2 โบรกฯ สแกนหุ้น “BCH” ปรับลดกำไร-หั่นเป้าหมาย

#ทันหุ้น - 2 โบรกฯ ส่องหุ้น บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH ปรับลดปรับลดประมาณการกำไร หั่นราคาเป้าหมาย โดย บล.เอเซีย พลัส คาดกำไรสุทธิ Q3/68 ที่ 320 ลบ. ลดลง YoY, QoQ แต่ยังมองบวกต่อการฟื้นตัวใน Q4/68 ฟาก บล.กสิกรไทย คงคำแนะนำ “ซื้อ” มองงบ Q3/68 อ่อนแอสะท้อนในราคาแล้ว ลุ้นกำไรกลับมาโตปลายปี

บล.เอเซีย พลัส มอง BCH ฟ้าฝนไม่เป็นใจ คาดกำไรสุทธิ Q3/68 อยู่ที่ 320 ล้านบาท ลดลง 29.5% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และ 17.6%QoQ แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ (RW<2) กำไรปกติจะเพิ่มขึ้น 1.9%QoQ จากปัจจัยฤดูกาล แต่ลดลง 15.9%YoY ตามรายได้ รพ. ที่หดตัว 8.8%YoY ส่วนใหญ่เกิดจากฐานโรคระบาดที่สูงมากในปีก่อน ส่งผลให้รายได้ เดือน ก.ค. - ส.ค. 68 หดตัวมากกว่า 10%YoY แม้เดือน ก.ย. พลิกกลับมา +2%YoY แต่ก็ยังไม่สามารถชดเชยได้ทั้งหมด นอกจากนี้ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาตั้งแต่ต้นปี ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยเงินสดระดับปานกลางซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของ BCH

อัตรากำไรขั้นต้นคาดลดลงที่ 28.2% จาก 31.4% ใน Q3/67 และ 30.1% ใน Q2/68 ตาม รายได้และความรุนแรงของโรคที่ชะลอลง อีกทั้ง รพ.เกษมราษฎร์ อรัญประเทศ ได้รับแรงกดดันจากชายแดนไทย-กัมพูชาโดยเฉพาะในช่วงเดือน ก.ค. - ส.ค. ที่มีการปะทะกันก่อนหน้า แม้ในเดือน ก.ย. จะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวจากผู้ป่วยที่อาศัยอยู่พื้นที่ใกล้เคียงกลับเข้าใช้บริการมากขึ้นก็ตาม และอัตรา SG&A/Sales ขยับขึ้นเป็น 13.8% จาก 12.8% ใน Q3/67 และ 13.3% ใน Q2/68

ทั้งนี้ เพื่อสะท้อนผลประกอบการที่อ่อนแอข้างต้น ฝ่ายวิจัยจึงปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 68 ลงมาอยู่ที่ 1,354 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6%YoY แต่ยังมองบวกต่อกำไร Q4/68 คาดเติบโตเด่น YoY จากปีก่อนถูกปรับลดอัตราค่าบริการกลุ่มโรคซับซ้อน (RW>2) เหลือเพียง 8,000 บาท/RW สำหรับงวดเดือน ก.ค.-ธ.ค.67 ขณะที่ปีนี้สนง. ประกันสังคมได้การันตีค่าบริการที่ 12,000 บาท/RW ตลอดทั้งปี และลุ้นกำไรฟื้นตัวต่อได้ QoQ เนื่องจากปีนี้ฝนมาช้ากว่าปกติ ส่งผลให้การระบาดของโรคติดเชื้อในเด็ก เช่น ไข้หวัดใหญ่, RSV และโรคมือเท้าปาก เร่งตัวขึ้นช่วงท้ายไตรมาส 3

โดยช่วงสั้นอาจยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่มาช่วยประคองทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนไม่สามารถชนะตลาดได้ ปรับลด/น้ำหนักการลงทุนเป็น Neutral และปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 69 อิง DCF อยู่ที่ 17.00 บาท

ด้าน บล.กสิกรไทย คงคำแนะนำ “ซื้อ” BCH ด้วยเป้าหมายปี 2569 ที่ 13.40 บาท (จาก 16.60 บาท) จากการปรับลดประมาณการกำไรและอัตราการเติบโตระยะยาว ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นี้น่าจะสะท้อนผลประกอบการไตรมาส 3/68 ที่อ่อนแอแล้ว

โดยคาดกำไรปกติไตรมาส 3/68 อยู่ที่ประมาณ 330 ลบ. ลดลง 13% QoQ และ 27% YoY เนื่องจากไม่มีรายได้พิเศษจาก SSO แต่หากไม่รวมรายการดังกล่าว กำไรจะเพิ่มขึ้น 9% QoQ แต่ลดลง 12% YoY

การดำเนินงานในไตรมาส 3/68 น่าจะสะท้อนอุปสงค์ที่อ่อนแอในโรงพยาบาลเดิม แม้โรงพยาบาลใหม่มีแนวโน้มการดำเนินงานดีขึ้น ซึ่งกดดันอัตรากำไร ขณะที่ในไตรมาส 4/68 คาดว่ากำไรจะฟื้นตัว YoY