SAV คลายกังวลกัมพูชา ลั่น Q4 เข้าช่วงพีค

#SAV #ทันหุ้น - SAV เชื่อลงนามสันติภาพไทย-กัมพูชา ช่วยเสริมมั่นใจนักลงทุน ยืนยันสัมปทานมั่นคงด้วยโครงสร้างธุรกิจที่มีภาพลักษณ์ความเป็นท้องถิ่น ส่วนสนามบินเตโชมีทิศทางค่อยๆ โต หนุนโอเวอร์ไฟล์ตระยะยาว ชี้แนวโน้มไตรมาส 4/2568 ดีขึ้นกว่าไตรมาส 3/2568 หนุนผลงานทั้งปีเข้าเป้า ขณะที่งานประมูล AOT หวังเริ่มเคาะปลายปี รู้ผลต้นปี 2569
นายรัฐนันท์ วิไลลักษณ์ ผู้จัดการอาวุโสและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะตัวแทน บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า การร่วมลงนามผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล และนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ในข้อตกลงสันติภาพของทั้ง 2 ประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนเป็นสักขีพยานในข้อตกลงครั้งนี้นั้น
@ เสริมความมั่นใจ
ได้ส่งผลดีโดยตรงต่อ SAV ในฐานะบริษัทที่มีบริษัทย่อยคือ บริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิค เซอร์วิส จํากัด หรือ CATS ผู้ให้บริการบริหารจัดการควบคุมการจราจรทางอากาศทั่วน่านฟ้าประเทศกัมพูชาเพียงผู้เดียว โดยผลดีที่เกิดขึ้นจะเป็นเชิงความมั่นใจจากนักลงทุนต่างๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยกังวลประเด็นความขัดแย้งระดับเกิดเหตุปะทะบริเวณชายแดนจะบานปลายไปสู่การโดนยึดสัมปทาน รวมไปถึงกังวลว่าแม้จะไม่ถูกยึดสัมปทานแต่จำนวนเที่ยวบินอาจลดลงจากความไม่มั่นใจของผู้เดินทางทางอากาศ
อย่างไรก็ตาม ในสภาพการณ์ประกอบธุรกิจจริง บริษัทไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบส่งผลต่อกำไรการดำเนินงานแต่ประการใด อีกทั้ง CATS มีภาพลักษณ์เป็นธุรกิจท้องถิ่นของประเทศกัมพูชา เนื่องจากบุคลากรเกือบทั้งหมดล้วนเป็นคนในพื้นที่ และตลอดมาไม่เคยมีสัญญาณเชิงลบใดๆ ต่อสัมปทาน ซึ่งมีระยะเวลาสัมปทานเหลืออีก 26 ปี จากทั้งสิ้นรวมระยะเวลาสัมปทาน 49 ปี
ในอีกแง่มุมบริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนให้ทางกัมพูชามาโดยตลอดด้วยความชำนาญ ดังนั้นจะเป็นความเสี่ยงในเชิงผลตอบแทนหากรัฐบาลกัมพูชาจะดำเนินการเอง
“ข้อตกลงที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ ผมคิดว่าน่าจะลดความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับ SAV ซึ่งมีรายได้หลักคือวิทยุการบินที่กัมพูชานะครับ ข้อกังวลที่เคยมีข้อ 1 คือ ความเสี่ยงถูกยึดสัมปทาน ข้อ 2 จำนวนไซซ์จะลดลงเพราะมีการปะทะกัน เพราะฉะนั้นถ้ามีภาพความสงบสุขเกิดขึ้นความกังวลของนักลงทุนก็จะหายไป แต่ต้องบอกว่าจริงๆ แล้ว ผมยืนยันว่าเราเองไม่มีความเสี่ยงขนาดนั้น ช่วงที่มีการปะทะจำนวนไฟล์ตบินที่ลดลงถือว่าน้อยมากในระดับที่แทบไม่กระทบต่อกำไรเลย”
@ สนามบินเตโชเติบโต
สำหรับโครงการสนามบินนานาชาติเตโช ประเทศกัมพูชา ที่เพิ่งเปิดบริการอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายน 2568 แม้จะมีภาพจากภายนอกประเมินว่า การเข้าไปใช้บริการไม่ได้มากอย่างชัดเจนนั้น ในความเป็นจริงตัวเลขเที่ยวบินระหว่างประเทศไม่ได้ลดลง เพียงแต่ค่อยๆ เติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป อ้างอิงข้อมูลตรวจสอบตัวเลข In-Flight International ของสนามบินเตโช ไม่ได้ลดลงเลย ตั้งแต่ย้ายสนามบิน
ทั้งนี้เฟสแรกของสนามบินใหม่แห่งนี้สามารถรองรับความจุที่มาก แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 ระยะ ตามแผนระยะแรกปี 2568 รองรับ 13 ล้านคนต่อปี, ระยะที่ 2 ปี 2573 รองรับ 30 ล้านคนต่อปี และระยะที่ 3 รองรับ 50 ล้านคนต่อปี เปิดปี 2593 ซึ่งจะดึงดูดสายการบินต่างๆ ให้เข้ามามากขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัท ทั้งไฟล์ตการบินที่มีอยู่แล้ว และไฟล์ตการบินใหม่ๆ ที่จะทยอยเกิดขึ้น โดยออกแบบให้รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ เช่น Airbus A380 และ Boeing 747
@ แนวโน้มผลงานดี
ขณะที่บริษัทประเมินผลประกอบการไตรมาส 4/2568 จะดีขึ้นกว่า ไตรมาส 3/2568 ปัจจัยสนับสนุนหลักคือปริมาณเที่ยวบินข้ามน่านฟ้า (Overflight) ที่บินผ่านกัมพูชามีการเติบโตขึ้น ซึ่งเกิดจากทั้งความนิยมเดินทางที่สูงขึ้นช่วงปลายปีตามฤดูกาล และจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแวดล้อมที่เกี่ยวเนื่องซึ่งเส้นทางการบินหลัก เช่น ยุโรปมาเวียดนาม, จีนมาภูเก็ต, หรือจีนลงมาเลเซีย/สิงคโปร์ ก็มักต้องผ่านเขตน่านฟ้ากัมพูชา
และกิจกรรมการบินที่น่าจะคึกคักขึ้นนี้ทำให้บริษัทยังคงเป้าหมายกำไรปีนี้ที่สูงกว่าปีก่อนค่อนข้างมาก และรายได้จะสูงขึ้นด้วย อีกทั้งแนวโน้มน่าจะดีขึ้นได้อีกในระยะยาว ส่วนความคืบหน้าการเข้าร่วมงานประมูล Foreign Object Debris (FOD) ที่สนามบินสุวรรณภูมิและสามารถขยายต่อไปสนามบินอื่นๆ ของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT มูลค่างาน 1,280 ล้านบาท คาดน่าจะมีการประมูลภายในปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ส่วนการเซ็นสัญญาคาดว่าจะเกิดขึ้นต้นปี 2569
อนึ่ง นายรัฐนันท์ เคยเปิดเผยก่อนหน้านี้ ว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3/2568 ยังเติบโต แม้จะมีปัญหาชายแดนไทยกับกัมพูชาและมีการปิดด่านผ่านทาง คาดว่าจะออกมาใกล้เคียงกับไตรมาส 2/2568 ส่วนแผนเจรจาเพื่อขอปรับขึ้นค่าบริการ 5-7% จะระงับไปก่อนจนกว่าสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศจะกลับมาดีขึ้นชัดเจน แล้วจึงค่อยทบทวนอีกครั้ง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
