MGC ไตรมาส 3/68 กำไรสุทธิพุ่ง 2,525.5% เคาะจ่ายปันผล 0.14 บาท/หุ้น
MGC ไตรมาส 3/68 กำไรสุทธิพุ่ง 2,525.5% เคาะจ่ายปันผล 0.14 บาท/หุ้น
#ทันหุ้น #SET #MGC บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) MGC กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2567 และ พ.ศ. 2568 เท่ากับ 4,503.7 ล้านบาท และ 5,858.5 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มขึ้น 1,328.2 ล้านบาท หรือ 29.3% โดยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกลุ่มธุรกิจจำหน่ายยานยนต์
กลุ่มบริษัทมีกำไรขั้นต้นสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2567 และ พ.ศ. 2568 เท่ากับ 494.7 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 10.9% ต่อรายได้รวม และ 857.1 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 14.6% ต่อรายได้รวม ตามลำดับ เพิ่มขึ้น 362.4 ล้านบาท หรือ 73.2%
กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2567 และ พ.ศ. 2568 เท่ากับ 9.6 ล้านบาท คิดเป็น 0.2% และ 253.0 ล้านบาท คิดเป็น 4.3% ตามลำดับ เพิ่มขึ้น 243.3 ล้านบาท หรือ 2,525.5% โดยหลักมาจากส่วนแบ่งกำไรจาก
(1) บริษัทร่วมทางอ้อม Neo Mobility Asia ที่เริ่มส่งมอบรถยนต์ตั้งแต่ไตรมาส 4/2567 และเริ่มรับรู้กำไรในปี 2568 มาจนถึงกรกฎาคม 2568 และผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจจำหน่ายรถยนต์
(2) การร่วมค้าทางตรง Alpha X ที่เพิ่มขึ้นจากการเติบโตของรายได้ในธุรกิจ Wealth lending กับลูกค้ากลุ่มมั่งคั่ง (Ultra-high net worth) และสามารถควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้ตามแผนที่ตั้งไว้ และ
(3) ผลประกอบการของบริษัทร่วมทางตรง Howden Maxi ที่เพิ่มขึ้น
กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2567 และ พ.ศ. 2568 เท่ากับ 14,250.6 ล้านบาท และ 14,578.0 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มขึ้น 327.4 ล้านบาท หรือ 2.3% โดยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกลุ่มธุรกิจจำหน่ายยานยนต์
กลุ่มบริษัทมีกำไรขั้นต้นสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2567 และ พ.ศ. 2568 เท่ากับ 1,455.5 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 10.1% ต่อรายได้รวม และ 1,777.2 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 12.1% ต่อรายได้รวม ตามลำดับ เพิ่มขึ้น 321.7 ล้านบาท หรือ 22.1%
กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2567 และ พ.ศ. 2568 เท่ากับ 50.3 ล้านบาท คิดเป็น 0.4% และ 361.7 ล้านบาท คิดเป็น 1.2% ตามลำดับ เพิ่มขึ้น 311.4 ล้านบาท หรือ 618.7% โดยหลักมาจากส่วนแบ่งกำไรจาก
(1) บริษัทร่วมทางอ้อม Neo Mobility Asia ที่เริ่มส่งมอบรถยนต์ตั้งแต่ไตรมาส 4/2567 และเริ่มรับรู้กำไรในปี 2568 มาจนถึงกรกฎาคม 2568 และผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจจำหน่ายรถยนต์
(2) การร่วมค้าทางตรง Alpha X ที่เพิ่มขึ้นจากการเติบโตของรายได้ในธุรกิจ Wealth lending กับลูกค้ากลุ่มมั่งคั่ง (Ultra-high net worth) และสามารถควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้ตามแผนที่ตั้งไว้ และ
(3) ผลประกอบการของบริษัทร่วมทางตรง Howden Maxi ที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 มีมติดังนี้
- ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติไม่ใช้สิทธิตามสัญญาดำเนินการในการซื้อหุ้นของบริษัทภายใต้ Call Option (บริษัท เกย์ดอน มอเตอร์ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด, บริษัท โมเดน่า มอเตอร์เวอร์ค จำกัด, บริษัท ไลอ้อน ออโตโมบิล จำกัด, บริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด, MGC Asia Holding SDN. BHD. และ Master Group Corporation (Laos) Co., Ltd.) ตามสัญญาดำเนินการ (Undertaking Agreement) ลงวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2565 เนื่องจากไม่เข้าเงื่อนไขการใช้สิทธิตามที่ระบุในสัญญาดังกล่าว
การพิจารณามติดังกล่าวมีกรรมการอิสระเข้าร่วมประชุมครบทุกท่าน และกรรมการที่มีส่วนได้เสียมิได้เข้าร่วมประชุมและไม่ออกเสียง ทั้งนี้มติของคณะกรรมการบริษัทดังกล่าวสอดคล้องกับความเห็นจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร ครั้งที่ 8/2568 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ซึ่งได้พิจารณาตามหลักเกณฑ์รายการที่เกี่ยวโยงกันของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- ที่ประชุมมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรสะสมตามงบการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2568 เป็นจำนวน 155.93 ล้านบาท ในอัตราหุ้นละ 0.14 บาท (หักหุ้นที่ซื้อคืนจำนวน 6,200,000 หุ้น) คิดเป็นจำนวนหุ้นรวม 1,113,800,000 หุ้น
บริษัทฯ กำหนดจ่ายเงินปันผลภายในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2568 และกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) เป็นวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดสรรเงินกำไรเพื่อเป็นทุนสำรองตามกฎหมายครบถ้วนแล้ว
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้