครนและกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน แต่ให้ช่วยเหลือกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ด้วย ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและอื่น ๆ จากปฏิบัติการทางทหารในยูเครนของรัสเซีย
ประเทศลิกเตนสไตน์ร่างคำร้องเพื่อต้องการให้ 5 ประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ประกอบด้วย จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ต้องอธิบายเหตุผลภายใน 10 วัน หลังจากมีการใช้สิทธิ์ยับยั้ง หรือ วีโต ในที่ประชุม UNSC โดยมีสมาชิก UN ให้การสนับสนุนแล้ว 40 ประเทศ และจะถูกส่งเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสมัชชาใหญ่ UN ในสัปดาห์หน้า


ด้านลินดา โธมัส-กรีนฟีลด์ ทูตสหรัฐฯ ประจำ UN ร่างคำร้องดังกล่าวจะเป็นก้าวย่างสำคัญนำไปสู่ความโปร่งใสและความรับผิดชอบของสมาชิกถาวรของ UNSC

 


ข้อมูล TNN World

 

 

รัฐบาลรัสเซียเตือนนาโต หากรับฟินแลนด์-สวีเดนเป็นสมาชิก จะยกระดับการป้องกันประเทศทันที

ทางการรัสเซียเตือนว่าหากนาโตรับฟินแลนด์และสวีเดนเป็นสมาชิก รัสเซียจำเป็นต้องยกระดับป้องกันประเทศเช่นกัน หลังผู้นำฟินแลนด์ประกาศจะรีบตัดสินใจเรื่องดังกล่าวในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า


ดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงของรัสเซีย ระบุว่า รัสเซียได้เตือนองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ไปแล้วว่า หากสวีเดนและฟินแลนด์ เข้าร่วมเป็นสมาชิกของนาโต รัสเซียจำเป็นจะต้องยกระดับการป้องกันประเทศเช่นกัน 
เมดเวเดฟ ยังกล่าวว่า จะไม่มีการหารือเรื่องนิวเคลียร์ใด ๆ อีกต่อไป จนกว่าสถานะความเป็นอิสระของบอลติกจะกลับคืนมา แต่จนถึงวันนี้ รัสเซียยังไม่ได้ใช้มาตรการเหล่านั้น และในอดีตก็ยังไม่เคย


ด้านดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวย้ำว่า มอสโกจำเป็นต้องปรับสมดุลสถานการณ์ใหม่ด้วยมาตรการของตนเอง หากสองชาตินี้เดินหน้าเข้าเป็นสมาชิกนาโต


คำกล่าวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียมีขึ้น หลังซานนา มาริน นายกรัฐมนตรีหญิงของฟินแลนด์แถลงว่า ฟินแลนด์จะตัดสินใจว่าจะสมัครเข้าเป็นสมาชิกนาโตหรือไม่ ภายในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้


มาริน ซึ่งแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีของสวีเดน ระบุว่า ไม่มีเหตุผลใดที่ต้องชะลอการตัดสินใจออกไป 


ด้านแมคดาเลนา แอนเดอร์สัน นายกรัฐมนตรีสวีเดน กล่าวว่า สวีเดนกำลังวิเคราะห์เรื่องนี้อย่างจริงจังมากเช่นกัน และเห็นเหมือนกันว่า ไม่มีเหตุผลที่จะชะลอการพิจารณาเรื่องนี้


ด้านหนังสือพิมพ์สเวนส์กา แดคบลาเด็ท ของสวีเดน รายงานเมื่อวันพุธ (13 เมษายน)​ ว่า นายกรัฐมนตรีสวีเดนตั้งเป้าจะสมัครเป็นสมาชิกนาโตให้ทันการประชุมสุดยอดของนาโต ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน


ระหว่างที่ทั้งสองผู้นำได้หารือกันในกรุงสต็อคโฮล์ม รัฐมนตรีต่างประเทศของฟินแลนด์ เผยว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้สภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงในยุโรปเปลี่ยนไป และบังคับให้ฟินแลนด์ต้องทบทวนนโยบายด้านความมั่นคงใหม่


ทั้งนี้ ฟินแลนด์และสวีเดน ไม่ได้เป็นสมาชิกในกลุ่มทางการทหารใด ๆ แต่สถานการณ์ในยูเครน ทำให้เกิดแรงสนับสนุนในภาคประชาชนของเพิ่มมากขึ้น ว่าควรเข้าเป็นสมาชิกของนาโต 


รายงานของรัฐบาลฟินแลนด์ ระบุว่า สถานการณ์ด้านความมั่นคงในยุโรปและของฟินแลนด์นั้นร้ายแรง และยากมากกว่าเดิมที่จะคาดการณ์ได้นับตั้งแต่สงครามเย็น


รายงานยัง ระบุว่า หากฟินแลนด์เข้าร่วมนาโต ฟินแลนด์จำเป็นต้องใช้จ่ายด้านกลาโหมมากถึง 1.5% ของงบประมาณทั้งหมด และรัฐบาลฟินแลนด์ ได้ประกาศเพิ่มงบกลาโหมขึ้น 40% ภายในปี 2026 แล้ว


อย่างไรก็ตาม รายงานของรัฐบาลฟินแลนด์ ระบุว่า รายงานนี้ยังไม่ได้รวมข้อสรุปและข้อแนะนำนโยบายความมั่นคงใหม่ และยังจะไม่มีการตัดสินใจใด ๆ จนกว่ารัฐสภาจะถกเรื่องนี้ให้เรียบร้อยก่อน


ทั้งนี้ ฟินแลนด์ซึ่งมีพรมแดนติดกับรัสเซีย 1,340 กิโลเมตร ดำเนินนโยบายเป็นกลางทางการทหารเพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้ากับรัสเซียนับตั้งแต่นาโตเกิดขึ้นในปี 1949 ขณะที่ พรรคของมาริน ปกติสนับสนุนนโยบายไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และตัวเธอเองยังย้ำนโยบายมาจนถึงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ผลการสำรวจพบว่าชาวฟินแลนด์สนับสนุนการเข้าเป็นสมาชิกนาโตเพิ่มขึ้นจาก 28% ในเดือนกุมภาพันธ์ เป็น 62% ในเดือนมีนาคม


ขณะเดียวกัน ฟินแลนด์คงทหารประจำการไว้ที่ราว 21,500 คน แต่ในยามสงคราม ฟินแลนด์สามารถเรียกทหารกองหนุนได้มากกว่า 200,000 คน

 

 

ข้อมูล TNN World

 

ไบเดนช่วยยูเครนรัวๆ ส่งยุทโธปกรณ์-อาวุธหนัก 2.7 หมื่นล้านเสริมทัพสู้รัสเซีย

ความคืบหน้าสถานการณ์ความไม่สงบจากกรณีกองกำลังรัสเซียรุกรานยูเครนซึ่งยืดเยื้อมากว่า 7 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา แถลงให้เงินช่วยเหลือทางการทหารมูลค่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 27,000 ล้านบาทแก่ยูเครนเพื่อรับมือรัสเซียที่ยังโจมตีพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนอย่างต่อเนื่อง

 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกองทัพรัสเซียข่มขู่ว่าจะถล่มศูนย์บัญชาการของยูเครนในกรุงเคียฟ หากกองทัพยูเครนยังไม่หยุดโจมตีในพื้นที่ซึ่งเป็นอาณาเขตของรัสเซีย

 

กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในแถลงการณ์ว่า “เราเห็นความพยายามของกองกำลังยูเครนในการก่อวินาศกรรมและโจมตีดินแดนรัสเซีย หากกรณีดังกล่าวยังดำเนินต่อไปกองทัพรัสเซียจะโจมตีศูนย์บัญชาการซึ่งรวมถึงในกรุงเคียฟด้วย”

 

คำเตือนจากกองทัพรัสเซียจุดชนวนให้เกิดความตื่นตระหนกในเมืองหลวงเพราะเกรงว่ารัสเซียหวนพุ่งเป้าเตรียมบุกรุกกรุงเคียฟอีกครั้ง แม้ก่อนหน้านี้ล้มเหลวจนต้องถอนกำลังออกจากพื้นที่รอบนอกกรุงเคียฟและเปลี่ยนความสนใจไปทำศึกในพื้นที่ตอนใต้และตะวันออกก็ตาม

 

ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวย้ำว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยูเครน ขณะที่ฝ่ายรัสเซียยังยืนกรานปฏิเสธข้อครหาและว่าเป็นการกล่าวโทษที่ไม่อาจยอมรับได้ ด้านนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดา แสดงจุดยืนสนับสนุนนายไบเดน

 

แต่รัฐบาลฝรั่งเศสและเยอรมนีปฏิเสธที่จะร่วมประณาม ส่งผลให้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ไม่พอใจและตำหนิพฤติกรรมของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ว่าทำให้ยูเครนเจ็บปวดมาก

 

สำหรับยุทโธปกรณ์ชุดใหม่ที่สหรัฐจะจัดส่งไปให้ยูเครน ครอบคลุมถึงรถหุ้มเกราะ เฮลิคอปเตอร์ และอาวุธหนักบางส่วนที่ทางการสหรัฐเคยปฏิเสธเพราะเกรงว่าจะทำให้ความขัดแย้งกับรัสเซียยิ่งตึงเครียด

 

แต่ด้วยพฤติกรรมของรัสเซียที่ไม่ยอมยุติศึกสหรัฐจึงตัดสินใจส่งอาวุธหนักสนับสนุนยูเครน นอกจากนี้นายไบเดนยังต่อสายตรงหารือกับนายเซเลนสกีเป็นเวลานานราว 1 ชั่วโมง โดยให้คำมั่นว่าจะเสริมขีดความสามารถในการป้องกันตัวเองให้กับยูเครน

 

ด้านศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เปิดเผยกับสื่อว่ายูเครนกลายเป็นประเทศจุดเกิดเหตุอาชญากรรม นายคาริม ข่าน อัยการสูงสุดประจำศาลไอซีซี กล่าวระหว่างเยือนเมืองบูชา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเคียฟ หนึ่งในพื้นที่โศกนาฏกรรมรัสเซียสังหารหมู่

 

โดยย้ำถึงเหตุผลที่เดินทางมายังเมืองบูชาว่ามีเหตุอันควรเชื่อว่าที่นี่เกิดอาชญากรรมที่อยู่ในอำนาจศาลในการดำเนินคดี ซึ่งจากรายงานอย่างไม่เป็นทางการพบว่ามีพลเรือนถูกทหารรัสเซียฆ่ามากกว่า 400 ราย และเหยื่ออย่างน้อย 25 คนถูกข่มขืน

 

วันเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงอีกว่าเรือลาดตระเวนติดตั้งระบบขีปนาวุธมอสกวาของกองทัพรัสเซียได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการระเบิดและไฟไหม้ลุกลามขณะปฏิบัติหน้าที่ในทะเลดำ เบื้องต้นลูกเรืออพยพออกมาได้อย่างปลอดภัย และสาเหตุยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

 

ข้อมูล ข่าวสด

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

 

กดเลย >> community แห่งความบันเทิง

ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง