“อลิอันซ์ อยุธยา” รุกโค้งท้าย ต่อยอดพอร์ตลงทุนยูนิต ลิงค์

#อลิอันซ์ อยุธยา #ทันหุ้น- อลิอันซ์ อยุธยา โค้งท้ายปลายปี ดัน ยูนิต ลิงค์เติบโต ผนึกพันธมิตร 4 บลจ. เพิ่มตัวเลือกในการลงทุนอีก  5 กองทุนใหม่ สร้างโอกาสเติบโตตลาดต่างประเทศ พร้อมเพิ่มโอกาสในสินทรัพย์ทางเลือก อย่างทองคำ เสริมพอร์ตแกร่ง สร้างความสมดุล

นายโทมัส วิลสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ AZAY กล่าวว่า อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ต่อยอดความสำเร็จพอร์ต ยูนิต ลิงค์ (Unit Linked) ที่มีอัตราเติบโตเฉลี่ยถึง 71% จากปี 2565 โดยจับมือ 4 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือ บลจ. อย่าง บลจ.ไทยพาณิชย์, บลจ.ยูโอบี บลจ.กรุงศรี และ บลจ.พรินซิเพิล  เพิ่มทางเลือกลงทุนใหม่อีก 5 กองทุน

ทำให้ปัจจุบัน มีกองทุนทั้งสิ้นถึง 21 กอง เพื่อเสริมความหลากหลายในการจัดพอร์ต 5 กองทุนต่างประเทศใหม่ ที่เข้ามาเสริมทัพ มีทั้งกองตราสารหนี้ทั่วโลก กองหุ้นต่างประเทศ และกองทอง เน้นขยายโอกาสการลงทุนตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงินของลูกค้าในทุกระดับความเสี่ยง

*ยอดขายเติบโต

ธุรกิจยูนิต ลิงค์ของอลิอันซ์ อยุธยาได้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) สูงถึง 71% และมียอดเบี้ยประกันภัยปีแรกกว่า 259 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 ขณะที่สัดส่วนยอดขายยูนิต ลิงค์ในพอร์ตช่องทางตัวแทน เพิ่มขึ้นจาก 4% เป็น 10% ภายในเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นพัฒนาการที่สะท้อนถึงศักยภาพและความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์นี้ของ อลิอันซ์ อยุธยาอย่างแท้จริง โดยปัจจัยสำคัญที่ผลักดันความสำเร็จของเรา คือการเติบโตและพัฒนาศักยภาพของตัวแทนให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินมืออาชีพอย่างต่อเนื่อง

“ปัจจุบันเรามีตัวแทนที่ได้รับใบอนุญาต IC มากถึงกว่า 1,656 คน จากการลงทุนในด้านความรู้ การฝึกอบรม และระบบสนับสนุนที่ช่วยให้ที่ปรึกษาทางการเงินของเราสามารถให้คำแนะนำที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับเป้าหมายของลูกค้าแต่ละราย รวมทั้งการมีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ในสถานการณ์เศรษฐกิจที่ท้าทาย”

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ คือ การมีกองทุนที่หลากหลาย ตอบโจทย์การจัดพอร์ตที่สมดุลกับระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมของลูกค้าแต่ละรายด้วยผลิตภัณฑ์ยูนิต ลิงค์วันนี้ จึงถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสอันดี ที่อลิอันซ์ อยุธยา ได้เปิดตัว 5 กองทุนใหม่ ผ่านความร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำของประเทศ ได้แก่ บลจ.ไทยพาณิชย์, บลจ.ยูโอบี บลจ.กรุงศรี และบลจ.พรินซิเพิล เพื่อเพิ่มทางเลือกการลงทุนที่ครอบคลุมในหลากหลายสินทรัพย์

เพิ่ม 5 กองทุนใหม่

โดย 5 กองทุนใหม่ ได้แก่ กองทุนตราสารหนี้ทั่วโลก ได้แก่ กองทุน KF-CSINCOME (Krungsri Global Collective Smart Income Fund) ลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลกผ่านกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund เพื่อสร้างรายได้สม่ำเสมอ ผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวราว 4–5% ต่อปี

สำหรับ กองทุนหุ้นต่างประเทศ ได้แก่ PRINCIPAL USEQ-C กองทุนหุ้นสหรัฐ เชิงรุก คัดเลือกหุ้นยักษ์ใหญ่ระดับโลกจาก Financial Strength Score โดยมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องตามการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ในปี 2025

      SCBJAPAN (SCB Japan Active Equity Fund) ลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นคุณภาพสูงผ่านพอร์ต Goldman Sachs Japan Equity Partners มุ่งเน้นบริษัทในช่วงฟื้นตัว โดยได้แรงหนุนจากธีมเด่นปี 2025 อย่าง Semiconductor, AI และการปฏิรูประดับองค์กรในญี่ปุ่น

EHD (Euro High Dividend Fund – UOBAM) เน้นหุ้นยุโรปที่มีคุณภาพสูงและจ่ายปันผลต่อเนื่อง ผ่านกองทุนหลัก Goldman Sachs Eurozone Equity Income พร้อม Dividend Yield เฉลี่ยราว 3.9% และศักยภาพเติบโตจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรป

ขณะที่สินทรัพย์ทางเลือก เพิ่มโอกาสลงทุนในทองคำกับ กองทุนทอง SCBGOLD (SCB Gold Fund) ลงทุนใน SPDR Gold Trust ซึ่งถือทองคำแท่งจริง เหมาะสำหรับการกระจายความเสี่ยงพอร์ตในช่วงเศรษฐกิจผันผวน โดยราคาทองมักปรับขึ้นเมื่อดอกเบี้ยลดลงหรือเงินเฟ้อสูง

                การเพิ่มกองทุนใหม่ ครั้งนี้ สะท้อนถึงจุดแข็งของอลิอันซ์ อยุธยาในการสร้างพอร์ตการลงทุนที่สมดุล หลากหลาย และเชื่อมโยงกับตลาดทั่วโลก เพื่อให้ลูกค้าสามารถออกแบบแผนยูนิต ลิงค์ได้ตามเป้าหมายและระดับความเสี่ยงของตนเองอย่างแท้จริง