รีเซต

SAV คลายกังวลกัมพูชา ลั่น Q4 เข้าช่วงพีค

SAV คลายกังวลกัมพูชา ลั่น Q4 เข้าช่วงพีค
ทันหุ้น
28 ตุลาคม 2568 ( 01:40 )
3

                นายรัฐนันท์   วิไลลักษณ์  ผู้จัดการอาวุโสและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะตัวแทน บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า การร่วมลงนามผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล และนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ในข้อตกลงสันติภาพของทั้ง 2 ประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนเป็นสักขีพยานในข้อตกลงครั้งนี้นั้น

@ เสริมความมั่นใจ

                ได้ส่งผลดีโดยตรงต่อ SAV ในฐานะบริษัทที่มีบริษัทย่อยคือ บริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิค เซอร์วิส จํากัด หรือ CATS ผู้ให้บริการบริหารจัดการควบคุมการจราจรทางอากาศทั่วน่านฟ้าประเทศกัมพูชาเพียงผู้เดียว โดยผลดีที่เกิดขึ้นจะเป็นเชิงความมั่นใจจากนักลงทุนต่างๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยกังวลประเด็นความขัดแย้งระดับเกิดเหตุปะทะบริเวณชายแดนจะบานปลายไปสู่การโดนยึดสัมปทาน รวมไปถึงกังวลว่าแม้จะไม่ถูกยึดสัมปทานแต่จำนวนเที่ยวบินอาจลดลงจากความไม่มั่นใจของผู้เดินทางทางอากาศ

                อย่างไรก็ตาม ในสภาพการณ์ประกอบธุรกิจจริง บริษัทไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบส่งผลต่อกำไรการดำเนินงานแต่ประการใด อีกทั้ง CATS มีภาพลักษณ์เป็นธุรกิจท้องถิ่นของประเทศกัมพูชา เนื่องจากบุคลากรเกือบทั้งหมดล้วนเป็นคนในพื้นที่ และตลอดมาไม่เคยมีสัญญาณเชิงลบใดๆ ต่อสัมปทาน ซึ่งมีระยะเวลาสัมปทานเหลืออีก 26 ปี จากทั้งสิ้นรวมระยะเวลาสัมปทาน 49 ปี

ในอีกแง่มุมบริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนให้ทางกัมพูชามาโดยตลอดด้วยความชำนาญ ดังนั้นจะเป็นความเสี่ยงในเชิงผลตอบแทนหากรัฐบาลกัมพูชาจะดำเนินการเอง

@ สนามบินเตโชเติบโต

                สำหรับโครงการสนามบินนานาชาติเตโช ประเทศกัมพูชา ที่เพิ่งเปิดบริการอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายน 2568 แม้จะมีภาพจากภายนอกประเมินว่า การเข้าไปใช้บริการไม่ได้มากอย่างชัดเจนนั้น ในความเป็นจริงตัวเลขเที่ยวบินระหว่างประเทศไม่ได้ลดลง เพียงแต่ค่อยๆ เติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป อ้างอิงข้อมูลตรวจสอบตัวเลข In-Flight International ของสนามบินเตโช ไม่ได้ลดลงเลย ตั้งแต่ย้ายสนามบิน

                ทั้งนี้เฟสแรกของสนามบินใหม่แห่งนี้สามารถรองรับความจุที่มาก แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 ระยะ ตามแผนระยะแรกปี 2568 รองรับ 13 ล้านคนต่อปี, ระยะที่ 2 ปี 2573 รองรับ 30 ล้านคนต่อปี และระยะที่ 3  รองรับ 50 ล้านคนต่อปี เปิดปี 2593 ซึ่งจะดึงดูดสายการบินต่างๆ ให้เข้ามามากขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัท ทั้งไฟล์ตการบินที่มีอยู่แล้ว และไฟล์ตการบินใหม่ๆ ที่จะทยอยเกิดขึ้น โดยออกแบบให้รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ เช่น Airbus A380 และ Boeing 747

@ แนวโน้มผลงานดี

                ขณะที่บริษัทประเมินผลประกอบการไตรมาส 4/2568 จะดีขึ้นกว่า ไตรมาส 3/2568 ปัจจัยสนับสนุนหลักคือปริมาณเที่ยวบินข้ามน่านฟ้า (Overflight) ที่บินผ่านกัมพูชามีการเติบโตขึ้น ซึ่งเกิดจากทั้งความนิยมเดินทางที่สูงขึ้นช่วงปลายปีตามฤดูกาล และจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแวดล้อมที่เกี่ยวเนื่องซึ่งเส้นทางการบินหลัก เช่น ยุโรปมาเวียดนาม, จีนมาภูเก็ต, หรือจีนลงมาเลเซีย/สิงคโปร์ ก็มักต้องผ่านเขตน่านฟ้ากัมพูชา

                และกิจกรรมการบินที่น่าจะคึกคักขึ้นนี้ทำให้บริษัทยังคงเป้าหมายกำไรปีนี้ที่สูงกว่าปีก่อนค่อนข้างมาก และรายได้จะสูงขึ้นด้วย อีกทั้งแนวโน้มน่าจะดีขึ้นได้อีกในระยะยาว ส่วนความคืบหน้าการเข้าร่วมงานประมูล Foreign Object Debris (FOD) ที่สนามบินสุวรรณภูมิและสามารถขยายต่อไปสนามบินอื่นๆ ของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT  มูลค่างาน 1,280 ล้านบาท คาดน่าจะมีการประมูลภายในปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ส่วนการเซ็นสัญญาคาดว่าจะเกิดขึ้นต้นปี 2569

                อนึ่ง นายรัฐนันท์ เคยเปิดเผยก่อนหน้านี้ ว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3/2568 ยังเติบโต แม้จะมีปัญหาชายแดนไทยกับกัมพูชาและมีการปิดด่านผ่านทาง คาดว่าจะออกมาใกล้เคียงกับไตรมาส 2/2568 ส่วนแผนเจรจาเพื่อขอปรับขึ้นค่าบริการ 5-7% จะระงับไปก่อนจนกว่าสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศจะกลับมาดีขึ้นชัดเจน แล้วจึงค่อยทบทวนอีกครั้ง

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง